7 บุคคลกับ "เรื่องอื้อฉาว" ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

7 บุคคลกับ "เรื่องอื้อฉาว" ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

7 บุคคลกับ "เรื่องอื้อฉาว" ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เราอาจจะคิดว่ากีฬานั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้จากกลุ่มคนหรือใครคนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะฟุตบอลนั้นเป็นกีฬายอดนิยมที่ผู้คนติดตามอย่างแพร่หลาย

ฟุตบอล กับ เงิน นั้นมีความสัมพันธ์กันมานานแล้วกว่า 100 ปี ซึ่งเงินต่างๆนั้นเป็นสิ่งล่อตาล่อใจให้เกิดการคอรัปชั่น หรือการทุจริตต่างๆในวงการนี้ได้

ตามมาดูเรื่องนี้ 7 บุคคลกับเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอล

โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม

 1

อดีตนายกสมาคมฟุตบอลกาตาร์ และประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ AFC โมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมัม เคยถูกแบนจากฟีฟ่าตลอดชีวิตเมื่อปี 2011

ในเวลานั้นเขาได้เตรียมที่จะลงแข่งขันกับ เซพพ์ บลัทเทอร์ สำหรับตำแหน่งประธานฟีฟ่า แต่การสมัครเลือกตั้งของเขานั้นได้ถูกระงับไปเสียก่อน เนื่องจากพบว่ามีการติดสินบนให้กับสมาชิกของสมาคมฟุตบอลคาริบเบียนในการประชุมหาเสียงผู้ลงสมัครประธานฟีฟ่าที่ประเทศตรินิแดดฯ

การแบนอย่างถาวรนี้ได้ถูกตัดสินโดยศาลการกีฬา แต่อย่างไรก็ตาม บิน ฮัมมัม ได้ถูกตัดสินในคดีที่ 2 อีกครั้งในปี 2012 ด้วยคดีที่มีผลประโยชน์ซ่อนเร้นเมื่อครั้งเขายังดำรงตำแหน่งเป็นประธาน AFC นั่นเอง

มาร์โก เปาโลนี

 2

จูเซ็ปเป ซินญอรี, เมาโร เบรสซาน (ผู้ซึ่งทำประตูจักรยานกลางอากาศให้กับ ฟิออเรนตินา บนเวที แชมเปียนส์ ลีก) และ คริสเตียโน โดนี เป็นที่รู้จักกันดีในนามของกลุ่มคนผู้ที่ร่วมกรทำเรื่องอื้อฉาววงการฟุตบอลอิตาลี ปี 2011 กับการล็อคผลการแข่งขัน แต่ก็ยังดูจะน้อยกว่าผู้รักษาประตูอย่าง มาร์โก เปาโลนี ในลีกรองของแดนมักกะโรนีเสียอีก

เปาโลนี ถูกพบว่าเขามีส่วนจัดการเรื่องผลการแข่งขันของทีมตัวเอง แต่เป็นการวางยาเพื่อนร่วมทีมเครโมเนเซของเขาในเกมหนึ่ง

เขาได้สารภาพภายหลังว่าได้ใส่ยากล่อมประสาทให้เพื่อนร่วมทีมเครโมเนเซดื่มเพื่อให้มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ซึ่งยานั้นไม่ได้ออกฤทธิ์เร็วมากนักหลังจากที่ดื่มเข้าไป ซึ่งหนึ่งในผลกระทบที่ร้ายแรงเอามากๆหลังจากนั้นคือ เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของเขาเกือบจะขับรถชนระหว่างกลับบ้านหลังเกมการแข่งขัน

ชังค์ เบลเซอร์

 3

มันเป็นการให้ความร่วมมือกับ FBI ในช่วงท้ายๆเกี่ยวกับการสืบสวนและจับกุมคดีทุจริตต่อฟีฟ่าในปี 2015 ของ ชังค์ บลาเซอร์ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยในคดีติดสันบนและฉ้อโกงภาษี

เลขาธิการทั่วไป CONCACEF บลาเซอร์ ถูกสอบสวนครั้งแรกในคดีการปกปิดและยื่นแบบภาษีอันเป็นเท็จซึ่งเขานั้นก็ให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น

ในปี 2013 เอง เขาได้รับสารภาพว่ามีส่วนร่วมใน 10 คดี เกี่ยวกับการฟอกเงินและการกระทำผิดอื่นๆด้านการโยกย้ายเงินและภาษีด้วย

เอริช เมลเก้

 4

เป็นที่รู้จักกันดีในนามหัวหน้าสตาซีของ เยอรมนี ตะวันออก นานกว่า 30 ปี จนกระทั่งกำแพงเบอร์ลินล่มสลายไป เอริช เมลเก้ ยังคงมีส่วนร่วมในการควบคุมทีมฟุตบอลใน เยอรมนี ตะวันออก อีกด้วย

เมลเก้ เป็นประธานใหญ่สุดของสโมสรฟุตบอล เอสวี ไดนาโม แต่เขานั้นเป็นแฟนตัวยงของ บีเอฟี ไดนาโม ซึ่งเป็นสโมสรที่ก่อตั้งจาก ไดนาโม เบอร์ลิน ก่อนหน้านั้น และทาง เมลเก้ เองนั้นก็ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้สโมสรของเขานั้นเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด

ในปี 1954 เขาได้สั่งการให้ผู้เล่นของ ไดนาโม เดรสเดน (ทีมที่เป็นส่วนหนึ่งของ เอสวี ไดนาโม) ย้ายไปร่วมทีมของเขา ขณะที่ช่วงนั้น การกีฬาของ เยอรมัน ตะวันออก ถูกตั้งข้อสงสัยเป็นอย่างมาก โดยหลังจากนั้นในปี 1979 ถึง 1988 ก็เป็นทาง บีเอฟซี ไดนาโม ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ 10 สมัยติดต่อกัน

แจ็ค เวอร์เนอร์

 5

นักธุรกิจและนักการเมืองชาวตรินิแดดฯ แจ็ค เวอร์เนอร์ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการบริหารของฟีฟ่าเป็นเวลา 28 ปี และยังเป็นประธาน CONCACAF อีก 21 ปี จนกระทั่งเขาได้ลาออกจากทุกๆบทบาทในปี 2011

เขาลาออกไปจากการได้รับแรงกดดันอย่างมากมาหลายปีจากข้อหาคอรัปชั่น, สนับสนุนการจำหน่ายตั่วผีในตลาดมืด, การประมูลงานต่างๆ , ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดทางโทรทัศน์, การฉ้อโกง และ การบริหารงานจัดการย่ำแย่

CONCACAF ได้ออกเผยแพร่รายงานในปี 2013 เรื่องต่างๆที่ เวอร์เนอร์ กระทำการทุจริตต่อ FIFA และ CONCACAF เอง ซึ่งเขาถูกจับกุมได้ภายหลังที่มีส่วนร่วมกับเรื่องฉาวเกี่ยวกับการติดสินบนให้ต่อสมาชิกของสมาคมฟุตบอลในปี 2015 ซึ่งเขาก็ได้รับโทษแบนจากทุกบทบาททางฟุตบอลตลอดชีวิตในปีนั้นเอง

เบอร์นาร์ด ทาปี้

 6

มาร์กเซย ถูกริบแชมป์ลีก เอิง คืนในปี 1992/93 หลังจากถูกจับได้ว่ามีส่วนล็อคผลการแข่งขัน โดยประธานสโมสรอย่าง เบอร์นาร์ด ทาปี้ ได้ให้นักเตะคนหนึ่งในทีมของเขาเสนอการติดสินบนกับทาง 3 ผู้เล่นของ วาล็องเซียนส์ ในเกมสุดท้ายที่ตัดสินชะตาแชมป์

โดยเหตุจูงใจในครั้งนี้ของ มาร์กเซย นั่นก็คือความมั่นใจที่ว่าพวกเขานั้นจะไม่สูญเสียนักเตะคนในการบาดเจ็บให้เกมลีก ซึ่งพวกเขามีเกมสำคัญอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงฯ กับ เอซี มิลาน อีกไม่กี่วันต่อมาหลังจากนัดสุดท้ายใน ฝรั่งเศส จีน-แจคเกส์ อีเดลี ถูกทราบภายหลังว่าเป็นคนติดต่ออดีตเพื่อนร่วมทีมที่ วาล็องเซียนส์ สมัยพวกเขาค้าแข้งอยู่ที่ น็องต์ ด้วยกันเรื่องการติดสินบนภายหลัง

มาร์กเซย สามารถคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก มาได้จากการเอาชนะ ปีศาจแดงดำ 1-0 แต่ในที่สุดก็ถูกยึดถ้วยแชมป์ลีก เอิง จากการฉ้อโกงดังกล่าว และถูกปรับให้ตกชั้นจากปัญหาด้านการเงิน ส่วน ทาปี้ นั้นได้ยอมรับข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการติดสินบนมาแล้วหลายครั้งอีกด้วย

เซพพ์ บลัทเทอร์

 7

หลายปีที่ผ่านมามีข้อสงสัยและข้อสงสัยเกี่ยวกับการบริหารงานของอดีตประธานฟีฟ่า อย่าง เซพพ์ บลัทเทอร์ ซึ่งยังไม่มีความมั่นใจว่าเขามีส่วนตัดสินใจต่างๆอย่างอื่นนอกเหนือบอร์ดบริหารไหม

มีข้อหาเกี่ยวกับการคอรัปชัน, ควบคุมการประมูลงานต่างๆ, ด้านการบริหารจัดการการเงินที่ไม่ดี และการดีลงานที่ยังคลุมเครือ

ปี 2015 เรื่องอื้อฉาวนั้นยังไม่จบจนกระทั่งทำให้ บลัทเทอร์ ทนแรงกดดันไม่ไหวลาออกจากตำแหน่งประธานฟีฟ่าไปในที่สุด แม้ว่าหลังจากนั้นจะได้รับเลือกให้เป็นประธานอีกสมัยก็ตาม

จากนั้นเขากูถูกสอบสวนถึงกรณีมีการจ่ายเงินให้กับประธานยูฟ่า อย่าง มิเชล พลาตินี ซึ่งเขาถูกแบนจากฟุตบอลระหว่างการสอบสวน 90 วัน และหลังจากนั้นก็โดนลงโทษเป็นแบน 8 ปี จากทุกๆบทบาทในวงการฟุตบอล

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ 7 บุคคลกับ "เรื่องอื้อฉาว" ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook