ฟุตบอล : ยิ่งอยู่ยิ่งห่าง!

ฟุตบอล : ประเด็นจากเกมบิ๊กแมตช์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด มีทั้งเรื่องใหม่ และเรื่องเก่าที่จำเป็นจะต้องนำมาเล่ากันใหม่

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกอาการไม่พอใจลูกทีมอีกครั้ง หลังจากเอาแต่ยิงทิ้งยิงขว้าง ทำให้ชนะได้อย่างหวุดหวิด

ทั้งที่สมควรอย่างยิ่งที่จะขยี้คู่ปรับอย่าง อาร์เซนอล ให้แหลกลาญ

แม้ว่าสกอร์มันอาจจะไม่เลยเถิดบานปลายเหมือนเมื่อซีซั่นที่แล้ว และทีมได้ทั้งจุดโทษ รวมถึงคู่แข่งได้ใบแดงอีกครั้ง

แต่เป็นใครก็หงุดหงิดเหมือนกัน

อันนั้นเป็นเรื่องของเกม แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้แฟนบอลทีมอื่นหวั่นหวาดนั่นก็คือ เรายังไม่ได้เห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ท็อปฟอร์มแม้แต่นัดเดียว

แต่กลับไปยืนแป้นเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกเรียบร้อยแล้ว

เส้นทางยังอีกยาวไกลมากๆ แม้จะมีคำพูดที่ว่า ในยุคสมัยพรีเมียร์ลีก เมื่อไหร่ก็ตามที่ ยูไนเต็ด นำแล้วมันจะนำเลยไม่ลงมา ซึ่งคำพูดนี้ยังใช้ได้อยู่ แม้ปีที่แล้วจะถูกลูบคมด้วยฝีเท้าของคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ตามที

ปัญหาของ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากตลอด 3-4 ปีหลัง นั่นก็คือ การเดินเกมรุกนั้นไม่ต่อเนื่อง และขาดความแม่นยำ รวมถึงไม่สามารถที่จะกดดันคู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนกับยุคที่ต้อนรับมิลเลนเนียม ตอนนั้นเล่นในรังพวกเขาดุจริงๆ

ประเด็นก็คือ เซอร์อเล็กซ์ ที่ค่อนข้างยัวะ นั่นก็คือ แมนฯยูฯ กับ อาร์เซนอล ตอนนี้มันไม่เหมือนกับเมื่อ 10 ปีก่อน เพราะ อาร์เซนอล ไม่ใช่ทีมที่จะมาต่อกรลุ้นแชมป์กันเหมือนเดิมอีกแล้ว

อันนี้เริ่มนับกันมาได้หลายซีซั่น

ยิ่งเกมนี้ ไม่ใช่เกมที่สูสีกันเท่าไหร่นัก เมื่อ ยูไนเต็ด ได้ประตูออกนำไป 2 ลูก ตัวผู้เล่นก็เหนือกว่า แต่กลับโดนตีไข่แตกทำให้ชนะในสกอร์ที่ตรงข้ามกับเกม

เมื่อถึงตรงนี้ หากใครเป็นแฟนบอลของ อาร์เซนอล คงจะทอดถอนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานะการลุ้นแชมป์บอลลีก

คือยิ่งเล่นยิ่งห่างจาก แมนฯยูไนเต็ด เข้าไปทุกที

อาร์แซน เวนเกอร์ ทุกคนไม่สนใจชื่อนี้ จนกระทั่งทุกคนหันมามองเมื่อทำทีมขึ้นมาบดกับ ยูไนเต็ด ได้อย่างสนุกสูสีนานนับ 10 ปี แต่นาทีนี้มันเริ่มห่างกันไปเรื่อยๆ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดในช่วงหลัง

ก่อนเกมไม่มีการปะทะคารมของกุนซือ "เวนเกอร์ VS เฟอร์กี้" ที่ว่ากันว่า ดุเดือดเลือดพล่านที่สุดนับตั้งแต่กำเนิดเกิดพรีเมียร์ลีก

เซอร์ไม่เคยกล่าวให้สัมภาษณ์ถึง อาร์เซนอล ว่า "ไม่ใช่เกมที่สูสีกัน" แม้กระทั่งซีซั่นก่อนที่ชนะ 8-2 ก็ตาม

เท่ากับนาทีนี้ เซอร์ แน่ใจแล้วว่า ทีมที่พวกเขาต้องหนักใจ ไม่ใช่ อาร์เซนอล อีกต่อไปแล้ว

มันเป็นความจริงอันเจ็บปวดมาก ยิ่งนาทีที่เห็น โรบิน ฟ่าน เพอร์ซี่ สังหารทีมที่เขาเคยอยู่มานานถึง 8 ปีเต็ม มันแสดงแทนแฟนกันเนอร์ส

ยิ่งทำยิ่งห่างยิ่งทำยิ่งสมองไหล ศรัทธามหัศจรรย์นัดกลางสัปดาห์ที่เรดดิ้ง

มันก็แค่ภาพลวงตาโฆษณามาคั่นความจริง...เท่านั้นเอง!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"