วิเคราะห์บอล (2) เชลซี - ลิเวอร์พูล (12)

วิเคราะห์บอล (2) เชลซี - ลิเวอร์พูล (12)

วิเคราะห์บอล (2) เชลซี - ลิเวอร์พูล (12)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก

(2) เชลซี - ลิเวอร์พูล (12)

เวลา: 23.00 น.
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผู้ตัดสิน: ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
ถ่ายทอดสด: ช่อง 3, ทรูสปอร์ต 1

 

 

 

 

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เชลซี

7 พ.ย. 55 ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ทสค์ 3-2 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
3 พ.ย. 55 เสมอ สวอนซี 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
31 ต.ค. 55 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 5-4 (เหย้า) ลีกคัพ
28 ต.ค. 55 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
23 ต.ค. 55 แพ้ ชัคตาร์ โดเน็ทสค์ 1-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก

ลิเวอร์พูล

8 พ.ย. 55 แพ้ อันชี 0-1 (เยือน) ยูโรป้าลีก
4 พ.ย. 55 เสมอ นิวคาสเซิล 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
31 ต.ค. 55 แพ้ สวอนซี 1-3 (เหย้า) ลีกคัพ
28 ต.ค. 55 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
25 ต.ค. 55 ชนะ อันชี 1-0 (เหย้า) ยูโรป้าลีก

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

8 พ.ค. 55 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 4-1 เชลซี
5 พ.ค. 55 เอฟเอคัพ เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล
29 พ.ย. 54 ลีกคัพ เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล
20 พ.ย. 54 พรีเมียร์ลีก เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล
6 ก.พ. 54 พรีเมียร์ลีก เชลซี 0-1 ลิเวอร์พูล
7 พ.ย. 53 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี

ความพร้อม-สภาพทีม

เชลซี

จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีม น่าจะได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังใช้โทษแบน 4 นัดเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ถูกใช้งานในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์ด้วย โดยอาจเป็นดาวิด หลุยซ์ กองหลังทีมชาติบราซิล ที่ได้พักในเกมนี้ เพราะมีปัญหาเรื่องความฟิตในการลงเตะช่วงหลังๆ

ส่วนแอชลี่ย์ โคล แบ๊กซ้ายตัวหลัก ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริง ทำให้ไรอัน เบอร์ทรานด์จะได้ลงทำหน้าที่แทน ส่วนแฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ตัวเก๋า เป็นอีกคนที่ยังไม่ฟิตกลับมาจากปัญหาที่น่อง

นอจากนั้นสิงห์บลูคงจะใช้งานนักเตะตัวหลักชุดเดิมอย่างพร้อมหน้า โดยฆวน มาต้า ปีกทีมชาติสเปน ซึ่งพลาดเกมลีกนัดที่แล้วไปเพราะอาการบาดเจ็บ พร้อมกลับมาปั้นเกมรุกร่วมกับออสการ์และเอด็อง อาซาร์ได้ตามเดิม ทำให้วิคเตอร์ โมเซส ซึ่งเป็นฮีโร่ในการทำประตูให้ทีมได้ในสองนัดล่าสุด คงต้องนั่งรอโอกาสที่ข้างสนามไปก่อน

ผู้เล่นบาดเจ็บ: แอชลีย์ โคล (แฮมสตริง), แฟรงค์ แลมพาร์ด (น่อง)

ความพร้อม-สภาพทีม

ลิเวอร์พูล

เกล็น จอห์นสัน แบ๊กขวาทีมชาติอังกฤษ ฟิตกลับมาจากปัญหาการเจ็บแฮมสตริงได้แล้ว และคงจะกลับมาลงเล่นทันที แต่ยังไม่แน่ว่าจะได้ยืนแบ๊กซ้ายแบบที่ลงเล่นมาเป็นส่วนใหญ่ในฤดูกาลนี้ หรือจะขยับไปยืนในตำแหน่งถนัดอีกครั้ง

ส่วนเปเป้ เรน่า นายประตูมือหนึ่ง ยังต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าจะพร้อมคืนสนามได้หรือไม่จากอาการบาดเจ็บแบบเดียวกัน ซึ่งได้รับมาตั้งแต่โปรแกรมทีมชาติครั้งก่อน จนทำให้เขายังไม่ได้ลงเล่นอีกเลย โดยมีแบรด โจนส์รับหน้าที่เฝ้าเสาแทนมาตลอด

เกมนี้หงส์แดงจะปรับทัพกลับมาใช้งานทีมชุดใหญ่อีกครั้ง หลังส่งนักเตะสำรองลงเล่นยกชุด ไม่นับผู้รักษาประตู ในเกมยูโรป้าลีกเมื่อกลางสัปดาห์ โดยสตีเว่น เจอร์ราร์ดจะกลับมาคุมเกมแดนกลาง ส่วนหลุยส์ ซัวเรซจะลงมาเป็นตัวหลักในแนวรุกเช่นเดิม

ผู้เล่นบาดเจ็บ: เปเป้ เรน่า (แฮมสตริง), ฟาบิโอ บอรินี่ (เท้า), มาร์ติน เคลลี่ (เข่า), ลูคัส เลวา (ต้นขา)

วิเคราะห์รูปเกม

เชลซีฟอร์มสะดุดเก็บได้แค่แต้มเดียวจาก 2 นัดหลัง ทำให้ถูกเบียดตกบัลลังก์จ่าฝูงไปแล้ว และนัดนี้ก็ต้องเจอกับอุปสรรคสำคัญในทันที เพราะลิเวอร์พูลถึงฟอร์มจะยังยอบแยบแต่ก็มักจะทำได้ดีในการเจอกัน แต่นัดนี้เทียมตัวผู้เล่นกันแล้ว สิงห์บลูยังขี่อยู่เยอะ ถ้าเล่นได้ตามเกมที่เคยทำได้ และจังหวะจบสกอร์ทำได้ตามเป้า ยังน่าจะมีลุ้นถอนขนหงส์แดงที่ไม่มีทีเด็ดอะไรมากนักได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เชลซี (4-2-3-1): ปีเตอร์ เช็ก; บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล; จอห์น โอบี้ มิเคล, รามิเรส; ฆวน มาต้า, ออสการ์, เอด็อง อาซาร์; เฟร์นานโด ตอร์เรส

ผู้จัดการทีม: โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ

ลิเวอร์พูล (4-3-3): แบรด โจนส์; อังเดร วิสดอม, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, เก็น จอห์นสัน; โจ อัลเลน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, นูรี ซาฮิน; ซูโซ่, หลุยส์ ซัวเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ผู้จัดการทีม: เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ฮอตสกอร์: เชลซีชนะ 2-0

เกร็ดย่อย

*เฟร์นานโด ตอร์เรสทำ 5 ประตูในการพบกับเชลซี 4 นัดในพรีเมียร์ลีกสมัยเป็นนักเตะลิเวอร์พูล แต่ยังไม่เคยทำประตูหงส์แดงได้เลยใน 3 นัดที่พบกันในฐานะนักเตะสิงห์บลู

*ตอร์เรสประเดิมสนามนัดแรกให้เชลซีในเกมกับลิเวอร์พูลที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ทีมใหม่ของเขาก็แพ้ทีมเก่าตลอด 3 นัดที่พบกันในพรีเมียร์ลีกหลังจากนั้น รวมถึงในลีกคัพฤดูกาลที่แล้วด้วย

*ลิเวอร์พูลแพ้แค่ 2 จาก 11 นัดหลังสุดที่พบกับเชลซีในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 2) และชนะรวดใน 4 ครั้งหลัง

*ลิเวอร์พูลชนะ 3 และแพ้แค่ครั้งเดียวในการไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ 5 ครั้งหลังสุด และยังบุกไปชนะได้ในเกมลีกคัพเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วย

*เชลซีเสียประตูติดต่อกันมาแล้ว 5 นัดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดของทีมนับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา และพวกเขายังเสียประตูก่อนในสองนัดหลังสุดที่ลงเตะในบ้านด้วย

*ลิเวอร์พูลเป็นทีมเดียวที่ยังทำประตูในช่วง 15 นาทีสุดท้ายไม่ได้เลยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

*หลุยส์ ซัวเรซมีอัตราส่วนการเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูในฤดูกาลนี้ที่ 14% สูงกว่าฤดูกาลที่แล้วที่อยู่ที่ 10% และฤดูกาลก่อนหน้านั้นที่ 9%

*ซัวเรซมีส่วนร่วมโดยตรงกับประตูของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ถึง 82% เป็นรองเพียงสตีเว่น เฟล็ทเชอร์ที่ทำได้ถึง 100% กับซันเดอร์แลนด์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook