ปัญหาของ"เชลซี"

ฟุตบอล : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สมควรที่จะได้รับการยกย่อง กับแท็กติกที่เขาวางไว้ในเกมบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

การบุกไปแบ่งแต้มจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ไม่น้อยเหมือนกันในชั่วโมงนี้

เนื่องมาจากสภาพของ ลิเวอร์พูล เวลานี้มันไม่ใช่

ร็อดเจอร์ส เมื่อมีปัญหาในแนวรับนั่นคือ มาร์ติน สเคอร์เทล เป็นไข้ ทำให้เขาต้องเลือกใช้ระบบเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน ลงสนาม เนื่องจากไม่ไว้ใจ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่จะได้ลงเล่นร่วมกับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์

จนกระทั่งการเลือกส่ง ซูโซ่ ที่ ร็อดเจอร์ส เลือกเอาไว้เป็นตัวทีเด็ดท้ายเกม หลังจากที่ทีมไม่มีใครลงมาเปลี่ยนเกมได้เลยในช่วงหลังๆ หรืออย่างน้อยมีนักเตะเพื่อไว้ในการ "ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย" สักคน

บางทีผลมันก็ดีเกินคาดอย่างที่เห็น

การประยุกต์ใช้นักบอลถือว่า ร็อดเจอร์ส สอบผ่าน แต่ถ้าจะต้องแก้ไขไปตลอดทั้งซีซั่นคงไม่ไหวแน่ เพราะเวลานี้ผ่านไป 10 เกม ลิเวอร์พูล ยังอยู่ตอนล่างของตาราง ซึ่งถือว่าไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหลายคนคิดด้วยซ้ำว่า พวกเขาไม่น่าจะมีแต้มกลับมาจากเดอะ บริดจ์ ด้วยซ้ำไป

เมื่อเรามองย้อนกลับ กลายเป็น เชลซี ที่ทำได้อย่างน่าผิดหวังเป็นอย่างมาก เหมือนกับเป็น "คนละทีม" กลับเมื่อช่วงออกสตาร์ตสองเดือนแรกของฤดูกาล

โดยเฉพาะบรรดาแนวรุก "3อาว์" ไม่ว่าจะเป็น ฆวน มาตา, เอด็อง อาซาร์ และ ออสการ์ เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานทั้งหมด ทำให้ ออสการ์ ต้องโดนถอดออกแล้ว เปลี่ยนมาเดินเกมด้านข้างโดย วิคเตอร์ โมเซซ

ขณะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ไม่ต้องไปพูดถึง

ประเด็นตอนนี้ก็คือ เมื่อเกมรุกที่เคยลื่นไหล กลับเล่นเหมือนกับเฉื่อยชากันไปเอง เหมือนกับคนที่ไม่มีแรง ส่งผลให้ เชลซี ที่เคยแรง

เหมือนกับรถที่ใกล้หมดน้ำมัน

เกมเพิ่งเดินทางผ่านมาไม่นานจากจ่าฝูง นาทีนี้หล่นมาอยู่ในอันดับที่ 3 สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ผู้นำในเกมนั้นไม่มี

เห็นสภาพ จอห์น เทอร์รี่ บาดเจ็บ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด บนวัยที่จะต้องไปหากินที่อื่นแบบนี้น่าสนใจเช่นเดียวกัน

ใครจะเป็นผู้นำให้กับทีม

ว่ากันตามเชิง หากเกมเมื่อวันวาน เชลซี มี แลมพาร์ด อยู่ในสนาม และมี ดิดิเยร์ ดร็อกบา คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม รับรองว่า สภาพของ ลิเวอร์พูล คงไม่เอี่ยมออกมาง่ายๆ แบบนั้น

เพราะ เชลซี ที่หวือหวาในนาทีปัจจุบัน

มีแต่คนเดินมองหน้ากัน ไม่เห็นมีใครกระตุ้นใครเลย...

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"