กองหน้าปลาเค็ม

ฟุตบอล : หลังจบเกมที่เชลซี พ่ายให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-2 ที่สนาม ดิ ฮอว์ธอร์นส์ เชื่อเหลือเกินว่า แฟนๆ ของทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" คงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้

เมื่อก่อนแค่เห็นโปรแกรมว่าต้องเจอกับ เวสต์บรอม นั้นแทบจะใส่ 3 คะแนนให้กับ เชลซี ไปได้เลย เพราะว่าผูกปีชนะมาตลอด จนกระทั่งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ภายใต้การคุมทัพของ อังเดร วิลลาส โบอาส ที่เชลซี พ่ายไป 0-1 และก็ส่งผลให้ตัวของ เอวีบี ตกงานทันที

อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นก็เป็นเพราะว่า ทีมมีปัญหาภายในเยอะ นักเตะกับโค้ชมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ว่าคราวนี้ แพ้แบบน่าผิดหวังมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกองหน้า ที่ตอนนี้ ในบรรดาทีมลุ้นแชมป์ ต้องยอมรับตรงๆ ว่า กองหน้าของเชลซี อ่อนที่สุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีทั้ง เวย์น รูนี่ย์ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นคู่หูตัวหลักในการเจาะตาข่ายคู่ต่อสู้ ส่วนถ้าสองคนนี้เล่นไม่ออกขึ้นมา ก็มีตัวทีเด็ดอย่าง ชิชาริโต้ หรือจะเป็น แดนนี่ เวลเบ็ค ที่ก็ถือว่าไม่ธรรมดา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะ 4 กองหน้าที่มีต่างเป็นระดับขั้นเทพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน, คาร์ลอส เตเวซ ซูเปอร์ซับชั้นยอดอย่าง เอดิน เชโก้ หรือจะเป็น ตัวสร้างความหวือหวาอย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ใจนิ่งเป็นน้ำแข็ง ยามได้โอกาสสังหารจุดโทษ

ส่วนเชลซีน่ะรึ ตัวหลักมีเพียงแค่ เฟร์นานโด ตอร์เรส คนเดียว และก็ต้องยอมรับว่า เอล นินโญ่ ในตอนนี้ ไม่ใช่ดาวยิงฟ้าประทานที่น่าครั่นคร้ามคนเดิม เหมือนเมื่อตอนสมัยอยู่กับ ลิเวอร์พูล แล้วแม้แต่น้อย ยิ่งเล่นก็ยิ่งแย่

แทนที่จะโหม่งลง แต่พี่แกโหม่งเสย ซะงั้น

สปีดที่เคยฉีกหนีกองหลังเป็นว่าเล่น หายไปราวกับว่าไม่เคยมีมันมาก่อน ร่างกายก็อ้วนฉุ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือ ดาวยิงที่เคยสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการลูกหนังมาแล้ว

เกมๆ นึง โอกาสการทำประตูของ ตอร์เรส แทบนับครั้งได้ แถมโอกาสที่มีน้อยนิด ก็ยิงไม่ค่อยจะเข้าด้วย อย่างเกมล่าสุด ตัวของเจ้าของฉายา เอล นินโญ่ ไม่ได้มีโอกาสลั่นไกแม้แต่หนเดียว ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาทีที่ 60

ส่วน แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ นั้นเป็นตรงกันข้าม เขามีความเร็ว, คล่อง, ทักษะก็ดี แต่เสียอย่างเดียว เรื่องของทัศนคติในการเล่น ที่แย่ซะจนแฟนๆ สิงห์บลูส์ หลายรายแอบเสียดาย ที่เจ้านักเตะเห็นแก่ตัวรายนี้ ยังได้อยู่กับทีมต่อไปหลังปิดตลาดนักเตะ

สเตอร์ริดจ์ เป็นนักเตะที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แต่น่ารันทดที่ความสามารถของเขามันมีไม่ถึงครึ่งถึงความมั่นใจ และมันกลายเป็นขอเสียของทีมสิ่งเดียวที่ สเตอร์ริดจ์ คิดคือ ทำอย่างไรให้ตัวเองเด่น ให้ตัวเองดัง

ได้บอลปุ๊บ ถ้าอยู่ในระยะทำการ สิ่งที่เขาเลือกเป็นอย่างแรกก็คือจะยิงทันที โดยไม่สนว่าเพื่อนร่วมทีมจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าหรือไม่ หรือถ้าดูแล้ว ไม่มีช่อง ทางเลือกที่สองก็คือจะเลี้ยงฝ่าไปเอง และทำให้ทีมเสียโอกาสไปหลายต่อหลายครั้ง

หรือพอเขาได้โอกาสแบบจั๋งๆ ก็แบบเกมกับเวสต์บรอมนั่นแหละครับ หลุดเดี่ยวก็ยิงไม่ได้ลุ้น ยิงจ่อๆ ก็ไม่เข้า ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมโอกาสงามๆ ทำไมต้องตกไปอยู่ที่ไอ้หมอนี่หมด ทั้งๆ ที่นักเตะคนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ

ขอให้ดัง รายได้ดีๆ ก็พอ

ทัศนคติของ สเตอร์ริดจ์ นักบอล ม.ต้น ที่ลงแข่งกีฬาสี ที่อยากเด่นอยากดัง ถ้าทำประตูได้ จะได้แอกต์ให้สาวๆ ในโรงเรียน มอง อุ๊ย คนนั้นไง ที่ยิงประตูได้ พาสีตัวเองคว้าเหรียญทอง แต่ขอโทษนะครับ นี่มันฟุตบอลอาชีพ ไม่ใช่บอลกีฬาสี ที่จะให้นักเตะใจแคบอย่างนี้ได้ลงสนาม

ใจแคบไม่พอ ยังไม่คิดจะปรับปรุงตัวเอง ตอนเป็นดาวรุ่งก็ดีอยู่หรอก แต่มาตอนนี้พอได้อยู่กับทีมใหญ่อย่าง เชลซี อายุสมองดันไม่โตเท่าอายุจริง คิดอะไรเป็นเด็กๆ ตลอด แล้วที่อยากบอกว่า อยากเล่นเป็นตัวจริงน่ะ ถามหน่อยเหอะ ว่าฝีเท้าของคุณสมควรแล้วหรือ

โดนโยกไปเล่นฝั่งขวาก็โวย ว่าตำแหน่งถนัดคือกองหน้าตัวเป้า แล้วพอได้เล่นหน้าเป้าตามที่ต้องการแล้วเป็นไงล่ะ ก็ที่โค้ชเขาให้ไปเล่นฝั่งขวาก็เพราะว่า คุณมีแต่ความเร็ว ความคล่อง แค่นั้น ไม่เก่งแล้วดันสาระแน อยากเด่น บอกได้เลยทีมไหนมีนักเตะแบบนี้อยู่ในทีม ไม่มีทางได้บรรลุเป้าหมาย

คนที่คอย ราดาเมล ฟัลกัล คนนี้นี่เอง

ช่วงปีใหม่ มีข่าวว่าเชลซี อยากจะแลกสลับขั้วระหว่า เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ราดาเมล ฟัลเกา ของ แอตเลติโก มาดริด แต่ว่าตอนนี้ อยากบอกเหลือเกินว่า ช่วยพ่วงสเตอร์ริดจ์ ออกไปอีกคนด้วยก็ดี แถมข้าวสาร 1 กระสอบพร้อมถุงยังชีพด้วยก็ไม่ว่า

เพราะถ้ายังคิดจะฝากความหวังไว้กับนักเตะแบบนี้ มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ ฝีเท้าก็กระจอกไม่พอ แถมจะทำลายสปิริตในทีมอีกต่างหาก

อัตราความพึ่งพาได้ของ สเตอร์ริดจ์ ให้นึกถึงการ์ตูนเรื่อง ดราก้อนบอล นะครับ เชื่อว่าหลายคนเคยดู มันก็ประมาณว่า ส่งหยำฉา ไปดาวนาเม็ก เพื่อสู้กับ ฟรีซเซอร์ ในการกอบกู้โลก

คิดว่าฝากความหวังไว้กับนักเตะใจแคบ ปลาเค็มอย่างนี้ คุณจะได้อะไรกลับมานอกจากความผิดหวังล่ะครับ

เรื่องโดย "The Nut"