จะ "แช่ง" หรือ "ช่วย" เรือใบใน UCL

ฟุตบอล : หลัง ๆ ค่อนข้างชอบอ่าน "เดลี่ เมล์" เป็นพิเศษ เพราะผมมองว่า นสพ.ฉบับนี้ค่อนข้าง "ครีเอทีฟ" และสร้างประเด็นข่าวสวย ๆ ได้ติดต่อกันในช่วงหลัง

ล่าสุด 3 เหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับ "ภาพข่าว" และเขียนข่าวคือ 1.ภาพเจอร์ราร์ด ถ่ายกับเด็กประถมโรงเรียนตัวเอง 99 คนที่ใส่หมวกทีมชาติอังกฤษก่อนแมตช์สวีเดน "ล้อ" กับสถานการณ์เดียวกันของ บ๊อบบี้ มัวร์

2.การจับเอานักเตะอาร์เซนอล และสเปอร์ส มาใส่ชุดย้อยยุคเมื่อ 125 ปีก่อนในเกมดาร์บี้แมตช์หนแรกของทั้ง 2 ทีมแบบน่าประทับใจ

และล่าสุด 3.การล้อป้ายแบนเนอร์ขนาดยักษ์รูป คาร์ลอส เตเบซ แต่เปลี่ยนเป็น "เวลคัม แบ็ค" โรนัลโด้ ดังรูปประกอบคอลัมน์ผมในวันนี้

(ภาพจาก Dailymail)

ชอบครับ...ชอบ และ "ฮอตสกอร์" วันข้างหน้าต้องก้าวไปสู่ยุคสร้างสรรค์แบบนั้นแน่ ๆ

ป้ายดังกล่าว ดีไซน์พิเศษแค่ประกอบสื่อของ "เดลี่ เมล์" ก่อนเกมกลับเมืองแมนเชสเตอร์ของ โรนัลโด้ ที่นำทัพเรอัล มาดริด บุกชนแมนฯซิตี้

จังหวะเวลาช่างเหมาะสมครับ เพราะลูกทีมโรแบร์โต้ มันชินี่ เพิ่งจะถล่มแอสตัน วิลล่า 5-0 แซงขึ้นสู่จ่าฝูงได้สำเร็จที่นัด 12 ของฤดูกาล

โดยได้รับการสนับสนุนจาก นอริช ซิตี้ ที่เก็บ 8 จาก 12 แต้มเต็มรวมถึงแมตช์ชนะ และดึงแมนฯยูฯ ร่วงบัลลังก์

อย่างไรก็ดี โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบน็อคเอ๊าท์รอบแรกของทีมเรือใบสีฟ้าดูแล้วเท่ากับ "ศูนย์" เพราะนอกจากจะต้องชนะมาดริด และบุกไปชนะดอร์ทมุนด์แล้ว

พวกเค้ายังต้องลุ้นให้ผลการแข่งขันของทั้งดอร์ทมุนด์ และมาดริด เป็น "ตามเป้า" ซึ่งผมเคยเขียนไปแล้วว่า เป็นไปไม่ได้ แม้จะไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในเกมฟุตบอลก็ตาม

หากเป็นดังนั้น และตามเทรนด์ของซิตี้ในซีซั่นนี้ที่ทุกอย่างดูเป็นใจในลีกอยู่แล้ว ผมจะยกให้ทีมเรือใบสีฟ้าเป็น "เต็มหนึ่ง" คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกสมัยทันที

เพราะการตกรอบ UCL จะยิ่งทำให้สมาธิ และพลังงานของทีมพุ่งมา "โฟกัส" ได้ในลีกอย่างเต็มที่

และลองคิดดูซิครับ หากเล่นไม่ดีแล้วยังไม่แพ้ในบ้านรวม 35 นัดเข้าไปแล้ว รวมถึงทั้งดวง และโชคเข้าข้าง เช่น ล่าสุดที่ได้ 2 จุดโทษ (เพราะไลน์แมน) และประตูแรกสุดขลุกขลิกจาก ดาวิด ซิลบา

ทัพซิตี้ซึ่ง "ปอนด์ต่อปอนด์" ดีกว่าทีมอื่นจึงน่ากลัวอย่างมากในเวลาที่เชลซีเริ่มดร็อป และแมนฯยูฯ เพิ่งจะคัมแบ็กไม่ได้เหมือน 8 ครั้งก่อนหน้านี้ครับ

เรื่องโดย "Kai Muk Dum"