ดีใจกับ ‘น้องมุ้ย'

ฟุตบอล : เป็นข่าวต่อเนื่องทั้งก่อนหน้าและล่าสุดกับการเดินทางไปฝึกซ้อมกับสโมสร "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ของ "น้องมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าเบอร์ 1 ทีมชาติไทย ณ ปัจจุบัน

ผมในฐานะแฟนบอลไทยในสายเลือด ย่อมรู้สึกชื่นชมและดีใจกับ "น้องมุ้ย" ที่ได้โอกาสทองฝังเพชรแบบนี้

เพราะการได้ไปหาประสบการณ์กับทีมระดับโลกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีการผูกสัมพันธ์ที่ดี มีการเซ็นสัญญาเป็น "พันธมิตร" หรือ "พาร์ตเนอร์" ช่วยซึ่งกันและกัน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ "น้องมุ้ย" ได้โอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับทีมรองจ่าฝูง ลา ลีกา อย่าง แอตเลติโก มาดริด เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตามข้อตกลงของทั้งสองทีมที่ทำสัญญากันไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ว่าจะให้ส่งนักเตะไทยไปสัมผัสระดับ

ของบอลสเปนและการฝึกซ้อมแบบมืออาชีพว่าเป็นอย่างไร เพื่อกลับมาพัฒนาบอลไทยเพิ่มเติม

ส่วนประเด็นที่แฟนบอลลุ้นกันว่า "น้องมุ้ย" จะมีโอกาสได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพของสโมสร "ตราหมี" หรือไม่นั้น

ผมขอบอกความรู้สึกตรงๆ ว่า "ยากส์" ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาครับ

เพราะอย่างที่ทราบกันดี "เวิร์ก เพอร์มิต" หรือใบอนุญาตทำงานในยุโรปนั้นมันไม่ใช่ได้กันมาง่ายๆ โดยเฉพาะการขอใบอนุญาตทำงานในอาชีพนักฟุตบอล

ยิ่งนักฟุตบอลที่มาจากประเทศในโลกที่ 3 อย่างไทยเรา การออก "เวิร์ก เพอร์มิต" ยิ่งต้องดูหลายขั้นตอน

เอาแค่ต้องมีแรงกิ้งฟีฟ่าไม่เกินอันดับ 75 ของโลก แค่นี้ก็ "อิมพอสซิเบิ้ล" แล้วครับ

อย่างไรก็ตาม ต้องชื่นชมบอร์ดบริหารของ เอสซีจี เมืองทองฯ ที่ช่วยให้นักฟุตบอลไทยมีโอกาสได้ไปสัมผัสประสบการณ์กับทีมระดับโลกเหมือนกับที่ "ซิโก้" และ "ลีซอ" เคยได้รับมาแล้ว

และต้องให้เครดิตกับทีมประชาสัมพันธ์ "ขั้นเทพ" ที่ทำให้ทุกอย่างดูสวยหรูกับภาพของ "น้องมุ้ย" ที่ปรากฏสู่สายตาแฟนบอลชาวไทย

ซ้อมวันแรก ฟัลเกา ชม มุ้ย มีลุ้นร่วมทัพตราหมี

ซ้อมวันที่สอง มุ้ยเน้นเรียกฟิต โค้ชย้ำต้องปรับภาษา

ซ้อมวันที่สาม...

ซ้อมวันที่สี่...

พูดง่ายๆ ว่า นี่เป็นแผนการตลาดที่ยอดเยี่ยมที่สุดครับ

(ป.ล. ถ้าอยากให้ "น้องมุ้ย" โกอินเตอร์จริงๆ ลองเริ่มจากใกล้ๆ ในเจลีก ของญี่ปุ่น ที่สโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ ได้เซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกับสโมสร จูบิโล่ อิวาตะ แชมป์ 3 สมัย ผมว่าดูดีมีอนาคตกว่ากันเยอะนะครับ)

ธีรศิลป์ แดงดา นั่งชมเพื่อนลงแข่งข้างสนาม