หนึ่งศตวรรษครึ่งของเอฟเอ

ฟุตบอล : สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ฉลองการก่อตั้งครบรอบ 150 ปี ไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม และถือเป็นสมาคมลูกหนังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมดูแลทีมชาติอังกฤษในทุกระดับ รวมถึงเกมการแข่งขันของสโมสรฟุตบอลในประเทศด้วย

ในรอบ 150 ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งได้มีการประมวลเรื่องราวและลำดับเหตุการณ์สำคัญๆ ออกมาดังนี้

1863
เอฟเอจัดประชุมครั้งแรกที่ในวันที่ 26 ตุลาคมเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์พื้นฐานขึ้นมา

เอเบนเซอร์ ค็อบบ์ มอร์ลี่ย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการคนแรก และมีหน้าที่ในการร่างกฎเกณฑ์ต่างๆ ของสมาคม

เกมแรกภายใต้กฎใหม่ที่กำหนดขึ้นคือการพบกันระหว่างทีมบาร์นส์กับริชมอนด์ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งลงเอยด้วยผลเสมอ 0-0

1872
ทัวร์นาเมนต์แรกภายใต้การจัดของเอฟเอมีทั้งหมด 15 ทีมร่วมแข่งขัน โดยวันเดอเรอร์สเอาชนะรอยัล เอนจิเนียร์สไปได้ในนัดชิงชนะเลิศที่สนามดิ โอวัลเมื่อวันที่ 16 มีนคมต่อหน้าแฟนบอล 2,000 คน

อังกฤษลงเตะแมตช์ทางการนัดแรกกับสกอตแลนด์ที่สนามแพทริค โดยเกมจบที่สกอร์ 0-0

1873
อังกฤษลงเตะนัดแรกที่ดิ โอวัล โดยชนะสกอตแลนด์ 4-2

1877
กฎเกณฑ์ 3 ชุดที่เคยถูกกำหนดขึ้นมา ได้แก่ กฎเชฟฟิลด์, กฎลอนดอน และกฎผสม ถูกนำมารวมกัน

1886
การประชุมของคณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลนานาชาติจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ฮอลบอร์น

1908
อังกฤษลงเตะในต่างแดนนัดแรกด้วยการบุกชนะออสเตรีย 6-1

1923
สนามเวมบลีย์ถูกเปิดใช้งาน โดยกลายเป็นสนามเหย้าอย่างเป็นทางการของอังกฤษ และเป็นสังเวียนเตะนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ซึ่งโบลตันเอาชนะเวสต์แฮม 2-0 ได้ในครั้งแรก ด้วยสถิติผู้ชมที่ถูกบันทึกไว้ที่ 126,047 คน แต่คาดว่าจำนวนจริงน่าจะมีมากกว่านั้น

1924
อังกฤษลงเตะที่เวมบลีย์นัดแรก โดยเสมอสกอตแลนด์ 1-1

1930
ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกจากทางฟีฟ่า และยังคงบอกปัดไม่เข้าร่วมการแข่งขันอีกสองครั้งถัดไปในปี 1934 และ 1938

1934
สแตนลี่ย์ เราส์ เข้ารับตำแหน่งเลขานุการ และอยู่ทำหน้าที่ยาวนานที่สุดถึง 28 ปี

1947
เข้าร่วมเป็นสมาชิกของฟีฟ่า และตกลงที่จะแบ่งกันรับตำแหน่งรองประธานถาวรร่วมกับเวลส์, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์

1950
อังกฤษร่วมแข่งฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก โดยแพ้ต่อสหรัฐอเมริกา 0-1

1953
อังกฤษแพ้นอกบ้านครั้งแรกนอกเหนือจากไอร์แลนด์ ด้วยการถูกฮังการีถล่ม 6-3

1954
อังกฤษแพ้ฮังการี 7-1 ที่บูดาเปสต์ ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ยับเยินที่สุดของทีม

1955
ยุคแห่งเอดินเบอร์กเข้าดำรงตำแหน่งองค์ประธาน

1959
บิลลี่ ไรท์ สร้างสถิติเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษมากที่สุด 90 นัด ก่อนจะถูกบ็อบบี้ มัวร์เทียบสถิติในปี 1973

1966
อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยได้รับเลือกเหนือเยอรมันตะวันตกและสเปน

อังกฤษคว้าแชมป์โลกไปครอง ด้วยการชนะเยอรมันตะวันตก 4-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษที่เวมบลีย์

1981
เบิร์ต มิลลิชิป เข้ารับตำแหน่งประธานบอร์ด และอยู่ในตำแหน่งนาน 15 ปี

1990
อังกฤษทำผลงานในฟุตบอลโลกที่แข่งนอกประเทศได้ดีที่สุด ด้วยการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศที่อิตาลี โดยแพ้ในการดวลจุดโทษต่อเยอรมันตะวันตก

ปีเตอร์ ชิลตัน สร้างสถิติติดทีมชาติมากที่สุด 125 นัด ในการลงเฝ้าเสาในแมตช์ชิงที่ 3 กับอิตาลี

1992
เอฟเอเข้าควบคุมพรีเมียร์ลีกที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่

1996
เป็นเจ้าภาพจัดยูโร 96

เวมบลีย์ถูกปิดปรับปรุงด้วยงบประมาณ 798 ล้านปอนด์ จากกลุ่มบริษัทมัลติเพล็กซ์ของออสเตรเลีย

2000
แพ้ต่อเยอรมันในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก 2006

2001
สเวน โกรัน เอริคส์สัน เป็นโค้ชต่างชาติคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ โดยเข้ามารับหน้าที่ต่อจาก เควิน คีแกน

2003
มาร์ค ปาลิออส เข้าดำรงตำแหน่งซีอีโอ ซึ่งในวาระสั้นๆ ของเขานั้นมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น รวมถึงการสั่งแบนริโอ เฟอร์ดินานด์ จากการลงเตะยูโรรอบคัดเลือกกับตุรกีด้วย หลังจากกองหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้เข้ารับการตรวจโด๊ป เขาลาออกในปีถัดไปหลังถูกสื่อแฉว่าแอบมีสัมพันธ์สวาทกับเลขานุการของสมาคม

2006
เจ้าชายวิลเลี่ยมเข้าดำรงตำแหน่งองค์ประธาน

2007
เวมบลีย์ถูกเปิดใช้อีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ

2008
เซ็นสัญญามูลค่า 425 ล้านปอนด์ กับสถานีไอทีวีและเซทานตาในการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเกมของอังกฤษและเอฟเอคัพ ก่อนที่เซทานตาจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในระหว่างฤดูกาล

2008-09-2010
ลอร์ดทริสแมน ประธานบอร์ด ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากกล่าวหาว่าสเปนและรัสเซียพยายามติดสินบนกรรมการในระหว่างฟุตบอลโลก 2010

อังกฤษได้แค่ 2 คะแนน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการโหวตตัวเอง ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งรัสเซียได้รับเลือก

2012
เปิดศูนย์ฟุตบอลแห่งชาติที่เซนต์จอร์เจส ปาร์ค

2013
จัดงานฉลองครบรอบการก่อตั้ง 150 ปีที่ลอนดอน