คุณวินนี่(กำมะลอ)ที่รัก

ฟุตบอล : ออกหวานนิดๆ โรแมนติกหน่อยๆ พอให้สมกับหน้าตาผู้เขียนคอลัมน์น่ะครับ (แฮ่ม) สำหรับชื่อเรื่องวันนี้ เพราะกำลังอินอยู่กับละครหลังข่าวช่อง 3 ที่มีน้องชมพู่หน้าหวานในตอนอวสานพอดี

หลายคนคงสงสัย??? แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับ "วินนี่"

ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมเพียงแค่ไม่อยากให้แฟนบอลซีเรียสเครียดกันมากนักกับผลงานของทัพ "ช้างศึก" ที่เตรียมออกโรงโม่แข้งฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์ คัพ" ครั้งที่ 42 ในเย็นย่ำค่ำวันนี้ (23 ม.ค.) เวลาดีหนึ่งทุ่มตรง โดยมี ฟินแลนด์ แดนสแกนดิเนเวีย เป็นคู่ต่อกร

เพราะคนที่ซีเรียสเครียดมากกว่าเป็นไหนๆ คงไม่พ้น "วินนี่" ที่หวังต่อยอดศรัทธาของแฟนบอล

ในขณะที่ ท่านนายกสมาคมคนดี ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องทวงแชมป์กลับมาให้ได้ หลังจากทำผลงานสาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ ใน 3 ครั้งก่อนหน้า

ครั้งที่ 39 (2552) ประกบคู่ "น็อก" เหมือนครั้งนี้ ไทย เฉือน เลบานอน 2-1 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ก่อนแพ้จุดโทษ เดนมาร์ก 3-5 หลังเสมอในเวลา 2-2 เลยได้แค่รองแชมป์

ครั้งที่ 40 (2553) ปรับรูปแบบมาแข่งพบกันหมด 4 ทีม ปรากฏว่า ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0, แพ้ โปแลนด์ 1-3, แพ้ เดนมาร์ก 0-3 ได้อันดับ 3

ครั้งที่ 41 (2555) หลังจากเว้นวรรคไป 1 ปี ยังยึดรูปแบบแข่งพบกันหมด 4 ทีม ปรากฏว่า ไทย ที่เพิ่งได้ "วินนี่" มาคุมทัพ แพ้ให้กับ ยู-23 เกาหลีใต้ 1-3, แพ้ นอร์เวย์ 0-1 และ แพ้ ทีมรวมลีก เดนมาร์ก 1-3 ได้อันดับบ๊วย

มาถึงศึก "คิงส์ คัพ" ครั้งนี้ อย่างที่ทราบกันว่ามี 3 ทีมรับเชิญอย่าง ฟินแลนด์, สวีเดน, เกาหลีเหนือ รวมกับ ทีมชาติไทย มาประกบคู่ "น็อก" เหมือนเมื่อ 4 ปีก่อนอีกครั้ง โดยทีมชนะจะได้เข้าไปลุ้นแชมป์ ส่วนทีมแพ้จะได้แค่ชิงอันดับ 3

ดังนั้น แมตช์แรก จึงถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าแพ้ แม้จะยังไม่จบ (ทัวร์นาเมนท์) ก็เหมือนจบ

โดยเฉพาะทีมชาติไทยที่แฟนบอลกำลังจับจ้องผลงานของ "วินนี่" รวมถึงท่านนายกสมาคมคนดีอยู่

ที่ดูไปดูมา "ละคร" ก็ไม่ต่างกับ "ชีวิตจริง" ของคนเราในหลายๆ เรื่องเหมือนกัน

หากเปรียบ "วินนี่" เป็นพระเอก ก็คงอยู่ในช่วงไคลแม็กซ์ท้ายเรื่องที่กำลังเข้มข้นว่าจะสามารถฝ่ามรสุมผ่านไปได้หรือไม่?

ถ้า "คิงส์ คัพ" ครั้งนี้ "วินนี่" สามารถกู้หน้าตัวเองพาทัพ "ช้างศึก" คว้าถ้วยพระราชทานกลับมาได้สำเร็จ ตอนอวสานก็จะ "แฮปปี้เอนดิ้ง" เหมือนละครหลังข่าวทั่วไป

แต่ถ้าไม่!!! ท่านนายกสมาคมคนดี อาจเปลี่ยนบทอวสานให้ "พระเอกตายตอนจบ" ก็เป็นได้

เรื่องโดย "เอ็ม ฮอตสกอร์"