บาร์เซโลน่า ยากกว่า "ปาฏิหาริย์"

บาร์เซโลน่า ยากกว่า "ปาฏิหาริย์"

บาร์เซโลน่า ยากกว่า "ปาฏิหาริย์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : จบเกมที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า แม้ว่าจะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่า บาเยิร์น มิวนิค นั้นตีตั๋วเข้าไปรอชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แล้ว

แต่กลับผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ไล่ถล่มยอดทีมเบอร์ 1 ของโลกยุคปัจจบันอย่าง บาร์เซโลน่า ไปแบบเอกฉันท์ ด้วยผลต่าง 4-0 มันทำให้ "เสือใต้" เหยียบ เวมบลี่ย์ ไปแล้วกว่า 99%

สรุปสถานการณ์เกมที่ คัมป์ นู บาร์เซโลน่า จะพลิกเข้ารอบได้มีอยู่ 2 กรณีคือชนะด้วยผลต่าง 5 ประตู หรือชนะด้วยสกอร์ 4-0 แล้วมาตัดสินกันที่ช่วงต่อเวลาพิเศษหรือการยิงลูกจุดโทษ

ดูแล้วมันเป็นโจทย์ที่มหาหินเหลือเกิน ไม่ใช้แค่สกอร์ที่ห่างกันเกิน แต่มาตรฐานของ บาเยิร์น ที่กำลังพีกสุดๆ ดูแล้วเอาแค่ชนะให้ได้มันก็เหนื่อยแสนเหนื่อยมากพอดู

ประตู 2-0 และ 3-0 ถือว่าเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง วิคเตอร์ คัสไซ ผู้ตัดสินชาว ฮังการ ผิดพลาดไม่เป่าลูกยิงของ มาริโอ โกเมซ เป็นลูกล้ำหน้า ร่วมถึงปล่อยจังหวะที่ โทมัส มุลเลอร์ ไปสกีนเอาท์ ฆอร์ดี้ อัลบา ไม่เป็นลูกฟาวล์แบบค้านสายตาคนทั้งโลก

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแฟนบอล "คาตาลัน" น่าจะยอมรับความจริงๆได้ เกมนี้ บาเยิร์น คือทีมที่ดีกว่าอย่างแท้จริง และเหมาะสมกับชัยชนะในทุกประการ

พูดถึงแท็คติกในเกมนี้ต้องปรบมือดังๆให้กับ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ที่ทำการบ้านมาได้แบบยอดเยี่ยม ขรัวเฒ่าวัย 67 ปีใส่ใจในทุกรายละเอียด

ไล่เรียงตั้งแต่เกมรับที่เลือก เจโรม บัวเต็ง ลงมาแทนที่ ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็ง ที่เป็นตัวหลักในช่วงหลัง ด้วยเหตุผลว่ามีความไว ความคล่องตัวที่มากกว่า

ขณะที่เกมริมเส้น เสือใต้ กำชับผู้เล่นในตำแหน่งปีกให้ลงมาช่วยแบ็กอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายที่ ริเบรี่ ดูจะเน้นกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ

แดนกลางถือว่าเป็นจุดแข็งของทีมอย่างแท้จริง ฆาบี้ มาร์ติเนซ และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ สามารถคุมพื้นที่ได้ดี สามารถไล่ต้อน อันเดรส อินิเอสต้า และ ชาบี้ จนเล่นกันไม่ออก

โดยเฉพาะดาวเตะสายเลือดกระทิงดุที่ยิ่งเล่นยิ่งเริ่มคุ้มค่าตัวแสนแพง 40 ล้านยูโร นับเฉพาะเกมนี้ช่วยปัดกวาดเกมรุกของ บาร์เซโลน่า ได้ดี สถิติเข้าสกัด 6 ครั้งชนะรวดถือว่าไม่ธรรมดา ทำฟอร์มข่ม เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ตัวจริงทีมชาติอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนเกมรุกหากสังเกตุดีๆยอดทีมแห่งแคว้น บาวาเรียน จะเน้นจู่โจมที่ฝั่งขวาเป็นหลักทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน, โทมัส มุลเลอร์ และ ฟิลิปป์ ลาห์ม สลับกันสร้างจังหวะทำประตูให้ทีมได้ตลอด

เกมนี้ ดาวิด อลาบา ได้เติมเกมเน้นๆเพียงจังหวะเดียว ก็คือประตู 4-0 ที่หลุดไปปาดให้ มุลเลอร์ ซัดประตูตอกฝาโล่ง

ผิดกับฝั่งของ ติโต้ บีลาโนบา ที่เกมนี้ดูเงียบมาก ไม่มีการแก้เกมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับทีมเลย กว่าจะเปลี่ยนผู้เล่นก็ปาไปนาที 83 ซึ่งเวลาที่เหลือก็ไม่มากพอที่จะให้ ดาวิด บีญ่า ลงมาเปลี่ยนเกมอะไรได้

ปัญหาเกมนี้ บาร์เซโลน่า มียุบยับไปหมดโดยเฉพาะเรื่องของเกมรับ ที่มีปัญหาหลักอยู่ที่ลูกกลางอากาศ โดนเปิดทีไรแทบจะโหม่งแพ้แทบทุกครั้งไป

คู่เซนเตอร์เกมนี้มีปัญหาเรื่องการประสานงาน มาร์ค บราตร้า และ เจราร์ด ปีเก้ ประกบตัวรุกของคู่แข่งแบบสับสนไปหมด ประตูที่เสียไปทั้ง 4 ลูกทั้งคู่ต้องรับไปเต็มๆ

ประเด็นสำคัญอีกเรื่องที่ต้องพูดถึงคือความฟิตของ ลีโอเนล เมสซี่ ที่ถูกเข็นลงสนาม แม้ว่าเจ้าตัวจะบอกว่าฟิตพอ แต่จากที่เห็นผลงานในสนามมันช่างตรงกันข้ามยิ่งหนัก

อย่างที่เคยว่าไว้หากวันใด เมสซี่ เกิดเฉื่อย เกิดเล่นไม่ได้ มีส่วนกับเกมน้อย แนวรุกของ บาร์เซโลน่า จะดร็อปลงไปหลายเปอร์เซ็นต์ เมื่อบวกกับผลงานของ เปโดร และ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ไม่เอาอ่าว ทำให้แนวรุกของทีมในเกมนี้ไร้ซึ่งแรงคุกคาม ชนิดแทบไม่ได้ยิงกันเลยทีเดียว

จริงๆแล้วหาก บีญาโนบา คิดไวทำไว กล้าแลกกล้าเปลี่ยน เลือกที่จะส่ง บีญ่า ให้เร็วกว่านี้ น่าจะช่วยให้เกมรุกของทีมดีกว่านี้ เพราะ บีญ่า นั้นยังมีความเก๋า พลิกบอลได้ ยิงไกลได้ ซึ่งน่าจะช่วยกดดันได้มากกว่านี้

นาทีนี้เหลือเพียงแต่ ปาฎิหาริย์ เท่านั้นจะช่วยเหลือ อาซูลกราน่า ได้ ทว่าในความคิดของผม โจทย์ที่พวกเขาถืออยู่ มันยากกว่าคำว่า ปาฎิหาริย์ ไปเยอะเลย


ตัวเลขมหัศจรรย์ บาเยิร์น

0 - บาร์เซโลน่า ไม่เคยแพ้เละถึง 4 ประตูเลยในยุคที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทัพตั้งแต่ปี 2008 ก่อนที่จะมาเยือน อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อวันอังคาร
5 - จำนวนผู้เล่นของ บาร์เยิร์น ที่ทำได้ 10 ประตูหรือมากกว่าในทุกรายการ โดยมี มาริโอ มันด์ซูคิช เป็นผู้นำที่ 21 ประตู
6 - จุ๊ปป์ ไฮย์เกส พา บาเยิร์น คว้าแชมป์ลีกก่อนฤดูกาลจบ 6 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่เร็วที่สุดในบุนเดสลีกา
9 - จำนวนประตูที่ บาเยิร์น ยิงใส่ ฮัมบวร์ก ที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อเดือน มีนาคม เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ยิงได้ 4 ประตู ก่อนจบเกม เสือใต้ ชนะ 9-2
14 - เดอะ บาวาเรียนส์ เสียไปเพียง 14 ประตูใน บุนเดสลีกา ของฤดูกาลนี้ สถิติที่ดีที่สุดที่ทีมเคยทำไว้อยู่ที 21 ประตู
19 - บาเยิร์น ชนะ 19 จาก 20 นัดนับตั้งแต่เบรกหนีหนาวของทุกรายการ (อาร์เซนอล คือทีมเดียวที่ชนะได้)
20 - บาเยิร์น ยิงได้ 20 ประตูใน 4 เกมหลังสุด 6-1 เหนือ โวล์ฟสบวร์ก และ ฮันโนเวอร์ และ 4-0 ใส่ เนิร์นแบร์ก และ บาเยิร์น
26 - จากเกมที่เอาชนะ ฮันโนเวอร์ 6-1 ทำให้พวกเขาชนะไปแล้ว 26 เกมใน บุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ โดยก่อนหน้านี้ไม่มีทีมใดเคยทำได้มาก่อน
30 - มานูเอล นอยเออร์ เก็บคลีนชีตไปแล้ว 27 นัดในฤดูกาลนี้ บวกกับของ ทอม สตาร์เค่ อีก 3 หมายความว่า บาเยิร์น ไม่เสียประตูคิดเป็น 56 เปอร์เซ็นต์ต่อเกมการแข่งขัน
75 - บาเยิร์น มีผลต่างประตูได้เสียบวก 75 ซึ่งมากกว่าประตูได้ของ ดอร์ทมุนด์ ทีมอันดับ 2 ที่ยิงได้เพียง 74 ประตู
81 - บาเยิร์น ทำแต้มไปแล้ว 81 คะแนน โดยตอนนี้มีเกมเหลืออยู่อีก 4 นัด
101 - จำนวนประตูสูงสุดใน บุนเดสลีกา ทั้งฤดูกาลที่ บาเยิร์น เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 1971-72 ส่วนปัจจุบ้น เสือใต้ ทำได้ 89 คะแนน ต้องลุ้นว่าจะล้มสถิติเก่าได้ไหม

เรื่องโดย "เกื้อ บ้านไกล"

บาเยิร์น มิวนิค 4-0 บาร์เซโลน่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook