เมื่อรูนี่ย์กลับมาเป็นที่รักอีกครั้ง

เมื่อรูนี่ย์กลับมาเป็นที่รักอีกครั้ง

เมื่อรูนี่ย์กลับมาเป็นที่รักอีกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : สำหรับเวย์น รูนี่ย์แล้ว เกมกับไอร์แลนด์และบราซิลในสัปดาห์นี้ คงทำให้เขารู้สึกเหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยู่ในร้านขนมหวาน

ความกดดันทั้งมวลที่เขาต้องแบกรับไว้จากนอกสนาม จะมลายหายไปในทันทีที่เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้น

พวกคุณคงรู้กันดีว่าผมคิดยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือผมคิดว่าพวกนั้นพยายามจะบีบให้เขาย้าย มากกว่าจะเป็นเขาขอย้ายเอง

อีกอย่างก็คือมันน่าสนใจที่ได้เห็นบางคนที่คิดเหมือนผมเหมือนกันเมื่อสัปดาห์ก่อน

แต่เมื่อพวกเขาอ้างว่าเวย์นอยากย้ายเอง เขาก็คงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมไป

ยิ่งไปกว่านั้นก็คือคนคนเดียวคงไม่สามารถสู้รบปรบมือกับเครื่องจักรที่ทรงพลัง ซึ่งก็คือแมนฯ ยูไนเต็ดได้ ถ้าพวกเขาเป็นฝ่ายหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา

การที่คอลีน ภรรยาของเขา ท้องแก่อยู่ในช่วงนั้นพอดี มันยิ่งเป็นช่วงเวลาที่เครียดมากสำหรับเขา

และอย่าลืมว่าเรากำลังพูดถึงปุถุชนคนหนึ่ง ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหน

นั่นคือเหตุผลที่เขาคงจะดีใจที่ได้มาเข้าแคมป์ของทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสจะได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รักเหมือนที่เคยเป็นมา และได้กลับมาทำในสิ่งที่เขาทำได้ดีกว่าอีกหลายๆ คน นั่นคือเล่นฟุตบอล ในฐานะนักเตะแล้ว วิธีที่จะสื่อสารออกไปได้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็คือการลงไปในสนาม

ผมไม่ได้ดูถูกไอร์แลนด์นะ แต่คงไม่มีเกมไหนเหมาะไปกว่าการได้ลงเตะกับทีมอย่างบราซิลที่บ้านของพวกเขาอีกแล้ว

โอเค ทีมชุดปัจจุบันของพวกเขาอาจจะไม่ใช่ชุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ถ้าคุณได้โชว์ฟอร์มได้ดีในเกมกับบราซิล ทั้งโลกก็จะรับรู้

ผมแน่ใจว่าตัวแทนจากทีมอย่างเรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, อาร์เซนอล และทีมอื่นๆ ที่มีข่าวกับเวย์น จะจับตาดูเกมนี้อย่างใกล้ชิด

ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ไม่มีอะไรที่ผมอยากเห็นมากไปกว่าการที่เขามีเกมที่ดี, สามารถบอกใครๆ ได้ว่า "ผมอาจจะเจอกับช่วงเวลาที่โหดๆ มา แต่นี่ไงสิ่งที่ผมทำได้" และผมเชื่อว่าเขาจะทำได้

ยังจำเรื่องราวใหญ่โตที่เกิดขึ้นในระหว่างการเจรจาเรื่องสัญญาของเขาในครั้งที่แล้วกันได้อยู่ใช่มั้ย เมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดออกมาอ้างว่าเขาอยากย้าย แล้วรูนี่ย์ทำอะไร?

เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งหลังของฤดูกาลนั้น ทำประตูชัยที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีก และทำประตูได้ในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ

มาว่ากันตรงๆ ดีกว่า คงมีหลายทีมที่พร้อมอ้าแขนรับเวย์นไปร่วมทีมแน่ ถ้าเขาต้องอำลาโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปจริง ซึ่งผมคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเขารู้สึกว่าสโมสรอยากจะโละเขาทิ้ง

แต่ผมหวังจริงๆ ว่าเดวิด มอยส์จะจับเข่าคุยกับเขาหลังจากเกมของอังกฤษจบไปแล้ว และบอกเขาว่า "เรามาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยซักที แล้วเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จด้วยกัน"

เวย์นคงไม่อยากต้องลงเตะฤดูกาลหน้า โดยมีพวกนักจิตวิทยาสมัครเล่นทั้งหลายมาคอยแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่พวกเขาได้รับการบอกต่อมาอีกทอด หรือไม่ได้รู้ข้อเท็จจริงอะไรเลยซักนิด

เวย์นได้แต่กัดฟันทนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งที่เขาสามารถเปิดศึกกับสโมสรให้ครึกโครมออกสื่อได้เลย

ดังนั้นเราควรจะให้ความเป็นธรรมเขาบ้าง เขาทำตัวน่านับถือมากที่ไม่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่

แต่ผมจะไม่แปลกใจเลย ถ้าได้เห็นเขาอยู่บนพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในอีกไม่กี่วันนี้ จากเหตุการณ์พิเศษๆ ในสนาม ซึ่งน้อยคนที่จะทำได้ดีกว่าเขา

เรื่องโดย "เบบี้ แบร์"

อังกฤษมีโปรแกรมอุ่นเครื่องทิ้งท้ายฤดูกาลนี้ด้วยการพบกับไอร์แลนด์และบราซิล โดย เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่ง จะเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมชุดนี้อีกครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับอนาคตของเขาที่ยังไม่ชัดเจน

หลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บอกว่าเขาร้องขอย้ายทีมรอบสอง แต่เจ้าตัวปฏิเสธว่าเปล่า และเอียน ไรท์ อดีตดาวยิงของอาร์เซนอล ซึ่งผันตัวมาเอาดีในวงการสื่อ เป็นคนหนึ่งที่เชื่อ พร้อมทั้งแสดงความเห็นใจรูนี่ย์ในคอลัมน์ของเขาในหนังสือพิมพ์เดอะซันเกี่ยวกับเรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook