ปล่อย 17 เหลือให้สู้แค่ 11

ปล่อย 17 เหลือให้สู้แค่ 11

ปล่อย 17 เหลือให้สู้แค่ 11
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : อย่าเพิ่งงงกับชื่อตอนของ "อารมณ์คมคาย" ในตอนนี้ ผมไม่ได้มาใบ้หวย เพราะมันเพิ่งออกไป เมื่อวันก่อน (16 ส.ค.) ผมไม่ได้พูดถึงหุ้นเพราะผมแทบไม่มีความรู้เรื่องแบบนี้อยู่ในหัวเลย 

แต่เลข "17" กับ "11"ในตอนนี้นั้นมันมีความหมายเกี่ยวกับทีมฟุตบอลสุดรักของผมอย่าง อาร์เซน่อล หนึ่งในทีมบิ๊กโฟร์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างหาก

เนื่องจากนั่งไล่ดูบทความต่างประเทศเกี่ยวกับโลกลูกหนังไปเรื่อย แล้วไปเจอะสกู๊ปหนึ่งของ "Daily mail" สื่อชื่อดังของ อังกฤษ ซึ่งมีชื่อตอนที่ว่า "Arsenal have let 17 players go, brought in one (free) and start the season with 11 fit men... so what's going on, Arsene?" 

แปลเป็นไทยว่า "ปล่อยนักเตะออกจากทีมไป 17 คน ซื้อมาแค่ 1 (แบบฟรีๆ) เหลือนักเตะพร้อมลงเล่นในช่วงเปิดฤดูกาลแค่ 11 คน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ อาร์แซน (เวนเกอร์)??" แค่เห็นชื่อตอนก็จี้ใจดำเหลือหลาย ยิ่งพออ่านเนื้อความข้างในยิ่งข้องใจในตัวบรมกุนซือของทัพ "ปืนใหญ่" ยิ่งนัก

ชั่วโมงนี้ อาร์เซน่อล คือ 1 ใน 2 ทีมของพรีเมียร์ลีกร่วมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าที่เพิ่งจะคว้านักเตะได้แค่เพียงรายเดียว 

แถมรายเดียวที่ได้มาก็เป็นดาวรุ่ง ฝั่งทีมจากลอนดอนได้ ยาย่า ซาโนโก้ กองหน้าดาวรุ่งที่เพิ่งพาทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ยู 20 ได้ ส่วน แมนฯ ยูฯ ได้กองหลังดาวรุ่งชาวอุรุกวัยอย่าง กิเยล์โม่ บาเลร่า ที่ลงเล่นในทัวร์นาเมนท์เดียวกันมาร่วมทีม 

ส่วนที่เหลือ "แห้ว" เรียบ เพราะถ้าให้นับแบบล่าสุดจริงๆ อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ เพิ่งอกหักกับการคว้าตัว หลุยส์ กุสตาโว่ กองกลางแซมบ้าของ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมลีก บุนเดสลีกา 

เยอรมันที่ตัดสินใจย้ายไปซบอก "หมาป่าเบียร์" โวล์ฟสบวร์ก เอสเฟา ทีมเพื่อนร่วมลีกที่ยอมจ่าย 17 ล้านยูโร (680 ล้านบาท) มากกว่าการต่อรองราคา ส่วน แมนฯยูฯ ภายใต้การนำของ เดวิด มอยส์ ก็ถูก เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่องของ บาร์เซโลน่า ปฏิเสธข้อเสนอทาบทามแบบไม่ใยดี โดยให้เหตุผลว่ายังต้องการค้าแข้งอยู่ในถิ่นคัมป์ นู ต่อไป

ไม่ขอเอื้อนเอ่ยถึงทัพ "ปีศาจแดง" แต่ขอจัดแรงๆ กับทีมรักอย่าง "เดอะ กันเนอร์ส" อาจเป็นเรื่องจริงที่ 17 นักเตะที่ถูกปล่อยตัวไม่ใช่แข้งสำคัญ ถึงขั้นไร้ประโยชน์ด้วยซ้ำ 

เพราะถ้าให้ไล่เรียงชื่อจริงๆ ทั้ง ชัค อเนเก้, อังเดร อาร์ชาวิน, มารูยาน ชามัคห์, ฟรานซิส โกเกแล็ง, เดนิลสัน, โยฮันน์ ฌูรู, เคร็ก อีสท์มอนด์, แชร์วินโญ่, วิโต้ มานโนเน่, เยอร์เนด เมียเด้, อิกนาซี่ มิเกล, อังเดร ซานโต๊ส, เซบาสเตียน สกิลลาชี่ และซานเชซ วัตต์ 

ต่างก็เป็นนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ เวนเกอร์ ทั้งสิ้น แต่ในขณะที่ทีมคู่แข่งทั้งหลายต่างระดมเงินทุนมหาศาลเสริมทัพกันอุตลุต และเป็นข่าวครึกโครมมาตลอดช่วงที่ผ่านมา ผมอยากย้อนกลับไปถาม เวนเกอร์ เช่นกันว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเขามั่งเลยหรือ

ที่ต้องถามเช่นนี้ เพราะหากลองมองย้อนกลับไปไม่ต้องไกลมาก เอาแค่ฤดูกาลที่ผ่านมาก็พอ ฟอร์มการเล่นของทีม "นอร์ธ ลอนดอน" ก็กระท่อนกระท่อน ดีบ้างไม่ดีบ้าง 

ถึงขั้นต้องลุ้นคว้าโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลกันอยู่แล้ว ยังจะมามั่นใจกับทีมที่ตัวเองมีอยู่อะไรถึงเพียงนั้น ขรัวเฒ่าเลือดน้ำหอมให้สัมภาษณ์แบบอ่านแล้วต้องนั่งถอนหายใจว่า 

"ผมไม่เห็นด้วยที่ใครๆ บอกว่าเราอยู่ในช่วงเวลาที่หมดหวัง (เสริมนักเตะ) มีเวลาอีกตั้ง 18 วันกว่าตลาดซื้อ-ขายนักเตะจะปิดตัวลง และเราเองก็ยังมองถึงการเพิ่มศักยภาพของทีมเราอยู่ เรามองไปที่คุณภาพมากกว่าจำนวน และข้อเรียกร้องแรกคือต้องมีคุณภาพเหมาะสมที่จะเล่นกับ อาร์เซน่อล ได้ ใช่เรากำลังมองนักเตะราว 2-3 คน และถ้าเป็นไปได้ก็อาจมากกว่านั้น ผมเข้าใจในทุกความกังวล แต่อะไรจะสำคัญไปกว่าคุณภาพการเล่นในสนาม ดังนั้นอย่าสร้างวิกฤตทั้งที่มันไม่มีอะไรเลย" 

และถ้าถามว่าทำไมต้องถอนหายใจ เพราะบทสัมภาษณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกปีในตลอด 8 ปีที่ "ปืนใหญ่" ไม่สามารถคว้าความสำเร็จใดๆ ได้เลย

อะไรคือ "ปริมาณ" อะไรคือ "คุณภาพ" บางครั้งมันอาจมีเส้นบางๆ มากั้นเท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่เหล่า "เดอะ กันเนอร์ส" อยากเห็นคือการเสริมนักเตะในตำแหน่งที่คิดว่ายังมีจุดบกพร่องทั้ง ผู้รักษาประตู, กองกลางตัวรับ, เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ, แบ็กขวา และกองหน้า 

เท่าที่เกริ่นมานี่ก็เกือบจะครึ่งทีมเข้าไปแล้ว แถมที่มีอยู่ก็เหลือให้ใช้งานเพียงแค่ 11 รายเท่านั้น เพราะช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมาก็ต้องเสีย โธมัส แฟร์มาเล่น (3 สัปดาห์), และ มิเกล อาร์เตต้า (6 สัปดาห์) 

นั่นทำให้ไม่แปลกที่บรรดาสื่อแดนผู้ดีจะมองว่า อาร์เซน่อล ไม่มีทั้ง "ปริมาณ" รวมทั้ง "คุณภาพ" ในคราวเดียวกัน แม้ผมจะพอเข้าใจว่าบทเรียนของการซื้อนักเตะแบบลวกๆ ช่วงปี 2011 ของ อาร์เซน่อล นั้นไม่ค่อยน่าประทับใจนัก (ซื้อนักเตะถึง 12 รายแต่ใช้งานได้แค่ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ แค่คนเดียว) แต่ขึ้นชื่อว่า "จอมปั้นมือทอง" อย่าง เวนเกอร์ จะไม่มีนักเตะคนไหนที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานของเขาเชียวเหรอ

บางครั้งผมก็ลังเลกับฉายา "นักปั้นมือทอง" ของ เวนเกอร์ เพราะที่ผ่านมานักเตะอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ยาย่า ตูเร่ หรือ แกเร็ธ เบล ต่างก็เคยมาแสดงฝีเท้าต่อหน้ากุนซือรายนี้มาแล้วทั้งนั้น 

แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่นักเตะของ อาร์เซน่อล ในที่สุด บางครั้งผมก็แอบคิดเอาเองว่าการที่ เวนเกอร์ เคยมีนักเตะอย่าง มาร์ค โอเวอร์สมาร์ส, ปาทริค วิเอร่า หรือ เธียรี่ อองรี และอีกหลายๆ สตาร์ชื่อดังในช่วงที่ผ่านมา อาจเป็นแค่ "โชค" หรือ "บุญ" ของเขา 

และคนเรามันก็ย่อมมีวันบุญหมดเป็นเรื่องธรรมดา ตัวเขาเองเคยเปรยว่าผลงานของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้คือตัวชี้วัดอนาคตของตัวเองด้วย เนื่องจากเหลือสัญญาในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกแค่ปีเดียวเท่านั้น และแม้ว่ายังจะไม่เปิดฤดูกาลก็ตาม แต่ก็พอคาดเดาได้ลางๆว่า ทัพ "ปืนใหญ่" อาจได้มีกุนซือคนใหม่คุมทีมในฤดูกาลหน้า หากยังไม่คิดจะเสริมใครในฤดูกาลนี้

 

 เรียบเรียง "อธิคม  ภูเก้าล้วน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook