ใครๆ ก็ ‘รัก' ผม

ใครๆ ก็ ‘รัก' ผม

ใครๆ ก็ ‘รัก' ผม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : หลายครั้งที่บรรดาแฟนบอล "ปีศาจแดง" อยากจะหาแพะสักคนให้พ่นคำด่าสารพัดใส่ในฤดูกาลนี้ เพราะรวมๆ แล้วหลายอย่างที่ทำให้ทีมแย่ และหลายครั้งที่ เดวิด มอยส์ กุนซือคนใหม่ต้องตกเป็นเป้าขี้ปากอันดับ 1 แต่อันดับ 2 คงเป็น แดนนี่ เวลเบ็ค

หากผมเป็น แดนนี่ เวลเบ็ค ผมคงทำตัวไม่ถูก แน่นอนแทบไม่มีแฟนบอลคนไหนในบ้านเรา หรือต่างประเทศที่จะสรรเสริญเยินยอไอ้หมอนี่ ไม่เฉพาะแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอื่นๆ ก็พูดกันในทิศทางเดียวกันว่าไอ้นี่มันเก่งตรงไหน ถ้าถามผมผมก็คงตอบไม่ถูกเหมือนกัน ผลงานในสนามก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเลย แม้จะทำประตูได้บ้าง แต่ก็ไม่สมกับตำแหน่งกองหน้า เทคนิคส่วนตัว การเปิดบอล หรือสไตล์ก็จัดว่าอยู่ในระดับ C+ เท่านั้นแหละ และเมื่อทีมเล่นไม่ดีทีไร ไอ้หมอนี่ก็จะเป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ ที่จะโดนด่า

 

งัดฟอร์มประดุจโดนปีศาจสามง่ามจากโลโก้ของทีมสิงสู่ ทำให้ติดตาตรึงใจ เดวิด (หะ) มอยส์ จนส่งลงเป็นตัวจริงบ่อยครั้ง

ย้อนกลับไปไม่ไกล เกมกับ ชัคเตอร์ โดเน็สท์ค ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ เวลเบ็ค เป็นผู้ทำประตูขึ้นนำให้ทีม และมาพลาดโดนตีเสมอตอนท้ายเกม เกมนั้นตั้งแต่ทำประตูได้ เวลเบ็ค ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย หรือจะย้อนกลับไปไกลถึงนัดแรกของซีซั่นที่เจ้าตัวทำถึงสองประตู แต่ถามว่าเล่นดีไหม ผมอยากจะบอกว่าไม่เลยสักนิด

ที่ผมบอกว่าถ้าผมเป็นหมอนี่คงทำตัวไม่ถูก ก็เพราะถ้าถามแฟนบอล คงอยาก "ถุยส์" ใส่ แต่ถ้าหันไปถามบรรดากุนซือที่ได้ร่วมงานกับ เวลเบ็ค พวกเขาคงตอบอีกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เดวิด มอยส์ เฮดโค้ชคนปัจจุบัน, เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือคนก่อน หรือผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ อย่าง รอย ฮ็อดจ์สัน ก็ยังชื่นชอบที่จะให้โอกาสและใช้งานกองหน้า "แฟนยี้" รายนี้อย่างจริงจัง เรียกว่าเจ้านายรักแต่แฟนเกลียดแบบนี้จะวางตัวแบบไหนดี คิดแล้วปวดหัวไม่น้อย

 

*แม้ฟอร์มการทำประโยชน์ให้ ยูไนเต็ด จะติดลบ แต่กับทีมชาติอังกฤษ เวลเบ็ค พี่แกยิง 8 ประตูจากการลงสนาม 20 นัด

เมื่อได้โอกาสลงเล่นก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด นั่นคือหน้าที่ของคนทำงานที่ดี จะว่าไป เวลเบ็ค ก็อายุ 22 ปีเท่านั้น ยังมีโอกาสเติบโตอีกเยอะ หลายคนเลยให้โอกาส แต่มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้หรือเปล่า ถ้าวัดจากผู้เล่นรุ่นราวคราวเดียวกันในระดับทีมหัวแถวเหมือนๆ กัน ถึงอย่างนั้นก็ยังปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าหมอนี่ไปทำเสน่ห์ยาแฝดที่สำนักไหนมา บรรดากุนซือถึงได้รักได้เอ็นดูกันยกใหญ่

เอาสถิติมาให้ดูกันเลยดีกว่า ฤดูกาล 2011-12 เวลเบ็ค ที่วัยเพียง 20 ปีได้รับโอกาสจาก เซอร์ อเล็กซ์ ให้ลงเล่นในเกมลีกถึง 30 นัด เป็นตัวจริงถึง 23 นัดเลยทีเดียว และตอนนั้นเขาก็ทำประตูได้ถึง 9 ประตู ฤดูกาลต่อมา โดนถ่างไปเล่นปีกซ้ายมากขึ้นทำประตูได้เพียงลูกเดียวในลีก แต่ก็ได้โอกาสถึง 23 นัด แต่โอกาสเป็นตัวจริงลดลงเหลือ 13 นัด อาจเพราะการเข้ามาแย่งตำแหน่งของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หรือเพราะ "เฟอร์กี้" เริ่มรู้สึกเซ็งผลงานก็ไม่มีใครรู้ใจ "ป๋า" ได้เลย ถัดมาถึงยุคของ เดวิด มอยส์ ก็เลือกใช้งาน เวลเบ็ค ถึง 6 นัดจากที่ทีมเล่นไป 8 นัด ในลีก โดยเป็นตัวจริงถึง 4 เกม และกดไปแล้ว 2 ประตู ขอโทษ ที่ไม่ได้ลงน่ะเพราะเจ็บนะครับ เรียกว่าถ้าฟิตสมบูรณ์มีชื่อในทีมและได้โอกาสลงเล่นแทบจะแน่นอนเลยก็แล้วกัน รักไม่รัก คิดดู

 

*ข้อดีที่ ป๋า รวมถึงหลายๆ คนมองเห็น ก็คือสปีดต้นและการหาช่องวางที่ยอดเยี่ยม แต่จบสกอร์ไม่อยากจะคิด

หลายคนคิดว่านั่นเพราะเป็นสโมสร และเป็นที่ๆ เวลเบ็ค เติบโตมาหรือเปล่า เลยให้โอกาส แต่กับ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ก็โดนมนต์เสน่ห์ของ เวลเบ็ค เหมือนกัน เรียกติดทีมทุกครั้งถ้าไม่บาดเจ็บ และถ้าไม่มีอะไรขัดข้องก็ได้ลงเล่นอยู่แทบทุกนัดแบบเหลือเชื่อ ทั้งๆ ที่ผลงานก็ไม่ได้ดีมากมายเลย แค่แตะมาตรฐาน (ที่ค่อนข้างต่ำ) ของตัวเองก็เท่านั้น ไม่ใช่คนที่ลงมาเปลี่ยนเกม หรือขับเคลื่อนเป็นความหวังทีมได้เลย มันอาจเพราะ "สิงโตคำราม" ไม่มีนักเตะตำแหน่งหัวหอกให้ใช้งานมากพอ แต่หากวัดจากผลงาน หมอนี่ควรติดทีมชาติจริงๆ เหรอ

ผมเชื่อว่าไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่คิดว่าทำไมคนที่มันทำผลงานได้ไม่ดีจนไม่สมควรได้โอกาส มันถึงได้โอกาสอยู่จากบรรดาโค้ชอยู่บ่อยครั้งเชียว แต่อย่าลืมว่ามุมหนึ่งที่โค้ชเห็นแต่เราไม่เห็นคือการ "ซ้อม" ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะส่วนหนึ่งในการพิจารณาการส่งนักเตะลงสนาม และนี่น่าจะเป็นเหตุผลหลักก็เป็นได้ ที่ เวลเบ็ค ได้รับความไว้วางใจครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าใครจะเป็นผู้จัดการทีม

*ถ้าไม่นับช็อตนี้ เวลเบ็ค ถือว่าเล่นดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการมาทัวร์เมืองไทย

บอกตามตรงผมเคยไปดู "ปีศาจแดง" ซ้อมกับตามาแล้วตอนที่พวกเขามาเมืองไทย ได้เห็น เวลเบ็ค กับซ้อมกับตาตัวเอง ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าถ้าผมเป็นโค้ช ก็อาจส่งเขาลงเล่นก็ได้ เพราะเขาเป็นหนึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดในทีมวันนั้นเลยทีเดียว เขาค่อนข้างผ่อนคลาย เล่นกับเพื่อนได้เป็นธรรมชาติ แม้จังหวะจ่ายบอล เปิดบอลอาจไม่ดีเด่แต่ก็ไม่ได้แย่ หาโอกาสสอดมาหน้าประตูได้บ่อยๆ ลูกเล่นต่างๆ ที่มักใช้อย่างการไขว้ยิง ไขว้เปิด ก็ทำได้อย่างไหลลื่น แถมยังขยันไล่บอลเป็นประโยขน์ต่อทีมมากๆ และถัดจากนั้นหนึ่งวัน ก็อย่างที่ทุกคนได้เห็นว่า ขนาดเล่นกับ ออลสตาร์ ไทยลีก "พี่แดน" ยังห่วยได้เกินเยียวยา

ถ้าเขาเอาความสนุกกับเกม ความกล้าเล่นแบบตอนซ้อม ไม่ลดความกดดันตัวเอง ไม่ให้ทำหน้าเครียดอยู่ตลอดเวลาที่ลงสนามจริงๆ ได้คงดีไม่น้อย ก็อย่างที่บอกผมคงทำตัวไม่ถูก ใจหนึ่งก็คิดว่ามันไม่สมควรได้โอกาสแล้ว ใจหนึ่งก็คิดว่าเด็กอายุ 22 ปีที่ขยันแบบนี้ ควรได้โอกาส แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเวลาเขาคนนี้ได้ลงสนามคือ อยากด่ามันทุกครั้งที่จับบอล จริงๆ

"FIATTA"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook