ทีมของ มอยส์?

ฟุตบอล : แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลยในช่วงยุคสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่นักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกล้าๆ ให้สัมภาษณ์โพล่งเป็นเชิงวิจารณ์ผลงานของทีม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเชิงไม่เคารพยำเกรงเจ้านาย

แต่ในยุคของ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ปรากฏว่านักเตะ "ปีศาจแดง" อย่างน้อยๆ 3 หน่อเข้าไปแล้วที่ออกมาจัดหนักใส่เจ้านายผู้เคารพรัก (?) ชนิดไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมแต่อย่างใด

หากลองเป็น "เฟอร์กี้" แล้วล่ะก็ โดนแบบนี้ 3 รายที่ว่าคงได้อัปเปหิไปค้าแข้งกับทีมอื่นแล้วโดยไม่สนใจว่าจะเก่งมาจากไหน หลังมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วในกรณี ยาป สตัม, รอย คีน รวมถึง เดวิด เบ็คแฮม

เข้าใจได้ว่าด้วยผลงานของทีมในขณะนี้ซึ่งเข้าขั้นย่ำแย่อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยการรั้งอันดับที่ 9 ใน พรีเมียร์ลีก ทำให้นักเตะในทีมต้องออกมาระบายความอัดอั้นกันบ้าง

เริ่มต้นจากติติงกันเองเพื่อกระตุ้นผลงานในสนาม แต่หลังจากนั้นมันไม่ใช่การติติงกันเองอีกต่อไปแต่ลามปามไปถึงเรื่องอื่นๆ อย่างการฝึกซ้อม การบริหารจัดการ หรือพูดง่ายๆ ก็ด่า มอยส์ ทางอ้อมนั่นล่ะ

 

ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก๋ามากอิทธิพลประจำทีม เป็นคนแรกๆ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์วิจารณ์เรื่องการบริหารนักเตะของอดีตกุนซือเอฟเวอร์ตัน ซึ่งไม่ใช่แค่ทำได้ไม่ดี แต่เล่นเอานักเตะจิตตกกันไปเป็นแถบ

ปกติแล้วแนวรับเชิงสูงรายนี้จะเป็นตัวตั้งตัวตีในการปลุกระดมให้ทีมลุกขึ้นสู้ แต่พอมาเปิดฉากจวกกันเองแบบนี้ก็น่าจะสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งห้องแต่งตัวได้เหมือนกัน

ขณะที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งแม้จะเพิ่งย้ายมาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ ณ เวลานี้ สถานะของเจ้าตัวก็จัดว่าเป็นหัวโจกคนหนึ่งไปแล้วนั้นก็มีข่าวออกมาบ่นด้วยเหมือนกันว่าการซ้อมของ มอยส์ เน้นเรื่อง "ร่างกาย" เกินความจำเป็น

ซ้อมหนักแล้วไม่ดี? หากเป็นการซ้อมทั่วไปเหมือนอย่างในยุคก่อนหน้านี้ "อาร์วีพี" คงไม่บ่น แต่การซ้อมแบบอย่างที่โค้ชประจำทีมชาติฮอลแลนด์ด่าว่าเป็นการซ้อมแบบ "คร่ำครึ" มันทำให้ดาวยิงรายนี้เจ็บออดๆ แอดๆ อีกแล้ว

แม้จะเป็นแค่รายงาน เป็นแค่ข่าวลือ แต่ ฟาน เพอร์ซี่ เลือกจะปิดปากเงียบ ไม่สนใจออกมาแก้ข่าว เหมือนกันกับเรื่องจะขอขึ้นบัญชีย้ายทีม เดือดร้อนจน มอยส์ ต้องรีบออกตัวมาแก้ข่าวให้เรื่องมันจบลงอย่างรวดเร็ว

 

2 รายแรกยังพอทำเนา ตามประสาของพวกตัวเก๋าที่จะต้องเป็นกระบอกเสียงให้กับรุ่นเด็กๆ ในทีม แต่นี่อะไร กระทั่ง จอนนี่ อีแวนส์ ยังกล้าจะออกมาให้สัมภาษณ์กระทบเจ้านายกับเขาด้วย

กองหลังเด็กปั้นจากรั้วอะคาเดมี่สโมสรซึ่งเพิ่งจะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นตัวหลักให้กับทีมได้นั้นเปิดปากให้การว่าทีมก็ยังคงเล่นกันได้ตามมาตรฐานปกติ แต่สิ่งที่ขาดไปตอนนี้ก็คือ "ความมั่นใจ"

คำถามก็คือหากผองแข้งแมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองเหมือนเคย แล้วไอ้ความมั่นใจที่ว่าหายไปนั้น สาเหตุมันมาจากไหน?

ว่ากันว่าบุคลิกของกุนซือจะสะท้อนออกมาผ่านทางลูกทีมที่ลงไปวาดลวดลายอยู่ในสนาม แข็งกร้าวไม่ยอมแพ้อย่าง เซอร์ อเล็กซ์ หรือจะละเมียดละมุนละไมอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์

แต่กับ มอยส์ สภาพจิตใจยังดูสับสนไม่รู้จะเอาอย่างไรกันแน่ ทั้งในส่วนของทิศทางการเล่น หรือนักเตะแกนหลักซึ่งจนถึงบัดนี้ยังหา 11 ตัวจริงไม่เจอ จะมีแค่ เวย์น รูนีย์ (แน่นอน), อีแวนส์, ไรอัน กิ๊กส์ รวมถึง ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่ดูเข้าข่าย

แม้จะเริ่มต้นสร้าง "ทีมของตัวเอง" ด้วยการนำสตาฟฟ์ติดสอยห้อยตามกันมาจากเอฟเวอร์ตัน พร้อมๆ กับทยอยปลดคนเก่าคนแก่ในยุคก่อนออกไปจนแทบเหี้ยน แต่ดูเหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ก็ยังคงไม่ใช่ทีมของ มอยส์ อยู่ดี

 

เซอร์ อเล็กซ์ เคยกล่าวไว้ว่าหากจะคุมทีมให้ประสบความสำเร็จ อันดับแรกคุณต้องยึด "ห้องแต่งตัว" ให้ได้ก่อน หากนักเตะพร้อมจะสู้ตายถวายหัวเพื่อคุณแล้วล่ะก็ ทุกอย่างมันก็ง่ายขึ้นแล้ว

แต่ดูเหมือน มอยส์ จะยัง "ยึดพื้นที่" ไม่สำเร็จ

บุคลิกห้าวหาญ กล้าได้กล้าเสีย อย่างที่เคยเห็นสมัยอยู่ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เจือจางเต็มที เหลือแต่ มอยส์ ซึมป๋อยใต้ชายคาม้านั่งสำรองโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เท่านั้น

หาก มอยส์ อยากจะพาทีมพลิกนรกกลับมาไล่ล่าความสำเร็จให้ได้อีกครั้ง การผ่าทีมครั้งใหญ่ถือเป็นสิ่งจำเป็น นักเตะที่พร้อมจะเล่นเพื่อเขาเท่านั้นที่สมควรจะได้ไปต่อ ส่วนพวกที่ยังเห็นแก่ความสำเร็จส่วนตัวตามเทรนด์พ่อค้าแข้งสมัยนี้ก็สมควรจะไปทำมาหากินกับสโมสรอื่นต่อไป

อาจจะต้องใช้เวลาสักนิด แต่คงไม่นานเกินกว่าระยะสัญญาที่เซ็นเอาไว้นานถึง 6 ปี

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด ทีมของ มอยส์ ก็คงจะสร้างให้เสร็จภายในช่วงระยะเวลาเดี๋ยวเดียวฉันนั้น

สู้ต่อไป เดวิด มอยส์!!!

นนท์