หงส์แดง ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

หงส์แดง ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

หงส์แดง ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : จากเหตุกราดยิง นำมาสู่การนองเลือดและตายหมู่ที่สนามแอนฟิลด์ เล่นเอาพลพรรค "ปืนใหญ่" เดินทางกลับกรุงลอนดอนแทบไม่ถูก

จากเหตุกราดยิง นำมาสู่การนองเลือดและตายหมู่ที่สนามแอนฟิลด์ เล่นเอาพลพรรค "ปืนใหญ่" เดินทางกลับกรุงลอนดอนแทบไม่ถูกนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลยที่บรรดา "เดอะ ค็อป" จะตีปีกกันพั่บๆ ถึงความสำเร็จในฤดูกาลนี้ ที่อาจเป็นรูปเป็นร่างมากที่สุดตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา และเมื่อดูรวมกับองค์ประกอบต่างๆ แล้ว ผมจะยกให้ "หงส์แดง" เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ก็คงไม่เกินเลย

แน่นอนสกอร์ 5-1 อาจดูโหดร้ายเกินความเป็นจริง หากมองจากชื่อชั้นของทั้งสองทีม อาร์เซน่อล ที่ก่อนหน้านี้รั้งจ่าฝูง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็เป็นทีมอันดับ 4 มีแต้มห่างกัน 8 แต้ม แต่เกมนัดนี้กลับจบเร็วกว่าปกติ เมื่อเห็นหน้าผู้ชนะเสียแล้วเพียงแค่เวลาผ่านไป 20 นาทีเท่านั้น เมื่อ มาร์ติน สเคอร์เทล, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ บรรจงกดประตูให้ทีมนำ 4-0 ทำเอา "เดอะ กันเนอร์ส" ที่ได้ชื่อว่าแรงสุดๆ ในซีซั่นนี้ไม่เหลือเค้าทีมลุ้นแชมป์แม้แต่น้อย

ลิเวอร์พูลเล่นแบบนี้ก็ต้องขอชมว่า "สะเด่าไปเลยอีน้อง"

ผมอยากยกเครดิตส่วนหนึ่งในลูกเล่นของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของทีมที่ให้สัมภาษณ์ก่อนแข็งนัดนี้ว่ายกธงขาวกับการลุ้นแชมป์ลีกไปเป็นที่เรียบร้อย ปล่อยให้ "ม้า 3 ตัว" ตามที่ โชเซ่ มูรินโญ่ วิ่งควบแข่งกันไปก็แล้วกัน แต่ที่ไหนได้ พอกรรมการเป่านกหวีดปุ๊บ ประตูแรกจากทีมที่ไม่อยากลุ้นแชมป์ สอยทีมจ่าฝูงเสียตั้งแต่นาทีแรกเลย

แต่ถึงจะยกยอปอปั้นกันมากแค่ไหน นั่นมันก็ยังเป็นแค่เกมนัดเดียว ไม่ใช่เหตุผลที่ผมบอกว่า "หงส์แดง" เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่ผมซึ่งเป็นแฟนบอลคู่แข่งตัวฉกาจยกให้อริตลอดกาลขนาดนี้เพราะแฟนบอลครับ ผมนับถือหัวใจพวกเขา

แฟนบอลลิเวอร์พูล ได้ชื่อว่าเป็นกองเชียร์ที่จงรักภักดีที่สุดทีมหนึ่งในโลก พวกเขายังคงติดตามทีมรักมาจากความรุ่งเรื่องในทศวรรษ '80 แม้ว่าทีมจะทะยานไม่ออกในลีก เนื่องจากคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไม่ได้มา 23 ปี แต่ก็ยังตามให้กำลังใจมาตลอด พร้อมกับความหวังที่ไม่เคยลดน้อยลงแม้แต่ฤดูกาลเดียว

สิ่งที่แฟนลิเวอร์พูลมีอยู่เสมอก็คือการกระตุ้นตัวเองให้เชียร์ทีมอย่างมีจุดมุ่งหมาย

ว่ากันตามตรงกองเชียร์ "เร้ด แมชีนส์" เริ่มต้นฤดูกาลด้วยความหวังคว้าแชมป์ลีกเสมอๆ และเป้าหมายนั้นก็ค่อยๆ ลดลงเหลือแค่ท็อปโฟร์บ้าง พื้นที่ยุโรปบ้าง แชมป์บอลถ้วยบ้าง แล้วแต่ผลงานของทีม แต่ไม่ว่าจะดีจะร้าย ก็ยังยืนเคียงข้างกันตามสโลแกน "ยู วิล เนเวอร์ วอล์ค อโลน" มีด่ามีวิจารณ์กันไปตามเรื่อง แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินคำว่า "แม่งเลิกเชียร์" ออกจากปากพวกเขาเลยจริงๆ

ซึ่งถ้าย้อนกลับไปดูทีมผมเอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่แค่การที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือระดับตำนานวางมือแล้วส่งไม้ต่อให้ เดวิด มอยส์ เท่านั้น แต่บรรดาบอร์ดบริหารก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยเป็น เอ็ด วู้ดวาร์ด ที่รับตำแหน่งรองประธานมาดูแลเรื่องซื้อขายนักเตะแบบเต็มตัว ทุกอย่างยังใหม่ก็จริง แต่ผลงานที่ออกมามันก็เกินกว่าที่ประเมินกันไว้ในตอนแรก และค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้บรรดากองเชียร์ "ปีศาจแดง" หลายคนเริ่มบ่น และทำตัวรับไม่ได้กับการที่ทีมไม่ได้ลุ้นแชมป์เป็นฤดูกาลแรกในรอบหลายปี และถึงขั้นประกาศเลิกเชียร์

โดนตีเสมอท้ายเกมอย่างน่าเจ็บใจสำหรับแฟนผีที่เสพติดความสำเร็จจนเคยตัว

การที่ทีมฟุตบอลทีมหนึ่งจะมีกองเชียร์ที่จงรักภักดีกับสโมสรได้มากมายนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ทำความสำเร็จได้ แต่ต้องซื้อใจแฟนบอลได้ด้วย บางทีแฟน "ปีศาจแดง" อาจเคยชินกับความสำเร็จจนเกินไป ทำให้ทนต่อความล้มเหลวไม่เป็นท่าไม่ได้ ซึ่งหากเทียบกับ "เดอะ ค็อป" แล้ว พวกเขาเชียร์เพราะรัก ไม่ได้เชียร์เพราะทีมนี้เป็นแชมป์ และเชียร์ให้ทีมประสบความสำเร็จ ไม่ได้เชียร์เพราะทีมประสบความสำเร็จอยู่แล้ว

เจ๊โดนไป 5 ดอก

ดังนั้นผมมั่นใจเลยว่า แม้หากเทียบขุมกำลัง ลิเวอร์พูล อาจด้อยกว่า เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือแม้แต่ อาร์เซน่อล แต่พวกเขามีความใจสู้ ความทุ่มเท ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว กัปตันทีมใจเด็ด กุนซือมากฝีมือ และที่สำคัญ กองเชียร์ที่พร้อมขึ้นเหนือล่องใต้ ลงเรือลำเดียวกัน ไม่ว่า "หงส์แดง" จะยืนในจุดไหน ดังที่กล่าวมา สโมสรที่มีฐานมั่นคงขนาดนี้ จะยกให้เป็นทีมที่แกร่งที่สุดในปฐพีก็อาจไม่เกินเลย ความสำเร็จจะกลับมาเมื่อไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับเวลาและความสามารถในการต่อยอดจากรากที่มีเท่านั้น ซึ่งก็ไม่แน่ว่าอาจเป็นฤดูกาลนี้เลยก็ได้

ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ตามหลังจ่าฝูง เชลซี 6 แต้ม ไม่ใช่ระยะที่ไล่ไม่ทัน เป็นระยะกำลังพอกิน แถมยังเหลือเกมกับทีมไล่ล่าแชมป์ด้วยกันให้ตัดแต้มด้วย พร้อมสถิติล่าสุดภูมิใจนำเสนอ ฤดูกาลสุดท้ายที่ "หงส์แดง" ยิง อาร์เซน่อล ได้ 5 ลูกนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1964 ซึ่งฤดูกาลนั้น พวกเขาเป็นแชมป์ลีก ดังนั้นอะไรๆ ก็ยังไม่แน่ ที่ "บี-ร็อด" บอกไม่อยากลุ้นแชมป์นั้น มาถึงตรงนี้คงต้องกลืนน้ำลายด้วยความเต็มใจแล้ว

"สุกรโลกันต์"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook