นกน้อยหัวแดง ไล่จิกเหยี่ยวมรกต เข้าชิงซูเปอร์โบว์ลหนแรก เจอคนเหล็ก ที่ไล่ทุบ อีกาผยอง เรเวนส์ แบบ

แอริโซนา 7 17 0 8 32 ฟิลาเดลเฟีย 3 3 13 6 25 ที่ เกล็นเดล,แอริโซนา : ในที่สุดนกน้อยหัวแดง แอริโซนา คาร์ดินัลส์ ก็สมหวังกับการเดินหน้าเข้า สู่ซูเปอร์โบว์ลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีม งานนี้ฮีโร่คงไม่หนีปีก ลาร์รี่ย์ ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่รับคนเดียวทำ 3 ทัชดาวน์ในครึ่งแรกก่อน เคิร์ธ วอร์เนอร์ จะมาขว้างลูก 8 หลาให้รันนิ่งแบ็กรุกกี้ ทิม ไฮช์โทเวอร์ วิ่งทำทัชดาวน์ส่งท้ายขณะเหลือ 2:53 นาทีช่วยให้ คาร์ดินัลส์ ถอนแค้นคืนที่บุกไปแพ้แบบยับเยิน ในวันขอบคุณพระเจ้ามาเอาชนะเหยี่ยวมรกต ฟิลาเดลเฟีย อีเกิ้ลส์ คืน 32-25 เดินหน้าเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ลเป็นทีมแรก แม้ครึ่งหลังควอเตอร์แบ็ก โดโนแวน แม็คนับบ์ จะเล่นเป็นพระเอกพา อีเกิ้ลส์ กลับมาแต่การที่เขาพลาด 4 หนเมื่อบุกข้ามครึ่งสนามมาได้ส่งผลให้ทีมแพ้ไปในที่สุด แอริโซนา (12-7) เก็บเสื้อผ้าแพ็กกระเป๋าเดินหน้าสู่ แทมป้า,ฟลอริดา ลุ้นแชมป์ซูเปอร์โบว์ลเป็นทีมแรกนอก จบครึ่งแรก แอริโซนา ที่เข้าสู่รอบชิงแชมป์สาย ในฐานะทีมอันดับ 4 ทีมแรกทำให้หัวใจแฟนตนเองพองโตเมื่อนำทีมเยือน อีเกิ้ลส์ ไปก่อน 24-6 ต่างจากครั้งแรกที่เจอกัน แต่เมื่อเข้าสู่ครึ่งหลังแฟน คาร์ดินัลส์ ได้แต่ภาวนาไม่ให้เทพีแห่งโชค ทิ้งทีมโปรดของพวกเขาไปเมื่อ อีเกิ้ลส์ ทำรวดเดียว 19 คะแนนแซงขึ้นมานำเป็นครั้งแรกของเกม 25-24 เมื่อเข้าสู่ควอเตอร์สุดท้าย อย่างไรก็ตามสิงห์เฒ่ามากประสบการณ์วัย 37 ปี วอร์เนอร์ ซึ่งเคยประสบความสำเร็จพา แรมส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลมาแล้วก็พาทีมรุกคืบหน้าทำระยะขึ้นมา 72 หลาก่อนจบลงด้วยการขว้างลูก 8 หลาทำทัชดาวน์ที่ 4 ของวันนี้ให้กับ ไฮช์โทเวอร์ รับก่อนวิ่งเข้าสู่เอนด์โซนจากนั้น คาร์ดินัลส์ ก็เสี่ยงเล่น 2 คะแนนเมื่อ วอร์เนอร์ ขว้างลูกให้ เบ็น แพทริก รับสำเร็จทำให้ทีมนำ อีเกิ้ลส์ ห่างเป็น 32-25 ชัยชนะในครั้งนี้ของ คาร์ดินัลส์ ต้องยกนิ้วให้ ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่กลายเป็นฮีโร่เมื่อรับลูกไป 9 ครั้งทำระยะได้ 152 หลารวมถึงรับลูกสำคัญ 2 หนที่ทำให้เขาก้าวขึ้นแซงหน้าปีกรุ่นพี่ในอดีตอย่าง เจอร์รี่ย์ ไรซ์ กับระยะในเพลย์ ออฟ ไปแล้ว 419 หลาและการเอาชนะ ฟอลคอนส์ ตามด้วย แคโรไลนา และจบที่ อีเกิ้ลส์ ทำให้ ณ เวลานี้ คาร์ดินัลส์ ทุบสถิติในการลงเล่นเพลย์ ออฟ นับตั้งแต่ปี 1933 ลงได้เป็นที่เรียบร้อย ขณะเดียวกัน คาร์ดินัลส์ ยังทำสถิติกลายเป็นทีมแรกที่ชนะแค่ 9 นัดในฤดูกาลปรกติที่เข้าถึงซูเปอร์โบว์ลได้นับตั้งแต่ปี 1979 ที่ แรมส์ ไปแพ้ สตีลเลอร์ส มาขณะเดียวกันนี่ถือเป็นซี่ซั่นที่น่าผิดหวังของ อีเกิ้ลส์ ที่เข้าสู่รอบชิงแชมป์สายได้ 5 จาก 8 ครั้งหลังก่อนมาผิดหวังเป็นครั้งที่ 6 วอร์เนอร์ ขว้างลูกให้ปีกรับได้ 21 จาก 28 ครั้งกับระยะ 279 หลาและ 4 ทัชดาวน์ขณะที่ แม็คนับบ์ ขว้างได้ 27 จาก 46 ครั้งกับระยะอีก 375 หลา คาร์ดินัลส์ ขึ้นนำคู่แข่งไปก่อน 7-0 เมื่อ วอร์เนอร์ พาทีมบุกขึ้นมา 9 ครั้งทำระยะได้ 80 หลารวมถึงที่ขว้าง 4 ครั้งให้ เอ็ดเกอร์ริน เจมส์ รับกับวิ่งไป 33 หลาก่อนมาจบที่ ฟิตซ์เจอรัลด์ รับทำทัชดาวน์ แม็คนับบ์ พา อีเกิ้ลส์ บุกกลับมาแต่จบลงด้วยการให้ เดวิด เอเคอร์ส ลงมาเตะฟิลด์โกล์ระยะ 45 หลาเข้าไปยืดสถิติเป็นเตะไม่พลาดในเพลย์ ออฟ เป็น 19 ครั้งกลายเป็นสถิติใหม่ของ NFL Key stat : ถึงเวลานี้กับการเล่นในรอบเพลย์ ออฟ ของ คาร์ดินัลส์ กับการทำสถิติ takeaways ได้อีก 3 ครั้งทำให้พวกเขามีผลต่างของการ turnover ไปแล้ว -9 Noteworthy : ดีเฟนซีฟเอนด์ ทราวิส ลาบอย ต้องออกจากเกมไปในควอเตอร์แรก และไม่กลับมาลงเล่น อีกเลย......ควอเตอร์แบ็ก โดโนแวน แม็คนับบ์ และโค้ช แอนดี้ รีด ของ อีเกิ้ลส์ พาทีมลงเล่นรอบชิงแชมป์สายมีสถิติ 4-1......ไทต์เอนด์ เบร็นต์ เซเลก ของ อีเกิ้ลส์ รับลูกได้มากสุดในชีวิตการเล่น 10 ครั้งกับระยะ 83 หลาและอีก 2 ทัชดาวน์.....ปีก อันฆวน โบลดิน ของ คาร์ดินัลส์ ทีรับลูกไป 4 ครั้งทำระยะได้ 34 หลาลงเล่นทั้งที่ยังเจ็บเอ็นร้อยหวาย พิตส์เบิร์ก 6 7 3 7 23 บัลติมอร์ 0 7 0 7 14 ที่ พิตส์เบิร์ก : คนเหล็ก สตีลเลอร์ส ชูธงทีมรับไล่ถล่มเพื่อนร่วมกลุ่ม บัลติมอร์ 23-14 ในรอบชิงแชมป์สายฝั่ง AFC เดินหน้าเข้าไปเจอกับนกน้อยหัวแดง คาร์ดินัลส์ ต่อไปในเกมซูเปอร์โบว์ลที่ แทมป้า,ฟลอริดา ต้นเดือน ก.พ.ที่จะมาถึง แซนโตนิโอ โฮมส์ รับลูกก่อนวิ่ง 65 หลาทำทัชดาวน์ในควอเตอร์ 2 ก่อนที่เซฟตี้ ทรอย โพลามาลู จะมาอินเตอร์เซปต์วิ่งย้อน 40 หลาทำทัชดาวน์ขณะเหลือ 4:24 นาทีย้ำชัยให้เจ้าบ้าน สตีลเลอร์ส (14-4) ที่จะมีเวลาพัก 2 อาทิตย์ก่อนบินไปที่ แทมป้า เจฟฟ์ รีด เตะอีก 3 ฟิลด์โกล์ให้ สตีลเลอร์ส ที่หวังจะคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลเป็นสมัยที่ 6 ขณะเดียวกันคู่ชิง ซูเปอร์โบว์ลก็กลายเป็นการเผชิญหน้าของศิษย์เก่า เค็น ไวเซ็นฮันต์ เคยทำหน้าที่โค้ชทีมบุกให้ สตีลเลอร์ส ชุดที่คว้าแชมป์เมื่อ 3 ปีที่แล้วมาก่อนก่อนที่ ไวเซ็นฮันต์ ซึ่งขณะนั้นรับตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช รัส กริมม์ จะโยกย้ายมารับตำแหน่งโค้ชใหญ่ คาร์ดินัลส์ ต่อไปและเหมือนกับ 2 ครั้งที่ผ่านมาที่ทีมรับ สตีลเลอร์ส ทำให้ควอเตอร์แบ็กรุกกี้ โจ ฟลัคโก้ ต้องพบกับฝันร้ายตลอดทั้งเกมก่อนขว้างลูกให้ปีกรับได้ 13 จาก 30 ครั้งกับระยะ 141 หลาและพลาดถูกไป 3 อินเตอร์เซปต์ส่วน Big Ben เบ็น โรธลิสเบอร์เกอร์ ที่เคยเจอฝันร้ายกับการลงเล่นในฐานะรุกกี้ปีแรกนัดเจอ นิวอิงแลนด์ เมื่อขว้างพลาดถูกไป 4 อินเตอร์เซปต์ก็ขว้างลูกให้เพื่อนร่วมทีมรับได้ 16 จาก 33 ครั้งกับระยะ 255 หลาโดยไม่มีผิดพลาดถูกอินเตอร์เซปต์ หลัง โพลามาลู อินเตอร์เซปต์วิ่งย้อน ทำทัชดาวน์ให้ทีมขณะเหลือ 4:39 นาทีบรรดาแฟน สตีลเลอร์ส ก็นำผ้าเหลืองมาโบกแสดงให้เห็นว่า สตีลเลอร์ส กำลังเดินหน้าเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ลเป็นหนที่ 7 ซึ่งที่ผ่านมามีแค่ 49ers,คาวบอยส์ และสตีลเลอร์ส เพียง 3 ทีมเท่านั้นที่คว้าแชมป์มาครองได้5 สมัย โดยขณะนี้ สตีลเลอร์ส กำลังจะกลายเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 6 ขณะเดียวกัน ทอมลิน ก็จะกลายเป็นโค้ชที่มีอายุน้อยสุดแค่ 36 ปีที่พาทีมคว้าแชมป์มาครองได้ นอกเหนือจากความพ่ายแพ้แล้ว เรเวนส์ ยังต้องจ่ายด้วยการเสียรันนี่งแบ็ก วิลลิส แม็คกาฮี ที่หัวชนหัวกับเซฟตี้ ไรอัน คลาร์ก ของ สตีลเลอร์ส ด้วยตลอดทั้งเกมทีมรับ สตีลเลอร์ส กดดัน ฟลัคโก้ ที่หวังจะกลายเป็นรุกกี้ควอเตอร์แบ็กคนแรกที่พาทีมเข้าถึงซูเปอร์โบว์ล Key stat : ก่อนลงสนาม ฟลัคโก้ ทำสถิติขว้างไม่เคยพลาดถูกอินเตอร์เซปต์และถูกแซ็กมา 45 ครั้งจากที่ขว้างไปแต่มาเกมนี้เขาโดนไป 3 อินเตอร์เซปต์กับถูกแซ็กไป 3 ครั้งโดย สตีลเลอร์ส เรเวนส์ เสีย turnover -3 หลัง 2 เกมแรกทำไว้ 8 takeaways 1 turnover Noteworthy : สตีลเลอร์ส เดินหน้าเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ลเป็นครั้งที่ 7 ถือว่ามากสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก คาวบอยส์ ที่ทำไว้ 8 ครั้ง......พิตส์เบิร์ก ทำสถิติ 8-0 กับการลงเล่นเพลย์ ออฟ เจอกับทีมในกลุ่มเดียวกัน......นับตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา พิตส์เบิร์ก กลายเป็นทีมที่ 12 ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ 3 ครั้งในซีซั่นเดียวกัน.......กับการพาทีมชนะในเพลย์ ออฟ เป็นครั้งที่ 7 Big Ben เบ็น โรธลิสเบอร์เกอร์ ทำสถิติแซงหน้า ทรอย เอคแม่น ที่รั้งอันดับ 2 ตลอดกาลของควอเตอร์แบ็กที่พาทีมชนะมากสุดกับการลงเล่น 5 ปีแรก....ปีก ไฮนส์ วอร์ด ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในควอเตอร์ 2 และไม่ลงเล่นอีกเลย