Blue Evolution

Blue Evolution

Blue Evolution
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อย กับศึกพรีเมียร์ ลีก นัดแรกของฤดูกาลทั้ง 10 คู่ พร้อมฟอร์มที่ไฉไลเป็นบ้าของ เชลซี ที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง สำหรับ แชมป์ในปีนี้ ที่ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1

แม้ว่าจะเป็นการเล่นเพียงแค่ แมตช์เดียว แต่เท่ากับว่า เราได้เห็นการปรับเปลี่ยน รูปแบบการเล่นของ เชลซี ในยุคของ มูรินโญ่ ไปพอสมควร โดยเฉพาะปัญหาเรื้อรังจากเมื่อฤดูกาลก่อน นั่นก็คือการยิงประตู
 
เมื่อซีซั่นที่แล้ว ปัญหาใหญ่ของ เชลซี นั้นก็คือตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า ที่ทั้ง เฟร์นานโด ตอร์เรส , ซามูเอล เอโต้ และ เดมบา บา นั้นยิงประตูได้น้อยนิด ซึ่ง มูรินโญ่ ก็เลือกที่จะแก้ไขมันด้วยการนำเอา ดีเอโก้ คอสต้า เข้ามาแทน ซึ่งดาวยิงทีมชาติสเปน เชื้อสายบราซิล รายนี้ สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้

ลูกนี้ดูเหมือนตามซ้ำง่าย แต่อย่าลืมถ้าเป็น ตอร์เรส ลูกนี้ผมให้ 50-50

เกมเมื่อคืน คอสต้า เองก็ไม่ได้มีโอกาสอะไรมากมาย แต่ว่า พอมีโอกาสแล้วเขาทำได้ และนั่น ทำให้ เชลซี สามารถกลับมาสู่เกมได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็นฝ่ายโดนนำไปก่อน
 
เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เชลซี คือหนึ่งในทีมที่สร้างโอกาสการทำประตูได้มากที่สุด เทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่พวกเขากลับเปลี่ยนเป็นประตู ได้น้อยกว่า สองทีมดังกล่าวประมาณ 30 ลูก ซึ่งการได้คอสต้า เข้ามาถือว่าตรงจุด
 
อีกจุดหนึ่ง ที่เชลซี เพิ่มเข้ามาก็คือ มิติในเกมแดนกลาง ที่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาจะมีแต่ กองกลางขาลุย อย่าง รามิเรส , เนมานย่า มาติช หรือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่อยู่กับทีมมานาน และเพิ่งย้ายออกไปเมื่อปิดซีซั่นที่ผ่านมา
 
แต่มาคราวนี้ เชลซี เลือกเติมมิติในแดนกลาง ด้วยการนำ เชส ฟาเบรกาส จอมทัพ จาก บาร์เซโลน่า มาร่วมทัพ ซึ่งจากที่เห็นในเกมนัดแรกนั้น เชส แทบจะไม่ต้องปรับตัวกับการเล่นในเกาะอังกฤษ เลย หลังจัดไป 2 แอสซิสต์

ลูกนี้ต้องคนเซนส์ดีจริงๆ เท่านั้นจ่าย และคนวิ่งไปรับต้องเข้าใจกันจริงๆ

ตำแหน่งที่ดีที่สุดของ เชส ก็คือ เล่น มิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกม คู่กับกองกลางตัวรับ ที่ต้องคอยเป็นลูกหาบให้กับเขา นั่นก็คือ เนมานย่า มาติช ซึ่งทำหน้านี่ตรงนี้ได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับตอนที่เขาอยู่กับ อาร์เซน่อล
 
เมื่อสมัยอยู่กับ บาร์เซโลน่า ถามว่า เชส เล่นได้ดีมั้ย ก็ถือว่าดี แต่มันก็ไม่ใช่ระดับที่ใครหลายคนคาดหวัง โอเคล่ะ ว่า เขายิงประตูได้ ทำแอสซิสต์ ได้ แต่การโดนดันขึ้นสูง มันทำให้เขาไม่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ผิดกับตำแหน่งปัจจุบัน
 
แต่จะให้เขาเล่นตำแหน่งถนัดก็ไม่ได้ เพราะว่า พระเอกของ บาร์ซ่า ก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ ส่วนคนที่จะทำหน้าที่ คอยส่งเสริม เมสซี่ ก็คือ ชาบี และ อันเดรส อิเนียสต้า ซึ่ง ทำให้ ความเด่นของ เชส โดนกลบไป ซึ่งการกลับมาคราวนี้ ทำให้ เชส คืนฟอร์มเก่ง และถือเป็นประโยชน์ของ เชลซี เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากการทำเกมแล้วเปิดลูกเตะมุมเป็นประตูแบบนี้

เกมเมื่อคืนเราได้เห็นการเคาะบอลตามช่อง ที่แทบจะไม่ได้เห็นเลย ในช่วงหลัง ซึ่งเมื่อคืนเราได้เห็นมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ปีที่สองของการทำทีมรอบสอง เนื่องจากว่านักเตะตัวเองนั้นเข้าขากันมากขึ้น บวกกับการได้บอลแบบคิลเลอรืพาส จาก เชส เข้ามา
 
ส่วนในตำแหน่งแนวรับ เหมือนตอนนี้จะเป็นที่ชัดเจนว่า ธิโบต์ กูร์กตัวส์ คือมือหนึ่งคนต่อไปของเชลซี ซึ่งแม้ว่า เมื่อวานเขาจะโดนยิงไป 1 ประตู แต่ว่ามันก็เป็นลูกสุดวิสัย
 
เขาอาจจะไม่ต้องออกแรงเซฟอะไรมากนัก แต่ก็ไม่มีพลาดง่าย ๆ ยืนตำแหน่งดี ออกมาตัดบอลไม่พลาด ซึ่ง ก็อยู่ที่ ปีเตอร์ เช็ก มือ 1 ของทีมตลอด 10 ปี ที่ผ่านมาจะตัดสินใจอย่างไร กับอนาคตของตัวเอง เพราะว่าฝีมือของเขาก็ยังเป็นระดับท็อป เพียงแต่เขาแก่กว่า กูร์กตัวส์ ที่ฝีมือไม่ต่างจากเขาถึง 10 ปี นั่นเอง
 
นอกจากตัวนักเตะที่ค่อนข้างพร้อมแล้ว มาบวกกับกึ๋นของ กุนซืออย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ทำให้ เชลซี กลายเป็นทีมที่น่ากลัวมากๆ และนี่น่าจะเหตุผลสำคัญ ที่ใครๆ ก็ยกให้พวกเขาเป็นเต็งหนึ่ง

แม้จะนำห่าง 3-1 แต่เมื่อลูกทีมเล่นพลาด "เฮียมู" จะออกมากระตุ้นทันที

เมื่อ 10 ปีก่อน เขาเคยเข้ามาพาเชลซี ที่รอบคอยแชมป์ลีกมานานครึ่งศตวรรษ คว้าแชมป์ได้สำเร็จ มาตอนนี้ แม้ว่า สไตล์การเล่นของ เชลซี พ.ศ.นี้ กับ เชลซี ยุคนั้น จะต่างกันพอสมควร แต่ก็คงต้องบอกว่า พวกเขาพร้อมแล้วล่ะ ที่จะกลับมาเขย่าวงการอีกครั้ง กับชายที่ชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่
 
เพราะคนอย่าง มูรินโญ่ คงไม่ยอมมือเปล่า สองปีติดเป็นแน่

The Nut
เขียนโดย : Love topman

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook