พรีวิว "บาร์เซโลน่า" 2014-15

พรีวิว "บาร์เซโลน่า" 2014-15

พรีวิว "บาร์เซโลน่า" 2014-15
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 22 สมัย รองจากเรอัล มาดริด แต่ทว่า ในรอบ 10 ปีหลังนั้น พวกเขาคว้าแชมป์ไปถึง 6 ครั้งด้วยกัน

ตลอดช่วงปีที่ผ่านมาของ “อาซูลกราน่า” มีการเปลี่ยนเปลี่ยนเยอะมาก ไล่ตั้งแต่บอร์ดบริหารที่มีข่าวฉาวเกี่ยวกับคอรัปชั่น จนต้องเปลี่ยนตัวกลางคัน ซึ่ง โจเซ็ป บาร์โตเมว ถูกแต่งตั้งขึ้นมาบริหารทีมแทน

ส่วนตำแหน่งผู้จัดการทีม เคราร์โด้ “ตาต้า” มาร์ติโน่ ก็ทนกระแสต่อต้านจากแฟนบอลรวมทั้งบอร์ดบริหารที่กดดันตลอดระยะเวลาที่ทำงานไม่ไหว ทำให้บอร์ดฟุตบอลที่นำโดย อันโดนี่ ซูบิซาร์เรต้า ไปดึงตัว หลุยส์ เอ็นริเก้ อดีตลูกหม้อเก่ากลับมาทำ

ซึ่งผลงานที่ตาต้าทำไว้ ในซีซั่นที่แล้ว ทั้งในแชมเปี้ยนส์ลีก และ บอลภายประเทศ ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก โดยถ้วยยุโรปพวกเขาไปแพ้ แอต.มาดริด ตกรอบเซมิไฟนอลด้วยอเวย์โกล ส่วนบอลลีกก็เป็นรองแค่แอต.มาดริด เช่นกัน

ภาพที่เหล่า "อาซูลกราน่า" อยากเห็นบ่อยๆในซีซั่นนี้

มาซีซั่นนี้ด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมทั้งนักเตะหน้าใหม่หลายคนที่ย้ายข้าวของเข้ามาในถิ่น คัมป์ นู พร้อมกับความหวังของทุกฝ่ายว่า บาร์เซโลน่าจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งจนได้

บาร์ซ่าใช้ช่วงเวลาพรีซีซั่นส่วนใหญ่อยู่นอกประเทศ โดยเน้นไปที่ยุโรปตอนกลาง ทั้งฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะกลับมาลองแข้งที่คัมป์นู ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้เป็นนัดสุดท้าย ก่อนจะเปิดบ้านรับมือเอลเช่ ในนัดเปิดฤดูกาล ในคืนวันอาทิตย์ที่ 25 เดือนนี้

ความคาดหวัง-คำทำนาย

สำหรับบาร์เซโลน่า ทุกๆ ซีซั่นพวกเขามีเป้าหมายเดียวก็คือแชมป์ในทุกๆ ถ้วยที่ได้ลุ้น หรืออย่างแย่ๆ เลยควรจะมีสองแชมป์ จาก 3-4 แชมป์ที่ได้ลงเล่น

แน่นอนว่าแชมป์เดียวบางครั้ง ก็ไม่ทำให้บอร์ดบริหารพอใจกับฟอร์มของลูกทีมและโค้ชเช่นกัน

ปีนี้อะไรๆ หลายๆ อย่างๆ กำลังเปลี่ยนขั้ว บาร์ซ่าเองก็มีการปรับปรุงทีมเยอะไปพอสมควร อะไหล่ที่เข้ามาอาจจะต้องใช้เวลาปรับจูน นักเตะซูเปอร์สตาร์หลายคนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

หากว่ายังวืดแชมป์อีกปี ก็คงไม่แปลกมากนั้นแต่ก็จะไม่หลุดเกินอันดับที่สองตามฟอร์ม ส่วนบอลถ้วยอาจจะมีติดมือ หากไม่ใช่ระดับทวีป ก็เป็นในประเทศของตัวเอง

การโยกย้ายเข้า-ย้ายออก

ย้ายเข้า – มาร์ค อันเดร เตร สเตเก้น (กลัดบัค 11ล้านยูโร), เคลาดิโอ บราโว่ (โซเซียดัด 11ล้านยูโร), อิวาน ราคิติช (เซบีญ่า 16ล้านยูโร), เฌเรมี่ มาติเยอ (บาเลนเซีย 18ล้านยูโร), หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล 70ล้านยูโร), โธมัส แฟร์มาเล่น (อาร์เซนอล 9ล้านยูโร)

ย้ายออก – อเล็กซิส ซานเชซ (อาร์เซนอล 33ล้านยูโร), เชส ฟาเบรกาส (เชลซี 29ล้านยูโร), โบยาน เคอร์คิช (สโต๊ค 5ล้านยูโร), คริสเตียน เตโญ่ (ปอร์โต้ ยืม), โจนาธาน ดอส ซานโต๊ส (บีญาร์เรอัล 2ล้านยูโร), อิซัค คูเอนก้า (ลา คอรุนญ่า ฟรี), เดนิส ซัวเรซ (เซบีญ่า ยืม)

หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าจอมกัดยังถูกแบนอยู่

ระบบทีม

จาก 4-3-3 ที่ตาต้าใช้งานประจำในซีซั่นก่อน ฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง อาจจะได้เห็น 4-2-3-1 ในฉบับของหลุยส์ เอ็นริเก้ บ้างซึ่งก็คงยังใช้สลับกันไปมา ตามแต่จังหวะเกม

ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงประจำที่หน้าเป้าตามเดิม เช่นเดียวกับ เนย์มาร์ ที่จะไปยืนด้านซ้าย ส่วนเปโดร จะประจำด้านขวาก่อน ทั้งหมดนี้คือแผนที่ยังไม่มี ซัวเรซ

แต่หาก “เจ้าเหยิน” พ้นแบนพร้อมลงสนามเมื่อไหร่ แนวรุกสามตัวที่อยู่หลังกองหน้า ในระบบ 3-1 จะเป็นแผนนี้เช่นกัน แต่ทว่า หลุยส์ ซัวเรซ จะเป็นหน้าเป้าแทน แล้วถอยเมสซี่ มาเป็นหน้าต่ำ เพื่อชงจังหวะเข้าทำของทีมบ้าง

มิดฟิลด์ตัวยืนแน่ๆ ก็คือ อันเดรส อินิเอสต้า ส่วนอีกคนที่จะคอยช่วยประคองเกม ชาบี อาจจะโรยราไปแล้วได้ลงเป็นบางนัด จะมี อิวาน ราคิติช เข้ามาช่วยอีกคนหนึ่ง กลางรับจะเป็นการเบียดตำแหน่งกันระหว่าง มาสเชราโน่ และ บุสเกตส์

กองหลังหากฟิตๆกันทุกคน ปิเก้ จะเป็นตัวหลัก มีแฟร์มาเล่น มาช่วยช่วยประคอง ทำให้ มาติเยอ ที่เข้ามาใหม่เช่นกันเป็นเพียงแค่ ตัวสำรอง

บาร์เซโลน่า (4-2-3-1)
        

บราโว่
อัลเวส    ปิเก้        แฟร์มาเล่น    อัลบา
 บุสเกตส์    อินิเอสต้า
 เปโดร        เมสซี่        เนย์มาร์
ซัวเรซ

โค้ช

หลุยส์ เอ็นริเก้

เป็นอดีตนักเตะของทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า เรื่องความรู้ในสนามนั้นวางใจได้เลยว่าเขาไม่เป็นสองรองใครแน่ๆ

แต่ด้านประสบการณ์นั้น ยังต้องพิสูจน์กับทีมใหญ่อีกหน่อย หลังจากเคยไปล้มเหลวกับโรม่า ก่อนจะกลับมาทำได้ดีกับเซลต้า บิโก้ เมื่อปีที่แล้ว

น่าสนใจว่า เด็กๆ ที่เขาสร้างขึ้นสมัยเริ่มเป็นโค้ชกับเยาวชน ในถิ่นนี้เอง จะนำมาใช้ได้ขนาดไหน เพราะบอร์ดก็จัดการซูเปอร์สตาร์มาให้เต็มทีมด้วย หากทำได้ดี สัญญายาวรอให้เซ็นแน่นอน หรือหากผลงานไม่ต่างจากตาต้า ก็คงตกเก้าอี้คล้ายๆกัน

คีย์แมน

ลิโอเนล เมสซี่

มีหลายคนคิดว่าว่าเมสซี่ ในวัย 27 ปี และเพื่อนๆ เลยจุดพีกที่สุดของการค้าแข้งมาแล้ว ซึ่งในระดับความสำเร็จของสโมสร เมสซี่ ทำมาหมดทุกอย่างครบถ้วนแล้ว

หากว่าเจ้าตัวยังไม่หมดไฟหรืออิ่มตัว เขาก็ยังมีดีพอจะพาบาร์ซ่ากลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง โดยปีนี้ มีซัวเรซ มาช่วยดึงตัวประกบให้เมสซี่ อิสระมากขึ้น อาจจะทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายกว่าเดิม

ปัจจัยนี้ จะทำให้เมสซี่ กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความสุขอีกครั้ง และพร้อมจะนำบาร์ซ่า กลับมาทวงแชมป์กับตราหมี และสู้ศึกเอล กลาซิโก้ ได้ดีแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook