การลงทุนมี ‘ความเสี่ยง’

การลงทุนมี ‘ความเสี่ยง’

การลงทุนมี ‘ความเสี่ยง’
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คงต้อง “สารภาพ” ว่า นั่งอมยิ้มอยู่มากกว่าหลังจากขมวดคิ้ว “ไตร่ตรอง” และถามความรู้สึกสุดท้ายว่า คิดอย่างไรกับ มาริโอ บาโลเตลลี่ จะย้ายมาลิเวอร์พูลจริงๆ?

เชื่อแน่ว่า คนทั้งโลกเห็น “เหมือนกัน” ว่า ซูเปอร์มาริโอ เป็นนักเตะที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ฝีเท้าเยี่ยม และสามารถสร้างความแตกต่างให้ทีมได้

แต่ “นอกสนาม” หมอนี่ คือ วายร้ายผ่าน “พฤติกรรม” ไม่เหมือนใคร หรือจะว่าไปแล้ว “ในสนาม” ก็สามารถสร้างเรื่องตั้งแต่โดนไล่ออกกระทั่งกระฟัดกระเฟียดกับเพื่อน หรือกุนซือได้ตลอดเวลา

โอ้เป็นตัวของโอ้เอง ใครจะทำไม?

เมื่อรู้แบบนี้ และทราบว่า มาริโอ ย้ายทีมมาแบบมี “แพ็กเกจ” ฝีเท้า พ่วงพฤติกรรม

แฟนหงส์แดงจะว่าอย่างไร?

ส่วนตัวก็เป็นอย่างที่เกริ่นไว้ต้นเรื่องครับ ผมชั่งน้ำหนักระหว่างด้านมืด กับด้านสว่างของหัวหอกวัย 24 ปี แล้วพบว่า การลงทุนครั้งนี้ “น่าเสี่ยง” ด้วยเหตุผลหลักๆ ดังต่อไปนี้:

1.ค่าตัวไม่ถึง 20 ล้านปอนด์ (16 ล้านปอนด์) กับหัวหอกอันดับ 1 ทีมชาติอิตาลี วัยเพียง 24 ปี จัดว่า “ถูก” ยิ่งกว่าขี้ซะอีก

2.แค่ตกเป็นข่าวจะซื้อ “มูลค่าสื่อ” ที่รายงานข่าวนี้พ่วงชื่อสโมสร “ลิเวอร์พูล” น่าจะมีมูลค่ามหาศาลหลัก “พันล้านบาท” สบายๆ

เพิ่งลงฟาดแข้งกับหงส์แดงไปหมาดๆช่วงปรีซีซั่น

3.ในแง่ธุรกิจ ไม่ว่าจะขายเสื้อพร้อมชื่อ + เบอร์บาโลเตลลี่ หรือหากเล่นไม่เวิร์กแล้วต้องการ “ขายต่อ”

โอกาส “ขาดทุน” ลิเวอร์พูลไม่มีเลย หนำซ้ำแค่ขายเสื้อแป๊บเดียวก็คง “เอาคืน” ค่าตัวทั้งหมดได้แล้ว

สุดท้าย หากเทียบกับดีล ราดาเมล ฟัลเกา วัย 28 ปี ที่รายงานแจ้งว่า “ยืมตัว” 1 ปี ต้องเสียเงิน 10 ล้านปอนด์

ผมว่า เพิ่มอีกแค่ 6 ล้านปอนด์ “ซื้อขาด” ซูเปอร์มาริโอ ดีกว่า

4.เปรียบเทียบ “แคนดิเดต” ระหว่าง มาริโอ กับคนอื่นๆ ที่เคยตกเป็นข่าวกับลิเวอร์พูลไม่ว่าจะเป็น โลอิก เรมี่, วินเฟร็ด โบนี่, ซามูเอล เอโต้ และฟัลเกาแล้ว

“ฝีเท้า” บาโลเตลลี่ ดีกว่า หรือไม่เป็นรองทุกรายชื่อข้างต้น

พิจารณาแบบนี้แล้ว ผมแทบไม่เห็นว่า “ความเสี่ยง” ในการเซ็นสัญญา บาโลเตลลี่ มาร่วมทีมจะไม่คุ้มค่า หรือไม่คู่ควรจะเสี่ยง

ผมไม่ได้พูดว่า ไม่มีความเสี่ยง แต่กำลังบอกว่า ความคุ้มค่า มันล่อตาล่อใจซะจนผมเอง “มองข้าม” ทุกความเสี่ยงไป

บีร็อด กับความท้าทายใหม่ จอมกัดไป จอมเกรียนมาแทน

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็น่าจะคิดเหมือนกัน

สรุป: อย่างร้ายๆ ละครฉากนี้คงจบอย่างที่ทราบๆ กัน แต่หาก “ซูเปอร์มาริโอ” โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจริงเหมือนที่ อันเดรีย ปีร์โล่ เอ่ยไว้

ลิเวอร์พูล จะยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 ซะอีกครับ!!!

ไข่มุกดำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook