อดีตแชมป์โลกแสบ-แสนศักดิ์สิ้นลม ปิดตำนานยอดมวยดังเมืองไทย

อดีตแชมป์โลกแสบ-แสนศักดิ์สิ้นลม ปิดตำนานยอดมวยดังเมืองไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ปิดตำนาน ไอ้แสบ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ อดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ และโด่งดังของเมืองไทย สิ้นใจจากไปไม่มีวันกลับ ด้วยวัย 58 ปี ทิ้งลูกบุญธรรมวัย 13 ปี และภรรยาคนที่ 2 ที่ยังไม่มีงานทำให้สู้ชีวิตต่อ ขณะที่รองประธานสภามวยโลก พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ กระโดดเข้าช่วย รับเป็นภาระจัดงานศพให้สมเกียรติ พร้อมขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ไอ้แสบ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ตำนานแชมป์โลกกำปั้นหนักของไทย ผู้สร้างสถิติชก 3 ครั้งได้แชมป์โลก จากโลกนี้ไปแล้ว เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่าน มา ด้วยวัย 58 ปี โดยนายแพทย์ธีระชัย อุกิจ มโนรส แห่งโรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยว่า แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ อดีตแชมป์โลกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต (140 ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) ชาวไทย ซึ่งมีชื่อจริงว่า นายบุญส่ง มั่นศรีเดินทางมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ตรวจพบว่ามีอาการตับแข็ง ลำไส้อุดตัน จนต้องทำการผ่าตัด และรอดูอาการที่ห้องไอซียู ห้องผู้ป่วยหนักศัลยกรรมทั่วไป ชั้น 3 อาคารสิรินธร

นพ.ธีระชัย กล่าวต่อว่า จากนั้นวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา แสนศักดิ์ อาการทรุดหนักลงอีก ความดันโลหิตต่ำ ต้องผ่าตัดอีกครั้ง เพื่อให้ขับถ่ายทางช่องท้อง จนอาการดีขึ้น แต่มาพบอีกว่ามีอาการติดเชื้อในโลหิต ต้องให้ยาปรับสภาพพยุงอาการ และตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา อาการทรุดลงจนไม่ได้สติ แพทย์ จึงตามตัวลูกสาวบุญธรรม ด.ญ.ปานวาด มั่นศรี วัย 13 ปี และภรรยา นางศศวรรณ ที่มาเฝ้าไข้ตลอด เข้ามาแจ้งให้ทราบว่า อาการของแสนศักดิ์ทรุดหนัก ไม่รู้สึกตัวแล้ว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขอให้ทำใจและคอยเฝ้าคนไข้อย่างใกล้ชิด จนในที่สุดอดีตแชมป์โลกชาวไทยก็เสียชีวิตไปในเวลาดังกล่าว

นอกจากนั้น นพ.ธีระชัย กล่าวว่า การเสียชีวิตครั้งนี้ เนื่องจากมีแผลฉีกขาดใน ลำไส้ ตับแข็ง และโลหิตติดเชื้อ ประกอบกับหัวใจล้มเหลว ซึ่งการที่มีแผลฉีกขาดในลำเพราะเกิดลำไส้อุดตัน ขับถ่ายไม่เป็นปกติมานานแล้ว แต่คนไข้ไม่เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง

ด้าน นางศศวรรณ ร่ำไห้ก่อนกล่าวด้วยน้ำตาว่า สามีมีภรรยาคนแรกคือ ปริม ประภาพร อดีตดาราชื่อดัง มีลูกด้วยกันชื่อนายเกรียงศักดิ์ ส่วนตนกับลูกสาวบุญธรรมไม่มีรายได้ใด ๆ ทุกวันนี้สามีได้รับเงินช่วยเหลือจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพียงอย่างเดียว เดือนละ 7,500 บาท และเดิมได้เงินช่วยจากสภามวยโลก (WBC) แต่ช่วงปีที่ผ่านมา ทราบว่าทาง WBC มีปัญหาทางการเงินเช่นกัน แต่ก็ยังได้รับการประสานงานช่วยเหลือจาก มร.เอ็ดเวิร์ต ตังคะราชา กรรมการบริหารของสภามวยโลก และ พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลก (WBC) และประธานสภามวยเอเชีย (ABCO) อยู่ตลอด โดยมีนายสุรพจน์ พงษ์จิวานิช ช่วยวิ่งประสานกับแพทย์ และกระจายข่าวให้สื่อได้ทราบ ตนอยากจะขอบคุณทุก ๆ คนที่ให้การช่วยเหลือสามีมาตลอด แต่ก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรได้ ถึงตอนนี้ต้องทำใจ

ขณะที่ พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ เปิดเผยว่า จะรับศพผู้ตายไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดตรีทศเทพ และทำพิธีรดน้ำศพ วันที่ 17 เม.ย. เวลา 17.00 น. สวดพระอภิธรรมศพ 3 วัน ที่ศาลา 3 ตั้งแต่วันที่ 17-19 เม.ย.นี้ และกำหนด ฌาปนกิจวันที่ 20 เม.ย.นี้ เวลา 19.00 น. ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้ ทางทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีได้พยายามช่วยเหลือสุดความสามารถแล้ว โดยตนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งการดำเนินพิธีการทางศาสนาให้กับผู้ตายให้สมเกียรติ ตามที่ภรรยาของเขาต้องการ พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือในการดำเนินชีวิตต่อไป ที่ผ่านมา แสนศักดิ์มีปัญหาก็มาขอความช่วยเหลือตนเองตลอด ส่วนมากจะเป็นเรื่องซ่อมแซมบ้านที่ดินแดง ส่วนสภามวยโลก (WBC) ได้ยกย่อง แสนศักดิ์ตลอดเวลาว่า เป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับ WBC ทั้งการเป็นนักชกที่มีหัวใจนักสู้ กำปั้นหนัก และทำสถิติโลกชก 3 ครั้งได้แชมป์โลก โดยเฉพาะ โฮเซ่ สุไลมาน ประธาน WBC ถึงกับยกเป็นนักชกขวัญใจ และสอบถามอาการด้วยความเป็นห่วงตลอด แเนื่องจาก แสนศักดิ์ เป็นนักชกที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ตนได้ทำเรื่องขอพระราชทานเพลิง ศพเป็นกรณีพิเศษให้แสนศักดิ์ด้วย พร้อมอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ แฟนกีฬา ไปร่วมพิธีศพของ แสนศักดิ์กันมาก ๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่นักชกเป็นครั้งสุดท้าย

สำหรับ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ เป็นชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2494 ได้ฉายา ซ้ายทลายโลก และ ซ้ายสีชมพู ซึ่งเจ้าตัวตั้งเอง เพื่อให้ดูน่ารัก ไม่โหดเหี้ยม เคยชกมวยไทย ชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยพลังกำปั้นซ้ายที่หนักหน่วง รวมทั้งชกมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 7 พ.ศ. 2516 ที่สิงคโปร์ สร้างประวัติ การณ์ชกสากลอาชีพ 3 ครั้ง ได้เป็นแชมป์โลกคนที่ 5 ของเมืองไทย ชนะน็อก เปริโก้ เฟอร์นันเดซ จากสเปน ยกที่ 8 ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อ 15 ก.ค. 2518 แต่ป้องกันแชมป์สมัยแรกไว้ได้ครั้งเดียว ด้วยการชนะคะแนน เท็ตสุโอะ ไลอ้อน ฟูรูยาม่า นักมวยชาวญี่ปุ่น จากนั้นไปเสียแชมป์แพ้ฟาวล์ยก 4 มิเกล เวลาสเควซ นักมวยสเปน ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน แต่อีก 4 เดือนต่อมา แก้มือที่ประเทศสเปน แสนศักดิ์ ชนะน็อกยกที่ 2 กลับมาเป็นแชมป์โลกในสมัยที่ 2 แล้วป้องกันตำแหน่งไว้ได้ยาวนานหลายไฟต์ เป็นไฟต์ความทรงจำที่ยังคงตรึงใจแฟนมวยอยู่จนทุกวันนี้ ก่อนเสียแชมป์โลกในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 8 แพ้น็อก คิม ซาง ฮัน นักมวยชาวเกาหลีใต้ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2521 ที่กรุงโซล.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook