"9 นักเตะในตำนาน" ที่แขวนสตั๊ดขณะอยู่บนจุดสูงสุดของวงการฟุตบอล

"9 นักเตะในตำนาน" ที่แขวนสตั๊ดขณะอยู่บนจุดสูงสุดของวงการฟุตบอล

"9 นักเตะในตำนาน" ที่แขวนสตั๊ดขณะอยู่บนจุดสูงสุดของวงการฟุตบอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักกีฬาฟุตบอลเป็นอาชีพที่มีจังหวะขึ้นลงเป็นวัฎจักร แม้หลายต่อหลายคนจะไม่สามารถก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จในระดับสูงได้แต่ก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่สามารถยืนระยะบนเวทีระดับโลกได้เป็นเวลานาน

นักเตะระดับตำนานบางส่วนยังมีโอกาสแขวนสตั๊ดทั้งที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพค้าแข้งได้สำเร็จ และต่อไปนี้คือ 9 นักเตะชื่อก้องที่บอกลาผืนหญ้าบนเวทีฟุตบอลระดับท็อป

เดวิด เบ็คแฮม

 process

ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนสุดท้ายของเส้นทางอาชีพค้าแข้งระยะเวลายาว 21 ปี เดวิด เบ็คแฮม คว้าแชมป์เอ็มแอลเอส คัพ กับ แอลเอ กาแล็กซี ประดับเกียรติยศในการลงเล่นที่สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะโยกไปปิดฉากกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยแชมป์ลีกเอิง ฤดูกาล 2012/13 ซึ่งเป็นแชมป์แรกของเปแอสเชในรอบ 19 ปี อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้ยังบริจาคค่าเหนื่อยตลอดระยะเวลาที่ลงเล่นให้กับปารีสฯ ให้กับองค์กรการกุศลสำหรับเด็กท้องถิ่นอีกด้วย ก่อนที่เบ็คแฮมจะทิ้งทวนเกมสุดท้ายด้วยการแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูเอาชนะคู่แข่งไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 และถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยน้ำตา

ชาบี อลอนโซ

 processs

มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัยอย่าง ชาบี อลอนโซ ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2017 ยุติเส้นทางค้าแข้งที่มีถ้วยรางวัลประดับตู้โชว์ถึง 17 โทรฟี เมื่อรวมผลงานทั้งในระดับสโมสรและในนามทีมชาติ เจ้าตัวช่วยเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ลา เดซิมา (ยูซีแอล สมัยที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร) ก่อนย้ายมาทิ้งทวนกับบาเยิร์น มิวนิต ด้วยถาดแชมป์บุนเดสลีกา อีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน

เดิร์ค เคาท์

 prodcess

​เดิร์ค เคาท์ ฮีโร่แห่งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ปิดฉากอาชีพค้าแข้งของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อย้อนรอยกลับไปร่วมงานกับอดีตสโมสรที่ตัวเองสร้างชื่อขึ้นมาอย่าง เฟเยนูร์ด พาทีมเถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์เคเอ็นวีบี คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ตามด้วยการซิวแชมป์เอเรดิวิซี เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีของสโมสรในฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัว แถมด้วยการซัลโวแฮตทริคในเกมสุดท้ายพาทีมเอาชนะเฮราเติลส์ อัลเมโล 3-1

ปาทริค วิเอรา

 proacess

ปาทริค วิเอรา ลงเล่นนัดสุดท้ายของอาชีพค้าแข้งในเกมเอฟเอ คัพ 2011 นัดชิงชนะเลิศ ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และพาเรือใบสีฟ้าซิวเมเจอร์โทรฟีแรกในรอบ 35 ปีและเป็นการเริ่มต้นยุคสมัยครองความยิ่งใหญ่ของพลพรรคซิตีเซนส์ ในเวลาต่อมา แม้ว่ามิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสจะไม่ได้เป็นตัวเลือกหลักในพรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องในศึกเอฟเอ คัพ ให้กับทีมในซีซั่นดังกล่าว ซึ่งการซิวแชมป์ฟุตบอลถ้วยดังกล่าวนับเป็นสมัยที่ 4 ของวิเอราและเป็นโทรฟีในตู้โชว์ลำดับที่ 19 ของเขา

แอ็บบี้ วอมบัค

 procffess

ตำนานกองหน้าทีมชาติหญิงสหรัฐอเมริกา แอ็บบี้ วอมบัค ยุติเส้นทางค้าแข้งในระดับสโมสรในปี 2014 เพื่อที่จะโฟกัสกับการพาทัพมะกันลุยศึกฟุตบอลโลกหญิง 2015 ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายที่จะซิวถ้วยรางวัลระดับเมเจอร์มาครองหลังจากคว้าเหรียญทองในศึกโอลิมปิคได้ 2 สมัยมาก่อนหน้านี้พร้อมกับสถิติโลกยิงประตูสูงสุดในเกมระดับชาติและปิดฉากการไล่หวดลูกหนังด้วยการชูถ้วยแชมป์โลกด้วยชัยชนะ 5-2 เหนือญี่ปุ่น

ฟิลิปป์ ลาห์ม

 procekss

ตำนานของบาเยิร์น มิวนิค และทีมชาติเยอรมนี แขวนสตั๊ดด้วยวัย 33 ปีในฤดูกาล 2016/17 ให้หลังการลงเล่นนัดที่ 500 ให้กับเสือใต้เพียง 3 วัน โดยลาห์มจบซีซันด้วยการพาบาเยิร์นซิวถาดแชมป์บุนเดสลีกาเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน แถมยังเป็นการทิ้งห่างรองแชมป์ถึง 25 แต้ม ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยยังบอกลาทัพอินทรีเหล็กให้หลังเพียงแค่ 5 วันจากที่พาทีมคว้าแชมป์โลกมาครองได้

พอล สโคลส์

 processfs

​ตำนานแห่งสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง พอล สโคลส์ ได้ประกาศแขวนสตั๊ดถึง 2 รอบ ซึ่งทั้ง 2 ครั้งล้วนแต่เป็นการยุติเส้นทางค้าแข้งในฟุตบอลระดับสูงทั้งหมด มิดฟิลด์ชาวอังกฤษสร้างชื่อกับปีศาจแดง โดยเป็นหนึ่งในแข้งยุคเฟอร์กี้ เฟล็ดจ์ลิงส์ ราวปี 90 ซึ่งการแขวนสตั๊ดรอบแรกของสโคลส์เกิดขึ้นในซัมเมอร์ 2011 เมื่อพาพลพรรคเร้ดเดวิลส์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 19 ทำสถิติเหนือลิเวอร์พูลสำเร็จ ทว่าหลังจากนั้นเพียง 6 เดือน เจ้าตัวก็กลับมาสวมสตั๊ดหวดลูกหนังอีกครั้งเพื่อช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 20 ในซีซัน 2012/13

เอริค คันโตนา

prfssfocess 

​เอริค คันโตนา เป็นนักเตะอันเป็นที่รักของแฟนบอลแมนสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถึงทุกวันนี้ หลังจากเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญพาปีศาจแดงครองความสำเร็จในทศวรรษที่ 90 รวมทั้งยังเป็นแข้งที่มีเอกลักษณ์และบุคลิกที่น่าจดจำ เจ้าตัวตัดสินใจแขวนสตั๊ดอย่างกะทันหันในปี 1997 เมื่อมีอายุได้เพียง 30 ปีเท่านั้นหลังจากซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุดในเวลาดังกล่าว

โยฮัน ครัฟฟ์

 procesaffaafafs

ฤดูกาลสุดท้ายของ โยฮัน ครัฟฟ์ ในฐานะนักเตะ เจ้าตัวเลือกที่จะปิดฉากด้วยการค้าแข้งกับเฟเยนูร์ด อริตัวฉกาจของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในปี 1983 ซึ่งเป็นสโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ยังเป็นนักเตะเยาวชนแต่พวกเขาไม่ได้ยื่นต่อสัญญากับครัฟฟ์ในวัย 36 ปี หลังเจ้าตัวพาทีมซิวแชมป์ลีกสูงสุด 4 สมัยจาก 5 ฤดูกาลหลัง แต่แข้งเจ้าของฉายา นักเตะเทวดา ยังสามารถพิสูจน์ได้กับเฟเยนูร์ด กับสถิติ 11 ประตูและพาพวกเขาคว้าแชมป์เอเรดิวิซีสำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในรอบทศวรรษอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook