ท่าดีใจของ "อังเคล ดิ มาเรีย?"

ท่าดีใจของ "อังเคล ดิ มาเรีย?"

ท่าดีใจของ "อังเคล ดิ มาเรีย?"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ปีกนางฟ้า" อังเคล ดิ มาเรีย ซัดประตูเปิดซิง ให้กับพลพรรค "เร้ด อาร์มี่" ได้เรียบร้อยแล้ว พร้อมแสดงท่าดีใจอันเป็นเอกลักษณ์ นำมือมาประกบกันเป็นรูปหัวใจ แต่ทราบหรือไม่ ท่าดีใจนี้อาจทำให้เขา โดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หรืออาจจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็เป็นได้ เพราะอะไร ไปดู...

 

สี่-ศูนย์ พูลสวัสดิ์!!

ในที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดี 20 สมัย ก็สามารถเก็บชัยชนะเป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังปิด รีสอร์ท แอนด์ สปา (ชั่วคราวหรือถาวร อันนี้ไม่ทราบ) เปิดโรงละครแห่งความฝัน ขย้ำ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ไปเละเทะ 4-0 ประตู คืนความสุขให้สาวก "ปีศาจแดง" ได้สำเร็จ พร้อมกับทำคะแนนขึ้นมาจี้ ลิเวอร์พูล ห่างเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น เพราะ "หงส์แดง" ดั๊นนนพลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า ไป 1-0 ประตู ทำให้มุกดูตารางคะแนนใน "IPHONE 6" ที่บรรดาสาวก "เดอะค้อป" อุตส่าห์ทำขึ้นมาล้อแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นต้องพับเก็บเข้ากรุไปอย่างไว 5555555

เพิ่งแซวได้วันสองวันเอง มุขนี้ก็แป๊กซะละ!!

เอาละ แซวเล่นขำๆ กันพอเป็นพิธี มาเข้าเรื่องของเราในวันนี้ดีกว่า จากชัยชนะอันสวยสดงดงาม 4-0 ข้างต้น ผมคงไม่ขอพูดถึงรูปเกม แผนการเล่น หรือวิเคราะห์อะไรต่างๆ เพราะเชื่อว่าจะต้องมีบรรดาพี่ๆ นักเขียนท่านอื่นๆ พูดถึงเป็นแน่แท้ แต่สิ่งที่ผมให้ความสนใจก็คือผู้เบิกสกอร์แรกให้กับทัพ "ปีศาจแดง" ในเกมนัดนี้ก็คือดาวเตะเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดในเกาะอังกฤษ อย่าง อังเคล ดิมาเรีย นั่นเอง หลังจากที่ "หนู คลองเตย" เอ้ย ดิ มาเรีย ซัดฟรีคิกเข้าไป เจ้าตัวก็ได้แสดงท่าดีใจซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ก็คือการยกมือขึ้นมาประกบกันเป็นรูปหัวใจ

เปลี่ยนทีมก็จริง แต่ยังคงเอกลักษณ์การดีใจเฉพาะตัวไว้เหมือนเดิม

คุ้นๆ ใช่มั้ยครับว่าท่าดีใจนี้ เหมือนกับของใคร? ท่านผู้อ่านลองคิดดูครับ. .. . ติ๊กต๊อกๆๆๆๆ โอเคคคค ได้เวลา ฉลุย เอ้ย ฉลอง เอ้ย ฉลาด เอ้ย ฉลาม เอ้ย เฉลย เอ้ย ถูกแล้ว!!! (เดี๋ยวๆๆ นะ มรึงจะเล่นมุขเพื่อ?!) เอาๆๆ กลับเข้าเรื่องๆ เฉลยครับ เขาคนนั้นก็คือ นักเตะเจ้าของค่าตัวแพงที่สุดในโลกอย่าง "พญาวานร" แกเร็ธ เบล . .. ใช่ละครับ ทั้ง 2 คนมีท่าดีใจเหมือนกัน ท่านผู้อ่าน อ่านมาถึงตรงนี้คงกำลังมีความคิดในหัวอยู่ใช่มั้ยครับว่า "แล้วยังไงวะ?"
 
ใช่ครับ ผมก็คิดเหมือนกันว่า แล้วยังไง มันมีอะไรน่าสนใจตรงไหนวะ? แต่ทว่า ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเช็กข่าวสารฟุตบอล พร้อมกับคิดสกู๊ปที่จะต้องเขียนในวันนี้ ผมก็บังเอิญไปเจอกับคอลัมม์นึงในเว็บไซต์ "เดลี่ เมล" สื่อชื่อดังของแดนผู้ดี เขาได้ตั้งคำถามขึ้นมาว่า ท่าดีใจที่เหมือนกันของทั้ง 2 คนนี้ ใครเป็นคนเริ่มทำก่อนกัน? . .. ฮั่นแน่ เริ่มน่าสนใจขึ้นมาหรือยังฮะ? ถ้ายัง ผมก็ไม่รู้จะทำไงละครับ 5555 แต่ถ้าน่าสนใจ และอยากรู้ว่าใครเริ่มทำก่อน ตามอ่านต่อไปได้เลยครับ
 
ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อน อาจจะเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะหาคำตอบ แต่ท่าดีใจรูปหัวใจใครทำก่อน อันนี้ไม่ยากครับ เพราะ "เดลี่ เมล" ได้สืบค้นประวัติ หาหลักฐาน และให้คำตอบมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

เป๊ะๆ เซมๆ อย่างกับแกะ

ก่อนที่จะไปสืบค้นกันว่า ใครทำท่านี้ก่อนกัน คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า แกเร็ธ เบล ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (ลิขสิทธิ์) ท่าดีใจรูปหัวใจของตัวเองด้วย ในปี 2013 ซึ่งนั่นหมายความว่า หากใครทำท่าดีใจนี้ ปีกชาวเวลส์ สามารถที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีได้เลย. . .

อย่างไรก็ตาม ดิ มาเรีย ก็ใช้ท่านี้ฉลองเกือบทุกครั้งเวลาทำประตูได้ แต่โปรดอย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ ทั้ง 2 คนต่างก็ค้าแข้งอยู่กับ เรอัล มาดริด เหมือนกัน ซึ่งอาจจะมีการคุยกันไว้ก่อนแล้วหรือไม่ อันนี้เราไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือ เบล ไม่เคยฟ้องร้องหรือโวยวายที่ ปีกป้ายแดงของยูไนเต็ด ใช้ท่าดีใจนี้ในสมัยที่ยังเล่นให้กับ "ราชันชุดขาว" ทว่าเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไป ดิ มาเรีย ได้กลายพันธ์จากการสวมชุดขาว ไปโลดแล่นในสีเสื้ออสูรแดงแทน และก็ยังใช้ท่าดีใจเดิมอยู่ ฉะนั้นเราต้องมาคอยดูกันว่า ต่อจากนี้ไป "ปีกหน้าวานร" จะส่งสัญญาณไปเตือน "ปีกหน้าหนู (คลองเตย)" ให้เลิกใช้ท่าฉลองชัยดังกล่าวหรือไม่

เบล ใช้ท่านี้มาตั้งแต่สมัยยังใส่เบอร์ 3 ในทัพ "ไก่เดือยทอง"

เอาละ ซดน้ำมาเยอะละ มากินลูกชิ้นกันดีกว่า ตามรายงานของ "เดลี่ เมล" ระบุว่า อังเคล ดิ มาเรีย คือผู้ที่เริ่มใช้ท่าดีใจนี้ก่อนครับ โดยใช้ครั้งแรก เมื่อเดือนกันยายน ปี 2009 ในสมัยที่เจ้าตัว ยังค้าแข้งอยู่กับสโมสร เบนฟิก้า ทีมดังในลีกโปรตุเกส เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขานั้นหลงรักกีฬาฟุตบอลขนาดไหน ส่วน แกเร็ธ เบล เริ่มใช้ครั้งแรกในปี 2010 สมัยยังเล่นอยู่ในอังกฤษกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ . .. จบปึ้ง!!

ดิ มาเรีย กับการฉลองประตูด้วยท่าหัวใจ ครั้งแรกสมัยเล่นให้กับ "เหยี่ยวลิสบอน"

สรุปก็คือ ดาวเตะเบอร์ 7 แห่งถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด คือผู้ริเริ่มท่าฉลองประตูรูปหัวใจ ก่อนเจ้าของลิขสิทธิ์อย่าง แกเร็ธ เบล เสียอีก! เอาเถอะ ใครใช้ก่อนใช้หลัง ช่างมัน ใครจดลิขสิทธิ์ใครไม่จด ก็ช่างมัน ยังไงซะก็หวังว่าทั้ง 2 คน คงจะไม่ทะเลาะกัน หรือมีคดีฟ้องร้อง เพราะเรื่องแค่นี้ละกันนะครับ

หวังว่าเพื่อนรักทั้ง 2 คงจะไม่ทะเลาะกันเพราะเรื่องไร้สาระเรื่องแค่นี้นะ

สุดท้าย ผมในฐานะผู้ถวายวิญญาณให้ "ปีศาจแดง" ก็หวังว่าจะได้เห็น ท่าดีใจรูปหัวใจ ส่งความรักมุ้งมิ้งแบบนี้จาก ดิ มาเรีย อีกหลายๆ รอบ ในฤดูกาลนี้นะครับ เพราะมันเป็นการคืนความสุขให้โรงละครแห่งความฝันอย่างแท้จริง สาธุ!

ชิน ชินพัฒน์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook