10 สุดยอดปรากฏการณ์ "วงการกีฬาไทย" ตลอดระยะเวลา 21 ปี "สนุกดอทคอม"

10 สุดยอดปรากฏการณ์ "วงการกีฬาไทย" ตลอดระยะเวลา 21 ปี "สนุกดอทคอม"

10 สุดยอดปรากฏการณ์ "วงการกีฬาไทย" ตลอดระยะเวลา 21 ปี "สนุกดอทคอม"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 21 ปี ของเว็บไซต์ sanook.com มีข่าวกีฬามากมายเกิดขึ้น วันนี้ทีม Sanook Sport ได้รวบรวมเอาปรากฏการณ์แห่งวงการกีฬาไทย ที่สร้างความสุข ความเศร้าในบางข่าวคราว รวมไปถึงผลงานอันยอดเยี่ยมในเวทีโลกของนักกีฬาไทยมาฝากกัน ไปดูกันดีกว่าว่ามีปรากฏการณ์ใดบ้าง

x10
1. ภราดร ศรีชาพันธุ์ "ฟีเวอร์"    

นับตั้งแต่การประกาศแขวนแรกเก็ตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2010 ในรายการ "พีทีที ไทยแลนด์ โอเพน" ที่เมืองไทย วงการเทนนิสของไทยก็ดูซบเซาลงในทันที  

"เจ้าบอล" เจ้าของเงินรางวัลตลอดการเล่นเทนนิสอาชีพ 3,459,655 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 134,926,545 บาท กลายเป็นนักเทนนิสที่ยังหาใครมาแทนที่เขาไม่ได้เลย

ในช่วงเวลานั้นต้องบอกว่า "ซุปเปอร์บอล" คือนักเทนนิสไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นั่นจึงไม่แปลกอะไรเลย ที่ช่วงเวลาพีคๆ ของเขาเมื่อปี 2546 พ่อแม่ผู้ปกครอง ทยอยพาลูกหลาน หันเข้าหาคอร์ทเทนนิสเพื่อหวังใจจะให้ลูกหลานก้าวเดินตาม ภราดร นั่นเอง  

แน่นอนว่าเจ้าของแชมป์เอทีพีทัวร์ 5 รายการ ถูกจารึกชื่อว่าเป็นนักเทนนิสชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ก้าวขึ้นไปถึงมือวางอันดับที่ 9 ของโลก เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 จากการประกาศผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ของเอทีพีทัวร์  

นอกจากนี้ผลงานในนามทีมชาติของเขาก็ไม่ธรรมดา เมื่อคว้าได้ทั้ง เหรียญทอง ชายเดี่ยว ซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่อินโดนีเซีย, 3 เหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่บรูไน, เหรียญทอง ชายคู่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย, เหรียญทอง ชายเดี่ยว เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้

จากผลงานที่โดดเด่นสุดๆ ในช่วงนั้น ทำให้ ภราดร ได้รับเลือกจากคณะกรรมการสภาโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ให้ได้รับเกียรติเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการถือธงชาติในกีฬาโอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ในปี 2547

x7
2. สมจิตร จงจอหอ จากชายผู้ผิดหวังซ้ำซาก สู่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์แห่งความภาคภูมิ

วินาทีที่เขาหลั่งน้ำตา เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังเขาต้องยุติเส้นทางแห่งความฝันไว้ที่รอบ 8 คนสุดท้าย ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นที่กรุงเอเธนส์ เมื่อปี 2004 เชื่อว่าหลายคนยังพอจำได้

ภาพของเขาในรายการทีวี สะท้อนให้เห็นความท้อแท้ในห้วงเวลานั้น และไม่มีใครคาดคิดว่า ในอีก 4 ปีต่อมา ชายที่ชื่อ "สมจิตร จงจอหอ" จะกลับมาคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ ที่ปักกิ่ง แบบเหลือเชื่อ

พร้อมกันนี้ยังทำให้สมจิตร ถูกจารึกชื่อว่าเป็นนักมวยที่มีอายุมากที่สุดที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ด้วยวัย 33 ปี 7 เดือน


การคว้าเหรียญทองของ สมจิตร เป็นเครื่องหมายของความพยายาม ที่ชัดแจ้งที่สุด เขาแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำมันได้ และที่น่าชื่นใจมากกว่า คือตลอดการแข่งขันทุกไฟต์ สมจิตรโชว์ผลงานได้อย่างสุดติ่ง ที่สำคัญรอบชิงชนะเลิศ เขาสามารถเอาชนะนักมวยเต็งจ๋าอย่าง "อันดริส เฮอร์นานเดซ" นักชกชาวคิวบา แบบเหนือชั้น 8-2

และนี่คือคำพูดของเขาหลังลงมาจากเวที "ผมรอคอยวันนี้มานานมาก วันที่ผมได้เหรียญทองโอลิมปิกมาครอง ผมต้องใช้เวลารอคอยมานานถึง 12 ปี วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด"

นอกจากนี้หลายคนได้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้น พร้อมกับวลีฮิตว่า "ผมผ่านมาเยอะ ผมเจ็บมาเยอะ"

x1
3. "20 ปีแห่งการรอคอย" กับยอดมวยระดับโลกของจริง ที่ชื่อ "ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น"  

หลังจากการแขวนนวมของอดีตแชมป์โลกอย่าง เขาทราย แกแล็คซี่, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, เมืองชัย กิตติเกษม, พงษ์ศักดิ์เล็ก ศิษย์คนองศักดิ์, วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น ต้องยอมรับในความเป็นจริงว่าเราห่างหายจากคำว่าแชมป์โลก ที่เป็นที่ยอมรับจริงๆ จากคนทั่วโลก

ในระยะสามปีมานี้ชื่อของ "ไอ้แหลม" ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ได้โด่งดังเป็นพลุแตก

ปัจจุบันเจ้าแหลมเป็นอดีตแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท สองสมัย โดยไฟต์ล่าสุดนักชกขวัญใจชาวไทย พ่ายคะแนนให้กับ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า แต่เจ้าแหลมยังถือว่าเป็นนักมวยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด เมื่อเทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์

ไฟต์ที่ได้ใจ และสร้างชื่อกระหึ่มโลกคือการเอาชนะน็อก โรมัน กอนซาเลซ ยอดกำปั้นชาวนิการากัว ลงไปนอนแน่นิ่งในยกที่ 4 ใน "ศึกซูเปอร์ฟลาย" ที่สังเวียนสตับฮับ เซ็นเตอร์ คาร์สันซิตี้ แคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนกันยายนปี 2017

โดย "หมัดฮุคขวา" ของ "เจ้าแหลม" ในไฟต์ดังกล่าวยังถูก ESPN ยกให้เป็น "น็อกเอาต์แห่งปี 2017"

ส่วนชีวิตรักที่ยุ่งเหยิง วิ่งเข้าหาเขาแบบไร้ทางเลี่ยง แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ผ่านมันมาได้ และแน่นอนว่าในเวลานี้ เขาตั้งหน้าตั้งตาที่จะทวงคืนเข็มขัดกลับมาให้ได้ เวลาอันใกล้นี้ เราจะได้รู้กันว่าเขาจะกลับมาเป็นแชมป์โลกสมัยที่สามได้หรือไม่

x9
4. รัชนก อินทนนท์ แชมป์โลกอายุน้อยสุดของโลก

"เมย์" รัชนก อินทนนท์ เดินทางเข้าสู่เส้นทางสายนี้ด้วยจุดเริ่มต้นที่ไม่ได้มีต้นทุนสูงในชีวิต โอกาสและการได้ฝึกปรือทักษะในเชิงลูกขนไก่ ล้วนมาจากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด อย่างแท้จริง

ความมีต้นทุนชีวิตที่ต่ำกว่าคนอื่น คือพลังชั้นยอดที่หนุนส่งให้ชื่อของ "รัชนก อินทนนท์" ดังกระหึ่มไปทั่วโลก

แชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน (2009, 2010 และ 2011) คือใบเบิกทางสู่การก้าวมาเป็นนักกีฬาอาชีพแบบเต็มภาคภูมิ และแน่นอนไม่มีคำว่าฟลุคสำหรับความสำเร็จที่เธอได้รับ

ในปี 2013 น้องเมย์พุ่งขึ้นสู่จุดสุดยอดของการเป็นนักแบดมินตัน เมื่อสามารถพลิกทุกปากกาเซียน ด้วยการล้มมือ 1 ของโลกในเวลานั้นอย่าง ลี เสี่ยว เร่ย 2-1 เกม คว้าแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ พร้อมกับสถิติที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในเวลานั้น

ในปี 2016 รัชนก สร้างสถิติเป็นนักแบดมินตันคนแรกของโลก ที่สามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์ซีรีส์ สามรายการติดต่อกันใน 3 สัปดาห์ ที่ประเทศอินเดีย, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ทำให้น้องเมย์ผงาดขึ้นเป็นนักแบดมินตันหญิงเดี่ยว มือ 1 ของโลก

ปัจจุบันรัชนก อยู่อันดับ 5 ของโลก ลงแข่งขันทั้งหมด 377 แมตช์ ชนะ 167 ครั้ง เก็บเงินรางวัลสะสมได้ 823,272.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 32 ล้านบาท

x2
5. พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหัว เทควันโดสาวที่โลกต้องตะลึง

ชื่อ เทนนิส แต่เก่ง เทควันโด! นี่คือนิยามสั้นเกี่ยวกับ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโด หมายเลขหนึ่งของโลกในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. 

พาณิภัค เริ่มเล่นกีฬาเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ปี  ได้รับการฝึกสอนจากโค้ชคนแรก คือ นายทรงศักดิ์ ทิพย์นาง ที่ยิมตาปีเทควันโด จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าสู่การเป็นนักกีฬาเทควันโดเยาวชนทีมชาติในปี 2554 ขณะมีอายุเพียง 13 ปี จากการเข้าร่วมการแข่งขัน "กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27" ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด รุ่นไม่เกิน 42 กก.หญิง  

จากนั้น ด้วยหน่วยก้านดี ทำให้ ชเว ยองซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโดชาวเกาหลีใต้ เรียกตัวเข้ามาฝึกซ้อมและคัดเลือกเป็นนักกีฬาเทควันโดตัวแทนทีมชาติไทย เธอได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ชายในการเล่นกีฬาเทควันโด มีนักกีฬาเทควันโดในดวงใจ คือ เยาวภา บุรพลชัย และมีนักกีฬารุ่นพี่ คือ ชนาธิป ซ้อนขำ เป็นแบบอย่างในการฝึกซ้อม ทำให้เธอใช้เวลาไม่นานก็ประสบความสำเร็จ

ผลงานการคว้ามาทุกแชมป์บนโลกใบนี้ของน้องเทนนิส  การันตีความยอดเยี่ยมด้วยการยึดเบอร์หนึ่งของโลกในรุ่นนี้ และที่สำคัญในการให้คะแนนแบบใหม่ ที่การเตะที่ศีรษะได้คะแนนเยอะที่สุด ทำให้ลูกเตะศีรษะของเธอคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด

จากนี้ไปสิ่งเดียวที่แฟนกีฬาชาวไทยรอลุ้นและหวังว่า เทนนิส จะเดินทางไปถึงมัน นั่นคือ การก้าวไปคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เธอยังขาดมัน!!!

x8
6. วิชัย ศรีวัฒนประภา การจากไปที่โลกไม่มีวันลืม

หลังจากข่าวสุดช็อกของการลาโลกจากอุบัติเหตุทางเฮลิคอปเตอร์ของ "วิชัย ศรีวัฒนประภา" เจ้าของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ชาวไทย เมื่อกลางดึกของวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม ปี 2018 

โลกไม่ได้พูดถึง "วิชัย ศรีวัฒนประภา" ในฐานะมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่มีทรัพย์สินนับแสนล้าน แต่โลกยกย่องเขาจากคุณงามความดี และสิ่งที่เขาได้ทำตลอดช่วงหนึ่งลมหายใจ

การจากไปของเขา นับเป็นการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญของไทย รวมถึงโลกฟุตบอล ผู้ที่จุดประกายความหวัง แรงบันดาลใจ และมอบโอกาสให้แก่ผู้คนมากมาย ที่อยู่รายรอบอาณาจักรที่ชายไทยวัย 60 ปี สร้างไว้เมื่อครั้งยังมีลมหายใจ

โลกแทบไม่เคยพูดถึงว่า วิชัย ศรีวัฒนประภา ร่ำรวยขนาดไหน มีทรัพย์สินจำนวนมากมายเท่าไหร่? แต่สิ่งที่เขาถูกเชิดชู ภายหลังจากสิ้นลมหายใจ กลับเป็นเรื่องราวความเป็นมนุษย์ของเขา ในการเป็น "ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่" และเขาจะเป็นต้นแบบที่ยอดเยี่ยมของการเป็นผู้ให้

x6
7. หลั่งน้ำตาทั้งคนวิ่งทั้งคนเชียร์! วิ่งผลัด 4 x 100 หญิง ผงาดคว้าทองแห่งประวัติศาสตร์  ในเอเชียนเกมส์ 2010

ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่เมืองกวางโจ ประเทศจีน เมื่อปี 2010 ทีมวิ่งผลัด 4 x 100 เมตรหญิงของไทยที่ประกอบไปด้วย ภัสสร จักษุนิลกร, ณีรนุช กล่อมดี, ลภัสกร ถาวรเจริญ และ นงนุช แสนราช ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าเหรียญทองมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

โดยเฉพาะไม้สุดท้ายที่ นงนุช แสนราช เร่งสปีดในช่วง 30 เมตรสุดท้าย แซงสาวจีนเจ้าภาพเข้าวินไปแบบลุ้นหัวใจแทบวาย

เชื่อว่าการแข่งขันวิ่งผลัด 4x100 เมตรหญิงของไทย ในครั้งนี้ จะถูกแฟนกีฬาชาวไทยจดจำไปอีกนานแสนนานแน่นอน
 
x4

8. บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นชั้นยอดตำนานมวยไทย ที่เกรียงไกรในเวทีระดับโลก

ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย เจ้าของฉายา "ดำดอทคอม" ปัจจุบัน อายุ 37 ปี แต่เขายังคงเดินสายต่อยมวยในประเทศและต่างแดน สร้างความสุขให้กับแฟนหมัดมวยชาวไทยเหมือนเดิม เรียกว่ากระแสไม่มีตกจริงๆ

โดยตลอดหลาย 10 ปี ชื่อเสียงของเขาจากการลงแข่งขันมวย K-1 ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งไฟต์ที่เขาแข่งขันในประเทศไทย ต่างเป็นที่สนใจของแฟนหมัดมวยชาวไทยและชาวโลก

การใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท รวมทั้งการดำเนินชีวิต ในด้านของการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับมวย ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวเขามาตลอดชีวิต คือสิ่งที่กำลังผลิดอกออกผล

ค่ายมวยของเขาอย่าง "บัวขาว วิลเลจ" (Buakaw Village) ที่ จ.เชียงใหม่ คือสิ่งที่บ่งบอกว่า เขาเตรียมรับมือกับชีวิตหลังแขวนนวมอย่างจริงจัง

นอกจากความสนุกสนานตามสไตล์บ้านๆ แบบพอเพียง อีกสิ่งที่สำคัญคือความเป็นกันเองกับบรรดาแฟนๆ ทำให้ชื่อของ "บัวขาว บัญชาเมฆ" อยู่ในวงการมวยมาอย่างยาวนาน

x3

9. เอรียา จุฑานุกาล ความสำเร็จสูงสุดกับการขึ้นเป็นนักกอล์ฟสาวมือ 1 โลก  

"โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล เดินทางจากความมุมานะ ที่มีครอบครัวคอยเคียงข้าง พวกเขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเจอกับอุปสรรคมาอย่างมากมาย

เธอคนนี้ถูกจารึกชื่อว่าเป็นนักกอล์ฟหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของโลก ที่กวาดทุกรางวัลใหญ่ของ แอลพีจีเอ ทัวร์ ในรอบปีเดียวกัน ขณะที่ครองมือ 1 ของโลก

ไล่ตั้งแต่การคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี โรเล็กซ์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะเยียร์, รางวัลผลงานดีที่สุดในรายการระดับเมเจอร์ โรเล็กซ์ แอนนิกา เมเจอร์ อวอร์ด, นักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุด และโบนัส 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ ในฐานะนักกอล์ฟที่จบอันดับท็อป 10 มากที่สุดตลอดปี 2018  

ปัจจุบันแม้โปรเม จะฟอร์มแผ่วไปบ้าง แต่เธอก็คว้าเงินรางวัลตลอดการเล่นอาชีพไปทั้งสิ้น  8,388,085 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 327,135,315 ล้านบาท โดยเงินจำนวนนี้ ไม่นับรวมโบนัสต่างๆ และค่าสปอนเซอร์มากมายอีกด้วย

x5
10. ชนาธิป สรงกระสินธ์ ฮอตทั้งในและนอกสนาม

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทย ที่เดินทางย้ายไปค้าแข้งกับ "เจ้านกฮูก" ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร สโมสรในศึกเจลีก ญี่ปุ่น สร้างผลงานได้อย่างเลิศหรูอลังการ

ผลงานที่สุดยอดของเขาตลอดการเดินทางไปค้าแข้งที่แดนอาทิตย์อุทัย ทำให้เขารับการคัดเลือกให้ติดทีม 11 นักเตะยอดเยี่ยมเจลีก ประจำฤดูกาล 2018

มิดฟิลด์ร่างเล็กทีมชาติไทย วัย 26 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ทำผลงานยิง 8 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 30 นัด พร้อมทั้งพา คอนซาโดเล ซัปโปโร ต้นสังกัดจบอันดับที่ 4 ของตารางฤดูกาล 2018 คือเรื่องราวที่การันตีว่า เจ้าเจ มีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่น

จากการได้รับเลือกจากคณะกรรมการผู้ตัดสินให้ติดทีมในครั้งนี้ทำให้ ชนาธิป กลายเป็นผู้เล่นชาวไทย และชาวอาเซียนรายแรกในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมลีกสูงสุดแดนปลาดิบ นับตั้งแต่มีการประกาศรางวัลเมื่อปี 1993

นอกจากนี้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการประกาศรางวัล "FA THAILAND Awards 2018" ที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติแต่ละสาขาให้กับนักกีฬาฟุตบอล, ฟุตซอล, ฟุตบอลชายหาด รวมไปถึงบุคลากรและสโมสรดีเด่นในรอบปี 2018 เรียกได้ว่า "เจ้าเจ" คือปรากฏการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 20 ปี ก็ว่าได้

ในเรื่องราวนอกสนามเจ้าเจก็ฮอตไม่แพ้กัน เขาเคยคบหาดูใจกับดาราสาวสุดเซ็กซี่อย่าง เมย์ พิชญ์นาฏ ก่อนจะแยกทางกันในที่สุด เรียกได้ว่า เจ ชนาธิป ฮอตทั้งในและนอกสนามจริงๆ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook