จับตาไว้ให้ดี! บุนเดสลีกาซีซั่นนี้สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์!

จับตาไว้ให้ดี! บุนเดสลีกาซีซั่นนี้สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์!

จับตาไว้ให้ดี! บุนเดสลีกาซีซั่นนี้สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผ่านไปแล้ว 7 เกมสำหรับศึกบุนเดสลีกาเยอรมันฤดูกาล 2019/20 “แชมป์เก่า” บาเยิร์น มิวนิค ที่ต้องการรักษาบัลลังก์แชมป์ไว้ให้ได้อีกสมัยกลับต้องเจองานหินเข้าเสียแล้ว เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงเหมือนที่ตั้งใจไว้ แถมยังมีทีมมาร่วมเอี่ยวขอท้าชิงแชมป์อยู่ในกลุ่มหัวตารางเต็มไปหมด นับได้ว่าสถานการณ์บนหัวตารางบุนเดสลีกา ณ ตอนนี้จึงคู่คี่ที่สุดในบรรดาลีกท็อป 5 ของยุโรปเลยทีเดียว

หลังจากผ่านโค้งแรกแห่งฤดูกาลใหม่ไปอย่างสุดมันส์ เราก็มีเวลาได้ทบทวนผลงานในลีกของแต่ละทีมในช่วงเบรกทีมชาติ และดูจากตารางคะแนนตอนนี้อาจพูดได้ว่าการแย่งชิงแชมป์จะเข้มข้นขึ้นกว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งบาเยิร์นเฉือนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ซิวแชมป์ไปครองด้วยผลต่างคะแนนเพียง 2 แต้มเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีมันก็เป็นเพียงการห้ำหั่นระหว่างทีมคู่ปรับเพียงสองทีม รองลงมาจึงเป็นการต่อสู้แย่งชิงตั๋วฟุตบอลยุโรปเท่านั้น

20190803_schueler_dfl_super

มาถึงในฤดูกาลล่าสุด การแข่งขันยังเป็นไปอย่างดุเดือด แต่ทว่าถึงตอนนี้ยังไม่มีทีมไหนที่ทำคะแนนได้เปรียบคู่แข่งอย่างชัดเจน โดยที่จ่าฝูงโบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค กับอันดับที่ 12 ฮอฟเฟนไฮม์ มีคะแนนต่างกันเพียง 8 แต้มเท่านั้น เทียบกับพรีเมียร์ลีก อังกฤษที่จ่าฝูงทำคะแนนนำรองจ่าฝูงด้วยผลต่างคะแนนเท่ากันนี่แหละ

ส่วนในลาลีกา สเปน เป็นสามทีมยักษ์ใหญ่เจ้าเก่ารั้งหัวตารางกันอยู่ ได้แก่ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และแอตเลติโก มาดริด โดยที่ทีม “ราชันชุดขาว” ทำแต้มนำบาร์ซ่าอยู่สองคะแนน เทียบกับในบุนเดสลีกาแล้ว สองคะแนนก็คือผลต่างระหว่างจ่าฝูงกับอันดับที่ 7 นู่นเลย

imago42456337h

นอกจากนี้สามทีมยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกาข้างต้นยังผูกขาดบัลลังก์แชมป์ลีกมาเกือบตลอด นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 จนถึงปัจจุบัน มีเพียงบาเลนเซียที่สามารถสอดแทรกขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกสเปนได้สำเร็จ เทียบกับบุนเดสลีกาในช่วงเวลาเดียวกันแล้ว เราได้เห็นทั้งดอร์ทมุนด์, โวล์ฟสบวร์ก, ชตุทท์การ์ท และแวร์เดอร์ เบรเมน ที่สับเปลี่ยนกันขึ้นมาชูถาดแชมป์บุนเดสลีกานอกเหนือจากทีมเจ้าของสถิติแชมป์ลีกอย่างบาเยิร์น

ณ วินาทีนี้โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค ได้ขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงบุนเดสลีกาเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2011 ตามด้วยโวล์ฟสบวร์กที่รั้งรองฝูงด้วยผลงานยอดเยี่ยมที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสร ยังไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้

egrpevpxuaanr9h

ทางด้านเวทีเซเรีย อา อิตาลี และลีกเอิง ฝรั่งเศส นาทีนี้คงยากที่จะมีทีมไหนมาต้านทานความแข็งแกร่งของยูเวนตุส และปารีส แซงต์-แชกแม็งได้ ส่วนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ “เยือร์เก้น คล็อปป์” อดีตเฮ้ดโค้ชดอร์ทมุนด์ เริ่มส่งสัญญาณแล้วว่าพวกเขาจะสามารถขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์แชมป์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ในซีซั่นนี้ เมื่อเริ่มทำแต้มทิ้งทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตกุนซือบาเยิร์นไปไกลในโค้งแรกของฤดูกาล 2019/20

กลับมาที่บุนเดสลีกา สิ่งที่เราพอสรุปได้จากผลงานของแต่ละทีมในตอนนี้ก็คือ ไม่ว่าทีมไหน หากเล่นได้ท็อปฟอร์มเข้าก็เอาชนะได้หมดทุกทีม ไม่มีใครการันตีได้เลยว่าทีมแชมป์หรือรองแชมป์เก่าจะไม่มีทางพ่ายให้กับทีมที่อ่อนชั้นกว่า ก็อย่างว่า จะบาเยิร์นหรือดอร์ทมุนด์ก็พลาดท่ามาแล้ว โดยแชมป์เก่านั้นเพิ่งแพ้คาบ้านให้กับฮอฟเฟนไฮม์ไปแบบสุดช็อคในเกมล่าสุด ส่วนดอร์ทมุนด์ก็เสียท่าให้กับทีมน้องใหม่ที่เพิ่งได้ลงเล่นในบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เกมลีกนัดที่ 3 เหลือแค่โวล์ฟสบวร์กทีมเดียวนี่แหละที่ยังไร้พ่าย ผิดคาดไหมล่ะ...

edurikpuyaaelhg

และความคาดเดาอะไรไม่ได้นี่แหละ ที่ทำให้การแข่งขันบุนเดสลีกา เยอรมันฤดูกาลนี้กลายเป็นฤดูกาลที่สูสีคู่คี่และน่าติดตามที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เดากันแทบไม่ถูกเลยว่าทีมไหนจะเข้าเส้นชัยในเดือนพฤษภาคมปี 2020 นี้

บาเยิร์นจะสามารถฝ่าฟันคู่แข่งแย่งแชมป์ที่มากขึ้น เพื่อครองบัลลังก์แชมป์ลีกติดต่อกันเป็นสมัยที่ 8 ได้หรือไม่? หรือเราจะได้เห็นแชมป์หน้าใหม่หลังจบแมตช์เดย์ที่ 34? หรือกลัดบัคจะเป็นม้ามืดพุ่งแรงแซงขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลแรกของมาร์โค โรเซ่อ? หรือดอร์ทมุนด์จะแก้ตัวจากความเจ็บช้ำที่พลาดแชมป์ในซีซั่นก่อนไปอย่างฉิวเฉียด? หรือจะเป็นคราวของทีมที่ฉายแววรุ่งโรจน์มาสักพักอย่างแอร์เบ ไลป์ซิก ที่เบียดเข้าป้ายได้ในท้ายที่สุด? อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น...

imago42570999h

แฟนบอลบุนเดสลีกาเตรียมรัดเข็มขัดที่นั่งให้ดี เพราะซีซั่นนี้การต่อสู้แย่งชิงแชมป์กำลังจะหฤหรรษ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา....

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook