5 เรื่องน่ารู้ของ "ฮันซี ฟลิค" โค้ชใหญ่เสือใต้คนล่าสุด

5 เรื่องน่ารู้ของ "ฮันซี ฟลิค" โค้ชใหญ่เสือใต้คนล่าสุด

5 เรื่องน่ารู้ของ "ฮันซี ฟลิค" โค้ชใหญ่เสือใต้คนล่าสุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชายผู้นี้คืออดีตมิดฟิลด์ทีมบาเยิร์น มิวนิค ที่เคยรับบทผู้ช่วยโยอาคิม เลิฟ พาทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2014 มาแล้ว แต่ยังมีอีกหลายเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชายคนนี้ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือขัดตาทัพของสโมสรบาเยิร์น หลังจากที่นิโก โควัช ประกาศโบกมืออำลาสโมสรไปเพราะผลงานอันย่ำแย่ในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา

มาดูกันว่ากุนซือป้ายแดงวัย 54 กะรัตคนนี้เคยผ่านอะไรมาบ้าง ก่อนจะนำทีมเสือใต้ลุยศึก "แดร์ คลาสสิกเคอร์" กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในวันเสาร์นี้

gettyimages-71702478

1) เด็กเก่าบาเยิร์น

ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค เกิดที่เมืองไฮเดลแบร์กในปี 1965 เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมซันด์เฮาเซนในลีกล่างของเยอรมนีตั้งแต่ปี 1982 ถึง 1985 จากนั้นบาเยิร์น มิวนิค ก็เห็นแววของเจ้าหนูฟลิคในวัย 20 ปี จึงได้เซ็นสัญญาคว้าตัวมาเป็นนักเตะในสังกัด รวม 5 ปีลงสนามไปทั้งสิ้น 137 นัด คว้าแชมป์ลีกกับสโมสรไป 4 สมัย จากนั้นฟลิคย้ายไปร่วมทีมโคโลญจน์ แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บรุนแรง เขาจึงตัดสินใจแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 28 ปี

h

2) เลือกทำงานแบงค์แทนที่จะค้าแข้งกับม้าขาว

อีกเรื่องที่น่าประหลาดใจในเส้นทางอาชีพของฟลิคก็คือ เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 18 ปี เขาเลือกที่จะฝึกงานในธนาคารแห่งหนึ่ง ทั้งๆที่ได้รับข้อเสนอให้เข้าร่วมทีม เฟาเอฟเบ ชตุทท์การ์ท เขาปฏิเสธข้อเสนอนั้น และชตุทท์การ์ทกลายเป็นแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาล 1983/84!

"ผมต้องการฝึกงานที่ธนาคารให้จบ" ฟลิคให้สัมภาษณ์กับ Rund Magazine ในปี 2014 "แต่ชตุทท์การ์ทบอกว่าถ้าทำอย่างนั้น ผมจะต้องเล่นในทีมสำรองและผมไม่ต้องการแบบนั้น ผมแค่ต้องการความมั่นคง เพราะผมไม่รู้เลยว่าจะสามารถเล่นฟุตบอลได้นานเท่าไหร่"

csm_103273-flick_a5fcfc3893

3) ก้าวสู่เส้นทางโค้ช

ฟลิคคือชายผู้คิดเผื่ออนาคตเสมอและเริ่มต้นบนเส้นทางโค้ชในเวลาที่เหมาะสม เขาจบการอบรมใบอนุญาตโค้ชมืออาชีพในปี 2003 พร้อมได้คะแนนสูงสุดในชั้นร่วมกับโทมัส โดลล์ อดีตกุนซือทีมฮัมบวร์ก, ดอร์ทมุนด์ และ ฮันโนเวอร์

หลังจากฝึกปรือวิชากุนซือกับทีมสมัครเล่นอย่างบัมเมนทาลได้หลายปี เขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชทีมฮอฟเฟนไฮม์ ฟลิคมีส่วนช่วยให้สโมสรพัฒนาขึ้นอย่างมากตลอด 5 ปีที่เขาคุมทีมอยู่ โดยสามารถพาทีมเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 4 ขึ้นมาสู่ดิวิชั่น 3 ก่อนที่ราล์ฟ รังนิค จะเข้ามาพาฮอฟเฟนไฮม์เลื่อนขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกา 2 นอกจากนี้ฟลิคยังเคยเป็นลูกมือของจิโอวานนี ตราปัตโตนี ที่เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก่อนจะได้รับข้อเสนอที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปอีกครั้ง

imago17048657h

4) แชมป์ฟุตบอลโลก

ในวันที่ 23 สิงหาคม 2006 หนึ่งเดือนหลังจากโยอาคิม เลิฟ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกุนซือใหญ่ทีมชาติเยอรมนีต่อจากเยอร์เก้น คลินส์มันน์ ฟลิคก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยโค้ชของเลิฟ เรื่องบังเอิญก็คือ มาร์คุส เลิฟ น้องชายของโยอาคิมนั้นคือนักเตะที่ทีมซันด์เฮาเซนคว้าตัวไปร่วมทีมเพื่อแทนที่ฟลิคในปี 1985!

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเยอรมันที่ทั้งเฮดโค้ชและผู้ช่วยโค้ชต่างก็ไม่เคยลงเล่นในนามทีมชาติชุดใหญ่ทั้งคู่ (ฟลิคเลยลงเล่นแค่ 2 เกมในชุด U18) แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของทั้งสองในการนำทีมลุยศึกฟุตบอลระดับโลกเลยแม้แต่น้อย หลังจากต้องผิดหวังกับการไปไกลได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลยูโร 2008 และอันดับสามฟุตบอลโลกปี 2010 ในที่สุดเลิฟกับฟลิคก็สามารถร่วมกันนำทีมอินทรีเหล็กคว้าดาวดวงที่สี่มาประดับบนเสื้อทีมชาติได้สำเร็จในปี 2014 ที่ประเทศบราซิล

f

5) เกียรติยศแห่งบ้านเกิด

จากความสำเร็จนั้นเอง ฟลิคจึงได้รับสิทธิ์เป็นพลเมืองพิเศษของเมืองบัมเมนทาลในเดือนพฤศจิกายนปี 2015 ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ติดกับไฮเดลแบร์กที่เขาอาศัยอยู่และเปิดร้านขายอุปกรณ์กีฬาร่วมกับภรรยา เขาคือบุคคลที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลพิเศษนี้ ต่อมาฟลิคได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชทีมชาติและเข้ารับตำแหน่งสปอร์ตติ้ง ไดเร็คเตอร์ ของสมาพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (DFB) ในเดือนกันยายนปี 2014 และดำรงตำแหน่งมาจนถึงต้นปี 2017

มารอลุ้นกันต่อไปว่าฟลิคจะทำได้ดีแค่ไหนกับบทบาทใหม่ในรั้วทีมเสือใต้...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook