หนึ่งทศวรรษแห่ง "แดร์ คลาสสิกเคอร์" สงครามแห่งสองเสือเมืองเบียร์

หนึ่งทศวรรษแห่ง "แดร์ คลาสสิกเคอร์" สงครามแห่งสองเสือเมืองเบียร์

หนึ่งทศวรรษแห่ง "แดร์ คลาสสิกเคอร์" สงครามแห่งสองเสือเมืองเบียร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นเวลาครบสิบปีแล้วที่บุนเดสลีกาเป็นเวทีที่มีเพียง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค และ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ห้ำหั่นแย่งชิงแชมป์ลีกสูงสุดของเยอรมนีกันอยู่เพียงสองสโมสร เพราะนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมานอกจากสองเสือยักษ์ใหญ่ ก็ไม่มีสโมสรอื่นอีกเลยที่สามารถเบียดขึ้นมาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จ
 
ถือว่าคู่ปรับ “เสือใต้-เสือเหลือง” คือการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดคู่หนึ่งในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาจนกลายเป็นศึกที่เรียกกันว่า “แดร์ คลาสสิกเคอร์” ต้องยกเครดิตให้กับยอดกุนซืออย่างเยือร์เก้น คล็อปป์ ที่ยกระดับทีมดอร์ทมุนด์ให้ทะยานขึ้นมาทาบรัศมีทีมบาเยิร์นได้สำเร็จ แถมยังเป็นผู้วางรากฐานให้ดอร์ทมุนด์กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาจนถึงยุคปัจจุบัน
 
คล็อปป์คือผู้ปลุกปั้นให้โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้แจ้งเกิดในเวทีบุนเดสลีกาได้สำเร็จ รวมถึงชินจิ คากาวะ และ วูกัส ปิชต์แชก ที่ถือเป็นการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญของทีมในปี 2010 ซึ่งแม้จะพ่ายคาบ้านให้กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไป 0-2 ประตูในเกมเปิดฤดูกาล แต่พวกเขาสามารถกลับมาเอาชนะได้ 7 นัดรวด รวมถึงเอาชนะบาเยิร์นได้อีกด้วย
 

class
ชัยชนะของดอร์ทมุนด์เหนือบาเยิร์นภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟานกัลในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 ด้วยสกอร์ 3-1 คือจุดเริ่มต้นที่ปูทางให้ดอร์ทมุนด์ผงาดคว้าแชมป์แรกในรอบ 9 ฤดูกาลของพวกเขา แถมการคว้าแชมป์ครั้งนั้นยังสั่นสะเทือนไปถึงขั้วหัวใจของพลพรรคเสือใต้ เพราะนั่นคือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ถูกจารึกเอาไว้ว่าดอร์ทมุนด์สามารถก้าวขึ้นมาอยู่เหนือทีมเสือใต้ได้สำเร็จ
 
หนึ่งปีต่อมา เกมแดร์ คลาสสิกเคอร์กลายเป็นเกมชี้ชะตาแชมป์บุนเดสลีกาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อทั้งสองทีมต้องพบกันในแมตช์เดย์ที่ 30 ของฤดูกาล อาร์เยน ร็อบเบนมีโอกาสตีเสมอให้บาเยิร์นจากจุดโทษในช่วงท้ายเกม แต่ถูกปฏิเสธโดยโรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ เสียงคำรามจากแฟนเสือเหลืองกึกก้องไปทั้งสนามซิกนัล อิดูน่าพาร์ค เมื่อจบฤดูกาลดอร์ทมุนด์จึงได้ชูถาดแชมป์บุนเดสลีกาเป็นหนที่สองติดต่อกัน รวมถึงโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ก็สามารถคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดในบุนเดสลีกาครั้งแรกของตนเองได้ในสีเสื้อทีมดอร์ทมุนด์
 

class3
ไม่เพียงแค่นั้น ดอร์ทมุนด์ยังย้ำแค้นทัพเสือใต้ในนัดชิงชนะเลิศศึกเดเอฟเบคัพได้ด้วยสกอร์ 5-2 คว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปอย่างงดงาม คล็อปป์กลายเป็นฮีโร่ของสโมสรและแฟนบอลเสือเหลืองไปอย่างเต็มตัว ภาพการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปีนั้นยังคงตามหลอกหลอนทีมเสือใต้อยู่เสมอ
 
แต่เรื่องราวมันช่างดราม่ายิ่งกว่าบทละคร เมื่อในปีต่อมายุปป์ ไฮน์เคส นำบาเยิร์นทวงบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกากลับมาได้สำเร็จ แถมยังเกิดศึกแดร์ คลาสสิกเคอร์ขึ้นในเกมแชมเปียนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ อาร์เยน ร็อบเบน ถูกฟ้าเขียนบทให้มาแก้แค้นแทนเพื่อนร่วมทีมและแก้มือที่ตนเองเคยพลาดจุดโทษเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านั้น เขาคือผู้ยิงประตูชัยพาทีมเสือใต้คว้าถ้วย “บิ๊กเอียร์ส” ได้สำเร็จ เท่านั้นยังไม่พอพลพรรคเสือใต้ยังกลับมาคว้าแชมป์เดเอฟเบคัพได้อีกรายการ พวกเขาจึงกลายเป็นทีมแรกที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ โดยที่ยุปป์ ไฮน์เคสได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก
 

class2
ไฮน์เคสเคยคุมทีมบาเยิร์นมาก่อนแล้วในช่วงปี 1987 ถึง 1991 และสามารถพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้ 2 สมัย จากนั้นก็กลับมากุมบังเหียนทีมเสือใต้อีกครั้งแทนเยือร์เก้น คลินส์มันน์ในปี 2009 ซึ่งเขาได้นำความสำเร็จมาสู่ทีมบาเยิร์นมากมายและยังวางรากฐานสำคัญที่ทำให้ยักษ์ใหญ่จากแคว้นบาวาเรียเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่งมาจนถึงทุกวันนี้
 
นับจากนั้นบาเยิร์นก็สามารถกวาดแชมป์บุนเดสลีกาได้อีก 6 สมัย ตำแหน่งกุนซือใหญ่ถูกเปลี่ยนมือจากไฮน์เคสไปสู่เป๊ป กวาดิโอล่า ในปี 2013 แม้เป๊ปจะประเดิมบทบาทใหม่ในรั้วทีมเสือใต้ด้วยการพ่ายแพ้ต่อดอร์ทมุนด์ในศึกรเดเอฟเอล ซูเปอร์คัพ 4-2 ประตู แต่เขาก็พาลูกทีมกลับมาเอาชนะเสือเหลืองได้ถึงสนามซิกนัล อิดูน่าพาร์ค 0-3 พร้อมกับการันตีแชมป์ลีกได้สำเร็จในขณะที่ยังเหลือการแข่งขันอีกถึง 7 นัด และจากนั้นเป๊ปก็ไม่เคยพ่ายให้แก่ดอร์ทมุนด์อีกเลย
 

class4
นอกจากนี้ยังมีคาร์โล อันเชล็อตติ และนิโก้ โควัช ที่เข้ามานั่งแท่นกุนซือและพาทีมเสือใต้เถลิงแชมป์บุนเดสลีกาในยุคทองของบาเยิร์น ด้านดอร์ทมุนด์นับตั้งแต่คล็อปป์ย้ายออกจากถ้ำเสือเหลืองไปคุมทีมลิเวอร์พูล ก็มีการเปลี่ยนเฮ้ดโค้ชหลายคน ได้แก่ โทมัส ทูเชล เพเทอร์ บอซ และ เพเทอร์ ชเตอเกอร์ แต่ไม่มีเฮ้ดโค้ชคนไหนที่สามารถพาดอร์ทมุนด์กลับมาแย่งบัลลังก์แชมป์จากทีมเสือใต้สำเร็จเลย
 
ลูเซียง ฟาฟร์ คือกุนซือคนล่าสุดที่นำดอร์ทมุนด์คว้าชัยเหนือบาเยิร์น 2-0 ประตู คว้าแชมป์ซูเปอร์คัพได้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา แต่ในเกมลีกพวกเขากลับถูกบาเยิร์นกลับถล่มไปถึง 4-0 ประตู นั่นหมายความว่าทีมเสือใต้ยังคงไม่ยอมปล่อยให้ดอร์ทมุนด์ก้าวขึ้นไปยืนอยู่เหนือพวกเขาในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน เกมแดร์ คลาสสิกเคอร์จึงยังคงเป็นการแข่งขันที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ชวนให้ติดตามชมอยู่เสมอ
 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook