"10 เรื่องประทับใจ" งานประเพณีปั่นดอยอ่างขาง Ang Khang KOM Challenge 2020

งานประเพณีปั่นดอยอ่างขาง Ang Khang KOM Challenge เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีนักปั่นเข้าร่วมงาน 1,000 คน เป็นนักปั่นจากทั่วไทยจำนวน 900 คน และนักปั่นต่างชาติอีกประมาณ 100 คน

งานประเพณีนี้เป็นการจัดขึ้นครั้งแรก เพื่อพิชิตเส้นทางที่เรียกได้ว่าสวยงามและยากที่สุดแห่งหนึ่ง ระยะทางประมาณ 20km ไต่ความชันขึ้นเขาไปที่จุดสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,928 เมตร นอกจากเส้นทางปั่นขึ้นดอยอ่างขางแล้ว อำเภอฝาง ยังมีเส้นทางและสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจสำหรับนักปั่นอีกหลายที่ เช่น ชุมชนบ้านยาง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนาน ที่นี่มี Street Art ร้านกาแฟท้องถิ่น รวมถึงบ้านเรือนที่สวยงามแปลกตา มีพิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ในการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการศึกษา ด้านอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูป และเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงแนวพระราชดําริในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

และนี่คือ 10 เรื่องประทับใจจากงานประเพณีปั่นดอยอ่างขางในปีนี้

1. ได้ฉายา iRonman วงการไต่เขา นักปั่นทุกคนแทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เส้นทางนี้โหดที่สุดในชีวิตตั้งแต่เคยปั่นจักรยานขึ้นเขามา หลายคนจำต้องลงจูงด้วยความที่เนินชันและยาวมากๆ ในบางโค้งชันมากจนทำให้ล้อหน้ายกหงายหลังหากปั่นไม่ระวัง

2. เด็กหญิงออมมี่ อายุ 11 ปี นักปั่นอายุน้อยที่สุดของงาน ใช้จักรยานเสือภูเขา สามารถพิชิตดอยอ่างขางได้ในเวลา 2.31 ชั่วโมง โดยจบอันดับที่ 496 จากนักปั่นทั้งหมด 1,000 คน

3. สวยเป็นบ้า ใครจะไปเชื่อว่านักปั่นสาวสวยกลุ่มนี้ จะแข็งแรงมากๆและปั่นจบในกลุ่มแรกๆ สวยและแข็งแรงเป็นบ้า

4. ยกล้อโชว์กลางเนิน ปีเตอร์ พูลี่ อดีตแชมป์จักรยานประเทศฝรั่งเศส 7 ปี และเป็นอดีตแชมป์ปั่นพิชิตดอยอินทนนท์ และผู้สร้างสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้ สร้างความฮือฮาด้วยการยกล้อปั่นโชว์กลางเนินชันที่นักปั่นคนอื่นอาจต้องลงจูง

5. ให้น้องได้แชมป์ จังหวะนี้จะกลายเป็นที่กล่าวขานกันไปอีกนาน เมื่อ ปีเตอร์ พูลี่ ขึ้นนำและทิ้งห่างนักปั่นที่เหลือมาหน้าเส้นชัยแล้วจอดรอเพื่อนนักปั่นรุ่นน้องร่วมสิบนาที เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าเส้นชัยก่อน ปีเตอร์ ให้สัมภาษณ์ตอนรอรับรางวัลว่า "ผมแก่แล้ว ถึงเวลาของคนรุ่นใหม่" ช่างเป็นคำพูดที่สั้นและเรียบง่าย มีน้ำใจและเป็นแรงบันดาลใจ เป็นเสียงที่จะสะท้อนกังวาลไปอีกนานในสังคมนักปั่น

6. มหกรรมงานเข็นจักรยานขึ้นเขา พูดเลยว่างานนี้ลงเข็นแล้วไม่อายใคร เพราะใครๆเค้าก็เข็นกันซะส่วนมาก สร้างวัฒนธรรมใหม่ จะกินน้ำต้องมีมารยาท ลงจากจักรยานก่อน (ข้ออ้างลงเข็น) จากนักปั่น 1,000 คน ปั่นจบเข้าเส้นชัยไป 904 คน

7. "ชันกว่าอินทนนท์มากๆ" ปีเตอร์และนักปั่นชาวต่างชาติหลายๆคนลงความเห็นเหมือนกัน และไม่เคยมีเส้นทางปั่นไหนในต่างประเทศที่พวกเขาเคยไปลงแข่งขันที่มีความชันและยาวเทียบเท่าที่นี่ ดอยอ่างขาง

8. ไอเลิฟยู วันที่เขาเต็มไปด้วยความรัก เสียงเชียร์ที่ทำให้นักปั่นมีแรงฮึดสู้ในกิโลเมตรท้ายๆที่มีความชันมากๆ เราได้ยินเสียงอาสาสมัครสาว ตะโกนเชียร์นักปั่นต่างชาติด้วยคำว่า "I Love You" เราเห็นรอยยิ้มตอบ ทั้งจากนักปั่นไทยและชาวต่างชาติ และทุกคนดูเหมือนจะมีแรงฮึดเพิ่มความเร็วขึ้นเขาไปสู่เส้นชัย และที่พิเศษไม่เหมือนใครคือ เหรียญที่ระลึก ที่ผู้จัดร่วมกับคนในชุมชนเลือกสรรมาด้วยความรัก อยากให้อ่างขางเป็นที่จดจำอยู่ในใจนักปั่น จึงมอบของที่ระลึกและถ้วยรายวัล เป็นตุ๊กตาช้างที่ทำจากผ้าหลากสีสัน สวยงามน่ารัก เป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทย ที่แสดงถึงความอดทน อายุยืน คู่บารมีและมีความเป็นมงคล

9. สตรีทอาร์ท แปลกแหวกแนวสวยงาม มีเรื่องเล่าที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ชุมชนบ้านยาง (เส้นทางเชื่อมกันกับทางขึ้นดอยอ่างขาง) ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนาน มี Street Art ร้านกาแฟท้องถิ่น มีพิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ 1 (ฝาง) จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ในการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงการศึกษา ด้านอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูป และเป็นสถานที่รวบรวมและจัดแสดงแนวพระราชดําริในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

10. ที่สุดของการมีส่วนร่วมกับชุมชน เรามีอาสาสมัครจากคนในชุมชนร่วม 300 ชีวิต ที่มาช่วยกันจัดงาน อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย มีทั้งนักเรียนจากบนดอย ตัวแทนชาวเขา ครูอาสาจากต่างประเทศที่มาสอนหนังสือบนดอยอ่างขางและพูดภาษาอังกฤษ ครูสอนภาษาจีนและที่พูดภาษาอื่นได้ ต่างร่วมใจกันมาช่วยรับแขกที่เป็นนักปั่นจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทีมจักรยาน Singha Tsukemen55 และชมรมจักรยานฝาง คลับจักรยาน Tourism Thailand Cycling เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ประกอบการในชุมชน ร้านค้าและอาหารโอทอปชุมชนฝางนำอาหารที่หากินที่อื่นไม่ได้หลายอย่างมาบริการให้กับนักปั่น และที่เซอร์ไพร์สมากๆคือ กองเชียร์ที่ดักรออยู่ตามโค้งและเนินชัน มีทั้งกลองยาว นักเต้น และวงดุริยางค์ มาสร้างสีสรรให้กับงานครั้งนี้ และที่ขาดไม่ได้คือนักปั่นหนึ่งพันชีวิต ที่มาร่วมงาน มีความถ้อยทีถ้อยอาศัย ให้คุณค่าและเป็นหนึ่งเดียวกับชุมชน ทำให้งานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี สนุก ปลอดภัย เป็นความประทับใจที่จะจดจำกันไปอีกนาน