10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "ยูเลียน นาเกลส์มันน์" เฮดโค้ชจอมทำลายสถิติของไลป์ซิก

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "ยูเลียน นาเกลส์มันน์" เฮดโค้ชจอมทำลายสถิติของไลป์ซิก

10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "ยูเลียน นาเกลส์มันน์" เฮดโค้ชจอมทำลายสถิติของไลป์ซิก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกุนซือที่เคยได้รับฉายาว่า "เบบี้ มูรินโญ" ในช่วงแรกๆของอาชีพเฮดโค้ช ถึงตอนนี้ นาเกลส์มันน์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองมีดีในแบบที่ไม่เหมือนใคร นับตั้งแต่มานั่งแท่นกุนซือทีมฮอฟเฟนไฮม์ และสามารถทำทีมได้อย่างยอดเยี่ยม มาดูกันว่ามีเกร็ดน่ารู้อะไรเกี่ยวกับยอดกุนซือหนุ่มของแอร์เบ ไลป์ซิก คนปัจจุบันคนนี้บ้าง

1) จอมทำลายสถิติ
นาเกลส์มันน์อายุเพียง 28 ปีเท่านั้นในตอนที่ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมฮอฟเฟนไฮม์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 จริงๆแล้วตามกำหนดเดิมนาเกลส์มันน์จะต้องมารับตำแหน่งคุมทีมในช่วงหน้าร้อนหลังจบฤดูกาลนั้น แต่ด้วยสถานการณ์อันสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นของสโมสร ทำให้กุนซือหนุ่มต้องมาลุยงานก่อนกำหนด และจากสถานการณ์ที่ฮอฟเฟนไฮม์รั้งอันดับรองบ๊วยบนตารางลีก สุดท้ายแล้วนาเกลส์มันน์ก็สามารถพาทีมหนีรอดตกชั้นได้สำเร็จ

k

อย่างไรก็ตาม แม้ว่านาเกลส์มันน์จะชื่อว่าเป็นเฮดโค้ชอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ได้คุมทีมถาวร แต่ แบร์นด์ ชเตอเบอร์ คือโค้ชอายุน้อยที่สุดที่เคยคุมทีมลงแข่งขันในบุนเดสลีกาด้วยวัย 24 ปี โดยเป็นเกมการแข่งขันระหว่าง ซาร์บรึคเคน พบกับ โคโลญจน์

2) อาการบาดเจ็บเปลี่ยนชีวิต
สมัยที่ยังเป็นนักเตะ นาเกลส์มันน์เล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสร 1860 มิวนิค ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันต่างก็พากันแจ้งเกิดได้ในเวทีบุนเดสลีกา แต่นาเกลส์มันน์กลับต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่เข่าหลังย้ายไปอยู่กับเอาก์สบวร์กได้ไม่นานจนต้องฝันสลายรูดม่านปิดฉากอาชีพค้าแข้งลงด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น

he

3) ผู้บุกเบิกการซ้อมรูปแบบใหม่
ฮอฟเฟนไฮม์ คือหนึ่งในไม่กี่สโมสรในโลกที่นำเครื่องจ่ายบอลฝึกซ้อมหรือ "ฟุตบอนาวท์" (Footbonaut) มาใช้ในการฝึกซ้อมของทีม นอกจากนี้ นาเกลส์มันน์ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในการฝึกซ้อมมากขึ้นไปอีก ทั้งการใช้โดรนจับภาพการเคลื่อนไหวของนักเตะจากบนอากาศ การติดตั้งจอยักษ์ไว้กลางสนามซ้อม การติดตั้งกล้องทั้งหมดสี่ตัว (สองตัวที่ยอดเสาและเหนือเส้นครึ่งสนาม กับอีกสองตัวหลังประตูทั้งสองฝั่ง) การมีทีมงานช่วยควบคุมภาพจากกล้องเพื่อฉายให้นักเตะได้เห็นถึงจุดสำคัญต่างๆที่ต้องแก้ไข ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้นาเกลส์มันน์สามารถอธิบายสถานการณ์ได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น

4) โค้ชต้นแบบผู้โด่งดัง
แม้ว่านาเกลส์มันน์จะเคยเอ่ยว่า เปป กวาร์ดิโอลา เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของเขา แต่ผู้ที่ทรงอิทธิพลต่ออาชีพเฮดโค้ชของเขามากที่สุดคืออดีตเฮดโค้ชของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่าง โทมัส ทูเชล ซึ่งในสมัยที่ทูเชลคุมทีมสำรองของเอาก์สบวร์กในซีซั่น 2007/08 เขาได้มอบหมายให้นาเกลส์มันน์ไปสอดแนมคู่แข่ง นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นอาชีพการคุมทีมของนาเกลส์มันน์ที่เปิดโอกาสให้เขาได้เรียนรู้จากทูเชลมากมาย ซึ่งทูเชลก็เคยออกปากชมเชยศิษย์เก่าของเขาเช่นกันว่าเป็นโค้ชที่ทำงานหนักและยินดีกับเขาด้วยมากๆ

o

5) ไม่ติดโซเชียล
ต่างกันสุดขั้วกับหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน นาเกลส์มันน์คือชายผู้ไม่เล่นโซเชียลมีเดียอะไรเลย จริงๆแล้วเขาเคยสมัครแอคเคาท์อินสตาแกรม รวมทั้งเฟซบุ๊ก และมีผู้ติดตามหลายหมื่นคนในช่วงเวลาอันรวดเร็ว แต่เขาก็ปิดแอคเคาท์เหล่านั้นไป

นาเกลส์มันน์ไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่เล่นโซเชียลมีเดีย แต่เอเยนต์ส่วนตัวของเขากล่าวว่า ในฐานะที่เป็นโค้ชก็ไม่เห็นมีความจำเป็นจะต้องเล่นเลย

6) สุดยอดมันสมอง
นาเกลส์มันน์เป็นคนคิดอะไรลึกไปเสียทุกเรื่อง เขาเคยเรียนด้านบริหารธุรกิจก่อนที่จะเปลี่ยนไปเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬาจนจบ แถมยังคว้าใบอนุญาตโค้ชเกรดเอ โดยได้อันดับที่สองรองจากเพื่อนร่วมชั้นซึ่งเป็นอดีตโค้ชทีมชาลเก้ อย่าง โดเมนิโก เทเดสโก

uy

เขาเคยพูดถึงปรัชญาการเล่นฟุตบอลของเขาว่า "ผมต้องการโจมตีให้ใกล้บริเวณประตูคู่แข่งมากที่สุด เพราะเส้นทางการวิ่งของเราไปถึงประตูมันจะไม่ยาวมากหากเรานำบอลขึ้นไปเซ็ตกันสูง.. ผมชอบวิธีการเล่นของทีมบียาร์เรอัล และชอบที่เขามีวิธีฝึกนักเตะเยาวชนที่สุดยอด ผมก็ยังชอบบาร์เซโลน่า กับ อาร์เซน่อล และชอบการทำงานของ อาร์แซน เวนเกอร์ ด้วย"

ระบบอันยอดเยี่ยมที่นาเกลส์มันน์ใช้กับฮอฟเฟนไฮม์ ทำให้เขาได้รับการโหวตให้เป็นโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 ก่อนจะได้รับงานนั่งแท่นกุนซือทีมแอร์เบ ไลป์ซิก ในซีซั่นนี้ในที่สุด

7) "แก" หรือ "คุณ" ?
ในภาษาเยอรมันนั้นมีการใช้คำบุรุษสรรพนามเรียกแทนผู้อื่นที่น่าสนใจอยู่สองคำคือ Du (ดู) ซึ่งมีความหมายในภาษาไทยใกล้เคียงกับคำว่า "แก" ส่วนอีกคำก็คือ Sie (ซี) หมายถึง "คุณ" ตามปกติแล้วเมื่อเรียกผู้ที่เราให้ความเคารพ ในภาษาเยอรมันก็มักใช้คำว่า "คุณ" เช่นเดียวกับในภาษาไทย แต่นาเกลส์มันน์กลับสั่งให้นักเตะทุกคนเรียกเขาด้วยคำว่า "แก" ด้วยเหตุผลว่ามันอาจช่วยสร้างสปิริตอันแน่นแฟ้นให้กับทีม และนักเตะส่วนใหญ่ในทีมก็มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา

นอกจากนี้ นาเกลส์มันน์ยังกระตุ้นให้นักเตะมีความรับผิดชอบต่อทีมมากขึ้น โดยให้พวกเขาเลือกกัปตันทีมกันเองและให้ช่วยกันตั้งเป้าหมายของสโมสรเองอีกด้วย

y

8) แฟมิลี่แมน
ในช่วงเวลาส่วนตัวอันน้อยนิดของเขา นาเกลส์มันน์มักใช้เวลาอยู่บ้านกับภรรยา เวเรนา และลูกชายหัวแก้วหัวแหวน มักซิมิเลียน "มันช่วยได้มากเลยเวลาที่เรากลับบ้านตอนกลางคืนแล้วมีภรรยากับลูกรออยู่ เวเรนาช่วยสนับสนุนผมมากมายและช่วยให้ผมโฟกัสกับงานได้เต็มที่"

9) สถิติที่ต้องรู้
นับตั้งแต่เริ่มคุมทีมในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 จนถึงสิ้นฤดูกาล 2018/19 ที่เขาคุมทีมฮอฟเฟนไฮม์ นาเกลส์มันน์ลงคุมทีมไปกว่า 116 เกม เก็บแต้มไปถึง 191 แต้ม นับเป็นสถิติที่สุดยอดสำหรับโค้ชอายุน้อยคนนี้ เพราะในบุนเดสลีกามีเพียงสองสโมสรที่ทำแต้มได้มากกว่าเขาในช่วงเวลาเดียวกัน ได้แก่ บาเยิร์น มิวนิค (279 คะแนน) และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (228 คะแนน)

bv

10) สมองไว ใจพระ
ไม่ได้มีดีแค่ที่สมอง แต่นาเกลส์มันน์ยังเป็นเฮดโค้ชคนแรกในวงการฟุตบอลที่เข้าร่วมโปรเจกต์ Common Goal ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่นักฟุตบอลจะบริจาคเงินเดือนของตนเองอย่างน้อย 1% เพื่อสนับสนุนมูลนิธิฟุตบอลทั่วโลก จัดการโดยองค์กรที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชื่อ streetfootballworld ที่ตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน นักฟุตบอลในบุนเดสลีกาที่เข้าร่วมโครงการนี้ได้แก่ มัทส์ ฮุมเมิลส์, แซร์จ นาบรี, ชินจิ คากาวะ เป็นต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook