สิงโตหืดจับ! รูนซัดดับเอสโตเนีย1-0+คลิป

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557

เอสโตเนีย 0-1 อังกฤษ

สนาม: อา.เลอ ค็อก อารีน่า, (ทัลลินน์, เอสโตเนีย)

ผู้ตัดสิน: มาริโย สตราฮอนย่า (โครเอเชีย)

เริ่มเกมครึ่งแรกได้ไม่ถึง 1นาที เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูนำ จากจังหวะที่ เซอร์เก เซนยอฟ ลากเข้าเขตโทษแตะหนี แกรี่ เคฮิลล์ ก่อนยิงบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

น.16 ทีมเยือน มีลุ้นบ้าง เมื่อ แจ็ค วิลเชียร์ เปิดบอลให้กับ เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดวอลเลย์ในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป

น.35 อังกฤษ มีโอกาสอีก เมื่อ วิลเชียร์ ลากหนีตัวประกบเข้าเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยขวาบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปอีก

5 นาทีต่อมา ทัพสิงโต บุกอย่างต่อเนื่องและมีโอกาาสจาก ฟาเบียน เดลฟ์ พาบอลขึ้นทางกราบซ้าย ก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้ เวย์น รูนีย์ ขึ้นโขกเดี่ยวๆ แต่หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย และจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาช่วงครึ่งหลัง น.48 เอสโตเนีย ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ ราจนาร์ คลาวาน เข้าไปขวาง ฟาเบียน เดลฟ์  ผู้ตัดสินชักเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกทันที

น.54 "ทัพสิงโต" มีจังหวะมากขึ้น และได้ลุ้น เมื่อรูนี่ย์ จ่ายบอลให้กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เสาสอง ก่อนไหลไปหน้าประตูให้กับ แดนนี่ เวลเบ็ค แต่เข้าแหย่บอลไม่โดน

และมาถึงน.74 ทีมเยือน อังกฤษ ก็มาได้ประตูออกนำจนได้ จากลูกฟรีคิก เวย์น รูนี่ย์ บรรจงปั่นด้วยขวาบอลข้ามกำแพง  เซอร์เก ปาเรโก้ ปัดได้ปลายมือ แต่บอลไปชนเสาเข้าประตูไป ทำให้ อังกฤษ นำ 1-0  เอสโตเนีย

ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน พลาดโอกาสได้ประตูที่สอง จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ รูนี่ย์ เข้าเขตโทษไปดวลกับ เซอร์เก ปาเรโก้ นายทวารเจ้าถิ่น แต่ดาวยิงจากแมนฯ ยูไนเต็ด กลับยิงไปติดตัวอย่างน่าเสียดาย

จบหมดเวลา อังกฤษ เอาชนะ เอสโตเนีย ไปได้ 1-0 ส่งผลให้ขยับขึ้นมาอันดับ 1 ของกลุ่มอี


รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนามของทั้งสองทีม

เอสโตเนีย: เซอร์เก ปาเรโก้ - อีกอร์ โมโรซอฟ, รักนาร์ คลาวาน (กัปตันทีม), เอนาร์ เยเกอร์, อาร์ตูร์ พิคค์ - มาร์ติน วุงค์ (ดมิทรี ครูกลอฟ น.83), คอนสตานติน วาสซิลเยฟ (โยเอล ลินด์เปเร่ น.46), อิลย่า อันโตนอฟ, คาโรล เม็ตส์ - เฮนรี่ อาเนียร์, เซอร์เก เซนยอฟ (เฮนริค โอยาม่า น.80)

อังกฤษ: โจ ฮาร์ท - คาลั่ม แชมเบอร์ส, แกรี่ เคฮิลล์, ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์ - อดัม ลัลลาน่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.64), แจ็ค วิลเชียร์, ฟาเบียน เดลฟ์ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.61) - แดนนี่ เวลเบ็ค (ริคกี้ แลมเบิร์ต น.80), เวย์น รูนี่ย์ (กัปตันทีม)