"5 แข้งสุดเซอร์ไพรส์" แห่งบุนเดสลีกาซีซั่นนี้

เพิ่งจบกันไปหมาดๆ สำหรับการฟาดแข้งในศึกบุนเดสลีกาฤดูกาล 2019/20 แม้บทสรุปบนตารางลีกจะเผยออกมาแล้ว แต่ยังคงมีเรื่องราวความสำเร็จมากมายที่ยังต้องพูดถึงกันอยู่

มาดูกันเลยว่าในฤดูกาลบุนเดสลีกาที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีแข้งหน้าใหม่คนไหนที่ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเวทีลีกสูงสุดของเยอรมนีกันบ้าง

1) อัลฟอนโซ เดวีส์ (บาเยิร์น มิวนิค)

บาเยิร์นกลายเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ไว้มากมายหลายเรื่องในฤดูกาลนี้ ตั้งแต่ผลงานออกทะเลจนร่วงลงไปอยู่อันดับ 7 หลังจบ 14 เกมแรก แต่แล้วพวกเขาก็ทะยานกลับมาคว้าแชมป์ติดต่อกันได้เป็นสมัยที่ 8 ด้วยฝีมือการคุมทีมของ ฮันซี่ ฟลิค และ ลูกทีม

ในแผงหลังที่มีแต่ปัญหาของทีม "เสือใต้" เชโรม บัวเต็ง ที่ดูเหมือนจะหมดอนาคตในถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า ไปแล้วกลับมาได้รับโอกาสและโชว์ฟอร์มได้เข้าตาอีกครั้งแบบผิดความคาดหมาย แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆในแผงหลังก็คงหนีไม่พ้น อัลฟอนโซ เดวีส์ ที่เคยได้ลงเล่นให้บาเยิร์นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2018/19 รวม 6 นัดเท่านั้น แต่ในซีซั่นนี้ดาวรุ่งชาวแคนาดาวัย 19 ปีพัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีม แม้จะถูกสับเปลี่ยนตำแหน่งจากปีกมาเล่นเป็นแบ็คซ้าย แต่เดวีส์ก็เล่นได้เนียนเป็นธรรมชาติ

จากการบาดเจ็บของ นิคลาส ซือเล่อ และ ลูคัส แอร์กน็องเดซ ทำให้บาเยิร์นต้องขยับ ดาวิด อาลาบา ไปยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค และให้เดวีส์ลงมาเล่นเป็นแบ็คซ้ายแทนที่อาลาบา ซึ่งดาวรุ่งแคนาดาก็โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นทั้งรุกและรับ โดยมีจุดเด่นที่ความเร็วถึงขั้นเป็นสถิติใหม่ของบุนเดสลีกา (22.7 ไมล์ต่อชั่วโมง)

ถึงตอนนี้ เดวีส์ได้รับการต่อสัญญาจากสโมสรไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แถมยังได้รับการยกย่องว่าน่าจะกลายเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในยุโรปได้ไม่ยาก

2) คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (แอร์เบ ไลป์ซิก)

มิดฟิลด์ตัวรุกชาวฝรั่งเศสย้ายมาเล่นในบุนเดสลีกาเมื่อช่วงหน้าร้อนปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้แข้งทีม "ตราไก่" ชุดยู 21 เคยลงเล่นเกมลีกให้เปแอสเชไป 13 นัด แต่หลังย้ายมาไลป์ซิก แข้งวัย 22 ปีก็ได้โอกาสลงสนามในสีเสื้อทีม "กระทิงแดง" มากขึ้นเรื่อยๆ เขายิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม ก่อนทำผลงาน 3 ประตู 4 แอสซิสต์ได้ตั้งแต่ลงสนามได้เพียง 10 นัด โดยที่มาการออกสตาร์ทตัวจริงแค่ 4 นัดเท่านั้น

เอ็นคุนคูคือนักเตะสารพัดประโยชน์ที่มีความเร็ว ครองบอลได้ดี จ่ายบอลแม่นเกือบ 90% และมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะอีกด้วย โดยฟรีคิกของเขาช่วยให้ทีมได้ประตูถึง 7 ครั้ง ในเกมถล่มชาลเค่อ 5-0 ประตู เอ็นคุนคูจ่ายแอสซิสต์คนเดียวถึง 4 ครั้ง

ถือว่าแข้งดาวรุ่งคนนี้คือดีลที่ไลป์ซิกประสบความสำเร็จจริงๆ เอ็นคุนคูจบฤดูกาลแรกในบุนเดสลีกาด้วยผลงาน 5 ประตู 13 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 32 นัด

3) คริสโตเฟอร์ ทริมเมล (อูนิโอน เบอร์ลิน)

อูนิโอน เบอร์ลิน ได้ก้าวขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และพวกเขาก็สร้างฤดูกาลอันน่าจดจำด้วยชัยชนะในบ้านเหนือทีมใหญ่ๆ อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ตั้งแต่ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ซึ่งเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะอยู่รอดในบุนเดสลีกาได้แน่นอน

มาริอุส บึตเลอร์ กลายเป็นกองหลังที่ยิงได้ถึง 7 ประตูในบุนเดสลีกาซีซั่นแรก เขายิงประตูดอร์ทมุนด์ได้ในนัดที่ทีมเก็บ 3 คะแนนแรกสำเร็จและยังเหมา 2 ประตูในเกมชนะแวร์เดอร์ เบรเมน แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่าก็เห็นจะเป็นทริมเมล กัปตันทีมอูนิโอนวัย 33 ปีที่เล่นได้โดดเด่นสุดๆ ทั้งที่เพิ่งเคยลงแข่งบนเวทีลีกสูงสุดของเยอรมนีเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะลูกเซ็ตพีซที่เป็นทีเด็ดช่วยให้ทีมได้ประตูถึงครึ่งหนึ่งของประตูรวมทั้งหมดที่ทีมยิงได้

รวมแล้วกัปตันทีมชาวออสเตรียทำแอสซิสต์ในซีซั่นนี้ไปได้ถึง 8 ครั้ง ทริมเมลให้สัมภาษณ์หลังสามารถการันตีการอยู่รอดในบุนเดสลีกาได้ว่า "เรารู้ว่าสำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เราคือผู้เข้าชิงอันดับ 1 ที่น่าจะต้องตกชั้น แต่เราก็ทำผลงานได้สุดยอดตลอดทั้งฤดูกาลและสร้างเซอร์ไพรส์ได้ในหลายๆเกม ผมภูมิใจกับนักเตะทุกๆคนมาก"

4) มาร์ติน ฮินเทอร์เอกเกอร์ (ไอน์ทรัค แฟรงเฟิร์ต)

อีกหนึ่งแข้งชาวออสเตรียที่ลงเล่นกับทัพ "อินทรีแดง-ดำ" เป็นฤดูกาลที่สองแล้ว และเคยช่วยให้ทีมผ่านทะลุถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายศึกยูโรปาลีก จนทีมต้องคว้าตัวมาร่วมทีมอย่างถาวรในซีซั่นนี้

แข้งวัย 27 ปีเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นและยังสามารถช่วยเกมรุกได้ดีอีกด้วย โดยยิงลูกวอลเล่ย์สุดสวยจากลูกเตะมุมช่วยให้ทีมเอาชนะฮอฟเฟนไฮม์ได้ตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล แถมในนัดที่พวกเขาจัดเต็มใส่บาเยิร์น 5-1 ฮินเทอร์เอกเกอร์ก็เป็นหนึ่งในผู้ทำประตูอีกด้วย ก่อนจบฤดูกาลนี้ด้วยผลงานรวม 8 ประตูในบุนเดสลีกา กลายเป็นกองหลังที่ยิงประตูได้สูงสุดในยุโรปเลยทีเดียว

5) มาร์คัส ตูราม (โบรุสเซีย เมินเชนกลัดบัค)

ลูกชายของลิลิยง ตูราม ตำนานกองหลังชาวฝรั่งเศสที่แบกรับความคาดหวังไว้ไม่น้อยหลังย้ายมาเล่นในเยอรมนีเมื่อช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว ตูรามต้องพบกับบททดสอบอันหนักหนาจากสภาพแวดล้อมใหม่ ภาษา และวัฒนธรรมใหม่ ที่ต้องเรียนรู้ รวมทั้งได้มาอยู่กับสโมสรที่ใหญ่ขึ้นอย่างกลัดบัค แต่แข้งดาวรุ่งวัย 22 ปีก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เขามีทั้งความเร็ว รูปร่างสูงใหญ่ และฝีเท้าจัดจ้าน ตูรามได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาถึง 3 เดือนติดต่อกันเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลังจากพาทีมเก็บชัยชนะในลีกถึง 10 นัดจาก 14 เกม

เมื่อบุนเดสลีกากลับมาเตะกันต่อหลังต้องหยุดพักไปเพราะการระบาดของโควิด-19 ตูรามก็ยังฟอร์มแรงไม่ตก ยิง 4 ประตูจาก 4 เกมในเดือนพฤษภาคม รวมแล้วตูรามทำไป 10 ประตูจาก 31 เกมที่ได้ลงเล่น ช่วยให้ต้นสังกัดจบฤดูกาลในอันดับที่ 4 การันตีโควต้าแชมเปียนส์ลีกซีซั่นหน้าได้สำเร็จ ถือว่าเป็นอีกคนที่สอบผ่านได้อย่างเซอร์ไพรส์