"กระบี่ดีคู่จอมยุทธ" : เบียร์โฮฟฟ์ x ยาร์นี่.. ของดีวินนิ่ง 3 ที่มาเจอกันในทีม All Star ยุโรป

วินนิ่ง 3 คือความคลาสสิกที่ไม่อาจหาได้ในยุคนี้ ด้วยค่าพลังจำกัดทำให้นักเตะบางคนเทพเกินจริง และบางคนก็อ่อนเกินจริงไปเยอะ และตัวอย่างของคนที่อ่อนลงชัดเจนคือ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ดาวยิงของทีมชาติเยอรมันที่แทบทำอะไรไม่ได้ในยุคที่Speedเร็วคือพระเจ้า

อย่างไรก็ตาม กระบี่ดีย่อมคู่ควรกับจอมยุทธ และในวาระที่ Main Stand Gaming กำลังจะจัดแข่งขันเกมวินนิ่งหรือ PES (Pro Evolution Soccer) ในปัจจุบัน เพื่อท้าชิงเงินรางวัลสูงที่สุดในประเทศไทยรวม 4 ซีซั่น 1 ล้านบาท ! เราอยากเรียกน้ำย่อยกลับไปในยุคของวินนิ่ง 3 เพื่อพบกับ 1 ในคอมโบที่ดีที่สุดจากนักเตะ 2 ชาติ  ที่เมื่อมาเจอกันเเล้วสามารถสร้าง "ลูกสูตร" ได้ง่ายดายปานปลอกกล้วย

ติดตามได้ที่นี่

ค่าพลังสร้างคน

ในวินนิ่ง 3 ที่มีค่าพลังแค่ 6 ค่า ได้แก่ Speed, Stamina, Kick, Pass, Jump และ Curve และด้วยค่าพลังแค่ 6 อย่างนี้เองที่ทำให้ วินนิ่ง 3 เป็นเกมฟุตบอลที่คลาสสิกไม่เหมือนเกมฟุตบอลเกมไหน และแม้แต่เกมภาคใหม่ๆก็ยังให้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้ 

สิ่งที่ตามมาจากค่าพลังที่น้อยและไม่ละเอียดใกล้เคียงกับโลกแห่งความจริงนี้เองทำให้ก่อกำเนิดนักเตะที่เก่งเกินเหตุขึ้นมามากมาย พูดไปใครก็ร้องอ๋อ นักเตะอย่าง ดาเนี่ยล อโมคาชี่, ทิยานี่ บาบันกิด้า หรือเหล่าทีมจากแอฟริกา ที่ขอเเค่วิ่งเร็วอย่างเดียวทุกอย่างจบทันที เพราะค่าพลัง Speed ถือว่าตัดสินได้เเทบทุกอย่างในตัวเกมภาคเก่าๆนั่นเอง

นอกจากค่าพลังเเล้ว ส่วนสูงถือว่ามีผลอย่างมากในเกมวินนิ่ง 3 เพราะด้วยรูปแบบการเข้าทำเกมรุกที่มีไม่กี่แบบ ยกตัวอย่างแบบชัดๆคือ 1. ใช้ตัววิ่งเร็วลากเข้าไปยิง 2.ใช้ตัว Kick 9 ยิงไกล 3. ใช้การทำชิ่งวัน-ทู เพื่อหนีกองหลังเข้าไปล่อเป้า และอย่างสุดท้ายคือการลากสุดเส้นหลังแล้วกดวงกลม... ถ้าคุณไปถึงจุดนั้นได้และมีกองหน้าตัวเป้าที่มีความสูงเกิน 190 เซนติเมตร รับรองได้เลยว่าโอกาสได้เทคตัวโหม่งเต็มกระบาลสูงมาก จะเข้าหรือไม่ไปว่ากันอีกทีเพราะอย่างที่บอก... มันไม่มีค่าพลังโหม่ง ดังนั้นขอแค่สูงกว่า มีค่าพลัง Jump สักหน่อยเป็นใช้ได้ทั้งนั้น 

ทั้งสองสิ่งสร้างนักเตะเก่งเกินตัวจริงได้ ก็สร้างนักเตะที่อ่อนเกินจริงได้เช่นกัน เมื่อ Speed คือความสำคัญสูงสุด และ Kick คือความสำคัญที่รองลงมา ดังนั้นนักเตะที่ไม่ใช่สายSpeedในภาควินนิ่ง 3 ต้องบอกว่าตายเรียบสถานเดียว เดวิด เบ็คแฮม, ดิเอโก้ ซิเมโอเน่, โรแบร์โต้ บาจโจ้ หรือจอมระเบิดตาข่ายอย่าง อลัน เชียร์เรอร์ คือตัวอย่างของนักเตะที่ไม่เกิดในวินนิ่งภาคเก่าๆอย่างแท้จริง 

นอกจากนี้เมื่อค่าพลังส่วนใหญ่ล้วนเป็นค่าพลังร่างกาย และทักษะที่แบ่งออกแบบกว้างๆ ทำให้ทีมชาติที่เน้นบอลระบบมากกว่าความสามารถเฉพาะตัวอย่าง อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ก็พลอยกลายเป็นทีมใหญ่ที่ไร้คนเหลียวเเล เพราะพวกเขาไม่มีนักเตะSpeed 9 ครั้นจะหาSpeed 8 ก็มีไม่กี่คนเท่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่จึงหันไปเล่นทีมอย่าง ไนจีเรีย และ บราซิล มากกว่า ซึ่งทั้ง 2 ทีมนี้ถือว่าเป็นที่สุดของเเจ้ของวินนิ่ง 3 โดยแท้จริง 

อย่างไรก็ตามนักเตะบางคนที่อยู่ในทีมชาติที่ไม่ได้เป็นที่นิยมดังที่กล่าวมา ก็ใช่ว่าจะหมดค่าไปเสียทีเดียว ว่ากันว่ากระบี่ที่ดี ย่อมคู่กับจอมยุทธที่คู่ควร และทางผู้ผลิตเกมอย่าง Konami ก็ไม่ได้ใจร้ายกับนักเตะบางคนมากมายเกินไปนัก ด้วยการมอบทีมลับจากสูตรโคนามิ (บนๆล่างๆ ซ้ายขวา ซ้ายขวา กากบาท วงกลม) 2 ทีม 

ทีมแรกคือรวมดาราโลกที่เอานักเตะจากทุกทวีปมารวมกันยกเว้นทวีปยุโรปเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาได้ยัดเอาแข้ง Speed 8 Speed 9 ใส่ไปจนเต็มแม็ก   แต่อีกทีมคือรวมดารายุโรปธงสีฟ้านั้นถือเป็นการเกิดใหม่ของนักเตะที่เล่นไม่ได้ในทีมชาติตัวเองอย่าง โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ อย่างแท้จริง

"กระบี่ดี" คู่ "จอมยุทธ"

เบียร์โฮฟฟ์ ดาวยิงจากทีมชาติเยอรมันในช่วงปี 1998 หรือปีที่วินนิ่ง 3 ภาค Final Ver. วางจำหน่ายนั้นจัดว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาลงเล่นให้กับ อูดิเนเซ่ ตั้งแต่ปี 1995 ก่อนเข้าสู่ฟุตบอลโลกปี 1998 เบียร์โฮฟฟ์ ถือเป็นจ้าวเวหาและนักจบสกอร์ตัวจริงเสียงจริง เรียกได้ว่าถ้าเป็นเกมที่มีค่าพลังจำแนกละเอียดถึงลักษณะนิสัยการเล่น และสภาวะทางอารมณ์อย่าง Football Manager เบียร์โฮฟฟ์ คงเป็นหนึ่งใน Target Man หรือกองหน้าตัวเป้าที่เก่งที่สุดในเวลานั้นก็ว่าได้ สถิติยิง 57 ประตูจาก 86 นัดกับทีมที่ไม่ใช่หัวตารางอย่าง อูดิเนเซ่ ยืนยันได้ 

ส่วนในวินนิ่ง 3 ตัวของ เบียร์โฮฟฟ์ จัดว่าเป็นนักเตะที่ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับกองหน้าตัวเป้าเขาสูง 191 ซม. แม้ Speed จะแค่ 7 แต่ค่าพลังที่กองหน้าตัวเป้าต้องมีอย่าง Jump และ Kick นั้นสูงถึง 8 แต่ปัญหามันอยู่ที่ทีมชาติเยอรมันยุคนั้นไม่มีนักเตะที่คอยใช้ "ลูกสูตร" กับเขานั่นเอง

สูตรที่ว่าจัดเป็น 1 ในตำรับการเข้าทำสุดคลาสสิกของ วินนิ่ง 3 นั่นคือการโยนโหม่งจากริมเส้น และการจะไปถึงสุดเส้นหลังแล้วกดวงกลมเข้ามาได้นั้น จำเป็นอย่างมากจะต้องมีนักเตะตำแหน่งปีกที่มีความเร็วมากหน่อย ซึ่งเยอรมันนั้นแทบไม่มีนักเตะ Speed 8 เลย (ทั้งทีมมีแค่ เจอร์เกน คลินส์มันน์ และ คริสเตียน ซีเก้ เท่านั้นที่ Speed 8) 

นอกจากนี้ ในตำแหน่ง 11 ตัวจริง เป็นระบบการเล่นที่ไม่มีตัวริมเส้น แถมกองกลางอย่าง เยนส์ เยเรมีส์, มิเชล ทาร์นาต และ ดีทมาร์ ฮามันน์ ก็เป็นพวกสายช้า เน้นยิงเน้นส่งมากกว่า ดังนั้นค่าพลังที่โดดเด่นของ เบียร์โฮฟฟ์ อย่างการโหม่ง แทบจะไม่มีความหมายเลย  เพราะมันค่อนข้างยากที่จะใช้นักเตะที่เป็นสไตล์บอลระบบ ทะลุไปสุดเส้นหลังแล้วโยนเข้ามาให้ตัวเป้าปิดฉาก 

ดังนั้นการที่เบียร์โฮฟฟ์ ได้ปรากฎตัวในทีมรวมดารายุโรป หรือทีมธงสีฟ้านั้น คือการเปลี่ยนทีมที่ทำให้เขาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมร่วมกับนักเตะที่พร้อมปั้นเขาอย่างแท้จริง และหนึ่งในนักเตะที่เกิดมาเพื่อคู่กับแทคติคโยนโหม่ง และเข้ากับวลี "กระบี่ดีคู่จอมยุทธ" ก็คือ โรเบิร์ต ยาร์นี่ นักเตะตำแหน่งแบ็คซ้ายจากทีมชาติโครเอเชียนั่นเอง

รวมดารายุโรป ที่แสนจะลงตัว 

อย่างที่กล่าวไว้ทีมจากยุโรปนั้น นอกจากทีมที่มีนักเตะพลังจี๊ดจ๊าดอย่าง เนเธอร์แลนด์ ก็แทบจะไม่มีทีมไหนเป็นที่นิยมของคอเกมเมอร์ไทยมากมายนัก อาจจะมีบ้างแต่ไม่เท่าฝั่งอเมริกาใต้หรือแอฟริกาที่เรียกได้ว่าจี๊ดทุกตัวแน่นอน

แต่เมื่อมีทีมรวมดารายุโรปขึ้นมาก็เหมือนการเอานักเตะที่ดีที่สุดของเเต่ละทีมมารวมกันไว้ในทีมเดียว จุดอ่อนเรื่องค่าพลังก็หายไป หนำซ้ำจะยิ่งสมดุลกว่าเก่าด้วย และการมีนักเตะอย่าง ยาร์นี่ และ เบียร์โฮฟฟ์ ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสุดๆ

ยาร์นี่ ในทีมชาติโครเอเชียนั้นมี Speed 9 ก็จริง แต่ยากที่จะเล่นเเท็คติกโยนโหม่งที่เป็นเหมือนบั๊กของเกม เพราะกองหน้าอย่าง ดาวอร์ ซูเคอร์ นั้นไม่ได้สูงใหญ่ แถมดาวเตะตัวโตๆอย่าง อเลน บ็อกซิช ก็ไม่ติดทีมชาติชุดนั้นอีกด้วย และด้วยความที่เขาเป็นนักเตะในตำแหน่งริมเส้นแบบธรรมชาติ การได้มาเล่นในรวมดารายุโรปที่มี เบียร์โฮฟฟ์ เป็นหน้าเป้านั้น คือการจับคู่กันอย่าลงตัวที่สุด 

นักเตะของรวมดารายุโรปถือว่ามีสัดส่วนสมดุลดีทั้งเกมรุกและรับ มีทั้งนักเตะตัวใหญ่ นักเตะวิ่งเร็ว และนักเตะยิงแรงจ่ายบอลดี เดินชนกันเต็มไปหมด และมันก็ทำให้ แบ็คซ้ายเบอร์ 2 ของภาคนี้ (เป็นรอง โรแบร์โต้ คาร์ลอส) อย่าง ยาร์นี่ ที่มี Speed 9 มีประโยชน์สูงสุด แถมไม่ต้องจับไปเล่นกองหน้าเหมือนเล่นให้โครเอเชีย เพราะมี ไมเคิล โอเว่น ที่Speed 9 อีกคนอยู่แล้ว

เพราะการมีอยู่ของยาร์นีในทีมรวมดารายุโรป ช่วยให้เกมรุกของทีมหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากการมีเขาอยู่ริมเส้น โอกาสทำชิ่งกับมิดฟิลด์ที่ Pass ดีๆอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน ก็ง่ายต่อการทะลุไปถึงสุดเส้นหลังมากขึ้นกว่าในทีมชาติโครเอเชียนั่นเอง   

นอกจากนี้เมื่อตัวรอโหม่งเป็น เบียร์โฮฟฟ์ ที่สูง 191 และค่า Jump 8 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นลำดับต้นๆในเกม ทำให้มีโอกาสทำประตูได้มากขึ้น แม้จะมี เอ็นวานโก้ คานู จากไนจีเรีย ที่สูง 197 เซนติเมตร แต่คานู มีค่า Jump น้อยกว่า ทำให้เมื่อเทียบกันเรื่องทักษะการขึ้นโหม่งในวินนิ่ง 3 ต้องบอกว่าเขาไม่เป็นรองอย่างแน่นอน 

ดังนั้นพอเล่นตามสูตร ให้ ยาร์นี่ วิ่งไปจนถึงสุดเส้นหลังแล้วกด O เบียร์โฮฟฟ์ ก็พร้อมจะขึ้นขวิดทุกสภาวะอากาศ กดสี่เหลี่ยมค้างเอาไว้เป็นอันจบเรื่อง โอกาสเข้าสูงมากเพราะลูกโหม่งในภาคเก่าๆนั้นมีประสิทธิภาพสูงอยู่เเล้ว 

นอกจากนี้ความหลากหลายในการเล่นของทีมรวมดารายุโรปที่สามารถปรับมาเล่นระบบหน้า 3 ตัว ที่มีนักเตะ Speed 9 สองคนเป็นวิงเกอร์ฝั่งขวา(โอเว่น) และ ซ้าย(ยาร์นี่) แล้ว ก็ยิ่งทำให้ รวมดารายุโรปสามารถเล่นลูกสูตรได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเลี้ยงไปยิง, วันทูทะลุช่อง หรือโยนโหม่ง ก็ทำได้ทั้งนั้น เผลอๆจะดีกว่าทีมยอดนิยมอย่าง ไนจีเรีย ด้วยซ้ำไป แถมตัวยิงไกลมีเพียบทั้ง คลาเรน ซีดอร์ฟ, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, ซีเนดีน ซีดาน พวกนี้ Kick 8 Kick 9 ทั้งนั้น 

จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมนั้นมีผลอย่างมากในแต่ละแท็คติกฟุตบอล สำหรับวินนิ่ง 3 ที่สุดเเล้ว การมีนักเตะที่มีความเร็ว ยิงไกลดี ตัวสูงแข็งแกร่งโหม่งเก่ง อยู่ในทีมเดียวกันเเล้ว ทุกอย่างจบ ครบเครื่องอย่างแท้จริง

ในส่วนของ เบียร์โฮฟฟ์ นั้น การมาอยู่ในทีมออลสตาร์ธงฟ้า ถือว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพของตัวเขาเองได้อย่างมหาศาล จากที่เคยเป็นตัวที่หวังพึ่งไม่ได้เลยในทีมชาติเยอรมัน แต่เมื่อมาเจอกับเพื่อนร่วมทีมที่เหมาะกับสไตล์การเล่นและจุดเเข็งของเขามากขึ้น เบียร์โฮฟฟ์ ก็กลายเป็นกองหน้าตัวอันตรายขึ้นมาเลย... นี่แหละที่เขาเรียกว่ากระบี่จะดี ต้องอยู่ในมือของจอมยุทธที่ถูกคน... และนี่คือเรื่องราวที่เราหวนนึกถึงวินนิ่ง 3 ทีไรก็อดคิดถึงมันทุกครั้งไป