[OPINION] ตัวแปรสำคัญกับอนาคตของแข้งเบอร์ 1 ของโลก "ลิโอเนล เมสซี"

[OPINION] ตัวแปรสำคัญกับอนาคตของแข้งเบอร์ 1 ของโลก "ลิโอเนล เมสซี"

[OPINION] ตัวแปรสำคัญกับอนาคตของแข้งเบอร์ 1 ของโลก "ลิโอเนล เมสซี"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข่าวหนึ่งที่คนทั้งวงการฟุตบอลยังคงต้องจับตามองนั่นก็คือ อนาคตเรื่องการย้ายทีมของยอดนักเตะ 6 บัลลงดอร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี

นับตั้งแต่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ออกมาประกาศว่าเขาไม่ต้องการอยู่กับบาร์เซโลน่าอีกแล้ว กระแสของข่าวก็ถาโถมมาอย่างไม่ขาดสาย บรรดากูรูและสำนักข่าวต่างๆพากันออกมาวิเคราะห์ไม่เว้นแต่ละวันว่า นักเตะเทวดาแห่งยุครายนี้กำลังจะย้ายไปไหน?

ชื่อของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือตัวเต็งที่เข้ามามีซีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากที่นั่นมียอดโค้ชอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้ที่เคยปลุกปั้นเมสซีเมื่อหลายปีก่อนรับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม อีกทั้งสโมสรสีฟ้าแห่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในอภิมหาเศรษฐีแห่งโลกลูกหนังในยุคปัจจุบันที่พร้อมจะสนองความต้องการด้านการเงินอย่างเต็มที่

c
อย่างไรก็ตาม ฝันของสาวกสกายบลูส์ก็ต้องล่มสลายต่อหน้า เมื่อบาร์เซโลน่าประกาศว่าใครที่อยากได้ตัวกัปตันทีมของพวกเขาต้องจ่ายเงินตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา ไม่ใช่นึกจะย้ายก็ย้ายได้เลยอย่างที่เข้าใจกันในครั้งแรก

มหากาพย์ครั้งนั้นจึงจบลงแบบที่ต่างคนต่างกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ก่อนจะรอให้สัญญาหมดลงแล้วจึงค่อยมาคุยกันใหม่

4 เดือนผ่านไป เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี 2020 ลิโอเนล เมสซี ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตของตัวเองอีกครั้งผ่านทาง La Sexta โดยบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้อาจจะไม่ได้ระบุชัดเจนเรื่องอนาคต แต่มีอยู่ 2 ประเด็นที่ชัดเจนมากๆคือ หนึ่ง เจ้าตัวยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวนี้อย่างแน่นอน

ด้วยเหตุที่ว่าสัญญาฉบับปัจจุบันของดาวเตะวัย 32 ปีจะหมดลงในเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งหมายความว่าเขาจะสามารถเปิดการเจรจากับสโมสรต่างๆได้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ก่อนจะย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวหลังสิ้นสุดสัญญา

a
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง โดยคราวนี้รายงานข่าวระบุว่าพวกเขาพร้อมจะคว้าตัวเมสซีไปร่วมทีมในช่วงปีใหม่นี้เลย แต่ท้ายที่สุด นักเตะก็ออกมาปฏิเสธว่ามันเป็นเพียงข่าวลือ และเขายังต้องการอยู่กับบาร์ซ่าจนจบฤดูกาลเพื่อคว้าแชมป์ส่งท้ายให้ได้ ดังนั้น การย้ายทีมในเดือนมกราคมจึงจะไม่เกิดขึ้น

อีกหนึ่งประเด็นที่ชัดเจนคือ เจ้าตัวยังยืนยันว่าต้องการย้ายออกจากถิ่นคัมป์นูเหมือนเดิม

การปฏิเสธที่จะอยู่กับสโมสรต่อไปของ ลิโอเนล เมสซี นั้นเป็นการยอมรับกลายๆว่า อาซูลกราน่าจะไม่สามารถกลับมาอยู่ในจุดที่พวกเขาเคยเป็นได้อีกต่อไป อีกทั้งในการให้สัมภาษณ์เขายังพูดถึงเรื่องการได้พูดคุยกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เจ้านายเก่า และความฝันที่อยากจะยุติอาชีพพ่อค้าแข้งในเมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ นั้นก็ยิ่งตอกย้ำว่า บาร์เซโลน่า กับ เมสซี จะเหลือเพียงแค่ตำนาน

ซึ่งสาเหตุสำคัญที่กองหน้าฟ้าขาวไม่ยอมต่อสัญญากับสโมสรไม่ใช่เรื่องเงินๆทองๆ แต่เป็นวิสัยทัศน์ในการพัฒนาทีม ซึ่งเขามองว่าสโมสรต้องแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการประสบความสำเร็จมากกว่าที่เป็นอยู่

q

ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์จากบทสัมภาษณ์นี้ ทุกคนก็พอมองออกว่าจุดหมายปลายทางต่อไปของ ลีโอเนล เมสซี คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าโลกลูกหนังนั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพียงชั่วข้ามคืน การมาถึงของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ที่ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลายเป็นหนึ่งตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้สตาร์บาร์เซโลน่าหันไปลงหลักปักฐานที่ดินแดนน้ำหอมได้

"พอช" ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามารับงานต่อจาก โธมัส ทูเคิล ที่เกือบพาเปแอสเชคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จเมื่อซีซั่นที่แล้ว และแน่นอนว่าเขาต้องมีโปรเจ็คต์ในการพาทีมก้าวไปสู่การเป็นเจ้ายุโรปให้ได้อีกครั้ง

ชื่อของ เซร์คิโอ อเกวโร, เดเล อัลลี, อูโก ยอริส, เปาโล ดิบาลา และ ปอล ป็อกบา คืออภิมหาโปรเจ็คต์ของอดีตนายใหญ่ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ รวมทั้งอภิมหานักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี ก็เป็นชื่อแรกๆที่ถูกพูดถึงนับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเทรนเนอร์ของปารีเซียง

u

ดังนั้น เมื่อ แมนฯ ซิตี้ มีเป๊ป เปแอสเช ก็มีโปเช็ตติโน, เนย์มาร์, คิลิยัน เอ็มบัปเป และโปรเจ็คต์สุดทะเยอทะยานที่คอยต้อนรับขับสู้อยู่ตรงนั้น

แชมป์ลีกเอิงจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของการค้าแข้งในลีกระดับสูงของเมสซีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องเงินไม่มีปัญหา ความสำเร็จไม่ต้องพูดถึง ความมุ่งมั่นของพวกเขานั้นเต็มร้อย เพราะเป้าหมายเดียวของเปแอสเชคือการก้าวขึ้นไปเป็นเจ้ายุโรปให้ได้เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

และเมื่อทุกอย่างวางรออยู่ข้างหน้าแล้ว เหลือแค่ตัวนักเตะเท่านั้นที่จะต้องตัดสินใจว่าอยากจะปิดฉากการค้าแข้งในฟุตบอลระดับสูงอย่างไร?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook