ทัพไทยประเดิมวันแรก 17 ทอง

สมเด็จพระเทพฯพระราชทานช่อดอกไม้ให้กับนักกีฬาไทย

การแข่งขันกีฬาคนพิการอาเซียน อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 5ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เปิดฉากชิงเหรียญทองเป็นวันแรก เมื่อ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาไทยลงชิงเหรียญทองทั้งสิ้น 22 ทอง จากกีฑา ที่สนามกีฬาแห่งชาติมาเลเซีย บูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาไทยถึงของสนาม และนักกีฬาไทยไม่ทำให้ผิดหวังโชว์ผลงานคว้ามาได้ 17 ทอง ออกนำอันดับเหรียญทองตั้งแต่วันแรกดังนี้

วิ่ง 100 เมตรหญิง T12 (พิการสายตามองเห็นเลือนราง) พิมพ์นารา เปี่ยมธนาการกูล คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ สถิติ 14.03 วินาที และเป็นเหรียญทองแรกของการแข่งขันครั้งนี้ รวมทั้งเหรียญทองแรกของทัพนักกีฬาไทย ส่วนเหรียญเงินเป็นของ วู ที ทิ คิม จากเวียดนาม 14.43 วินาที และ อัน นูร์ ฮาลียู ยูซุป จากบรูไนได้เหรียญทองแดง 15.22 วินาที ซึ่งหลังคว้าทองแรก พิมพ์นารา ลมกรดวัย 31 ปี จากสงขลาเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่คว้าเหรียญทองแรกได้ ทั้งที่ก่อนแข่งไม่มั่นใจมากนัก เนื่องจากเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่ต้นขาได้ไม่นาน และเป็นเหรียญทองแรกในระยะ 100 เมตรของตนด้วย

วิ่ง 100 ม.หญิง T13 คู่แฝดสาว อุบลวรรณ ประวัติ และ สุพรรณี ประวัติ ร่วมกันคว้าเหรียญทองและเหรียญเงิน โดย สุพรรณี ได้เหรียญทอง 13.49 วินาที, เหรียญเงิน อุบลวรรณ 13.96 วินาที ส่วนประเภทอื่น ๆ ได้แก่ ขว้างจักรชาย F11 (ตาบอดสนิท) มานพ ตะเคียนคาม อดีตนักยูโดเหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 เบนเข็มมาเล่นกรีฑาครั้งแรก คว้าเหรียญทองทันทีด้วยสถิติ 27.64 ม. (ทำลายสถิติเดิมของ คาร์บิเนล เอวาริสโต ที่ทำไว้ 26.63 ม.),พุ่งแหลนชาย F58 ทอง ศักดิ์ชัย ยิ้มบ้านช้าง 41.98 ม. (ทำลายสถิติเดิม 38.70 ม.), วิ่ง 100 ม.ชาย T13 ทอง ทรงวุธ ล้ำเส้น 11.77 วินาที

วิ่ง 1ชาย T42 (พิการขา) ทอง ธวัชชัย โมระพัฒน์ 15.16 วินาที, วิ่ง 100 ม.ชาย T44 ทอง สุทิศ อ่วมสมุทร 12.65 วินาที, เหรียญเงิน สมดี วรรณกัมมิโก 12.91 วินาที, วิ่ง 100 ม.หญิง T46 ทอง จิราพร วงศ์สุวรรณ 14.57 วินาที, วิ่ง 100 ม.ชาย T46 สุทัศน์ ยาที ของไทยได้ทองแดง 11.91 วินาที, วิ่ง 100 ม.ชาย ที่ 1 ทอง กฤษณะ จอฉุย 11.92 วินาที และทองแดง จักรกิจ ปันทอง 12.11 วินาที, วิ่ง 100 ม.ชาย T37 ทอง ชัยรัตน์ ทาอ่อน 13.28 วินาที, วิ่ง 800 ม.ชาย T45 ทอง สงัด ไชยคินี 2.29.43 นาที (ทำลายสถิติเดิม 2.34.34 นาที), วิ่ง 800 ม.ชาย T12 ทอง ศุภชัย สงพินิจ 2.04.71 นาที (ทำลายสถิติเดิม 2.05.64 นาที),

วีลแชร์เรซซิ่ง 100 ม.T52 เพชร รุ่งศรี ได้เหรียญเงิน 19.21 วินาที โดยทำเวลาเท่ากับ เพต เจอร์โรลด์ ของฟิลิปปินส์ที่ได้ทอง แต่ฟิลิปปินส์นำล้อหน้าแตะเส้นชัยก่อน, วีลแชร์ เรซซิ่ง 800 ม.ชาย T53 ทอง โสภา อินทเสน 1.48.83 นาที, เงิน พิเชษฐ์ กรุงเกตุ 1.49.22 นาที, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 ม.ชาย ทอง ประวัติ วะโฮรัมย์ 1.39.16 นาที (ทำลายสถิติเดิม 1.47.00 นาที),

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 18.30 น ตามเวลาท้องถิ่น นายธนะ ดวงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้นำช่อดอกไม้ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาพระราชทานเป็นกำลังใจ แก่ทัพนักกีฬาไทยชุดอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 มามอบให้ทัพนักกีฬาไทย โดยทำพิธีมอบที่โรงแรมเพิร์ล อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักของทัพกีฬาไทย

ส่วนพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เริ่มขึ้นในช่วงค่ำ ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ภายในอินดอร์สเตเดี้ยม ปูตรา สเตเดี้ยม บูกิต จาลิล โดยมี 10 ชาติชิงชัย เนื่องจากติมอร์ถอนทีมแล้ว ขบวนทัพนักกีฬาของไทย นำโดย ประวัติ วะโฮรัมย์ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งเจ้าของสถิติโลก 5,000 เมตร T54 ถือธงชาติไทยนำทัพนักกีฬาไทยเข้าสู่สนามเป็นลำดับที่ 8 เรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ โดยมี อับดุลเลาะห์ บิน ฮาจิ อาหมัด บาดาวี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ซึ่งเจ้าภาพจัดพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเรียบง่าย มีการแสดงที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรม และปิดท้ายด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ต ให้นักกีฬาแต่ละชาติได้สนุกสนานกัน

สรุปอันดับเหรียญทองวันแรก (ทอง-เงิน-ทองแดง) 1.ไทย (17-6-3), 2.มาเลเซีย (5-2-5), 3.ฟิลิปปินส์ (2-4-1), 4.อินโดนีเซีย (2-0-2), 5.เวียดนาม (1-9-3), 6.กัมพูชา (0-1-2), 7.บรูไน (0-0-2)

ขณะที่ นักข่าวไทยสุดซวยประเดิมรับอาเซียนพาราเกมส์ ในวันเปิดการแข่งขันเมื่อ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยช่างภาพของช่องทีวีกีฬา ได้เข้าไปส่งข่าวโดยใช้อินเทอร์เน็ตของร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ที่โรงแรมเพิร์ล อินเตอร์เนชั่น และวางกล้องถ่ายภาพทีวีไว้ที่โซฟาข้างตัว ขณะที่ กำลังพิมพ์งานในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอยู่ ปรากฏว่ามีชายลึกลับวิ่งเข้าไปฉกกล้องทีวีที่วางอยู่ต่อหน้าต่อตา แล้ววิ่งออกจากร้านหนีหายไป ท่ามกลางความตกตะลึงของลูกค้าในร้านและในโรงแรม แต่ไม่สามารถจับตัวได้ และคณะกรรม การจัดการแข่งขันเจ้าภาพได้นำนักข่าวไทย ซู กกท. ไปแจ้งความ เพื่อลงบันทึกเป็นหลักฐานและยืนยันว่าจะตามจับคนร้ายมาให้ได้.