Deadpool ฮีโร่แห่งเร็กซ์แฮม : ทำไม "ไรอัน เรย์โนลด์" ถึงไปซื้อสโมสรนอกลีกอังกฤษ?

Deadpool ฮีโร่แห่งเร็กซ์แฮม : ทำไม "ไรอัน เรย์โนลด์" ถึงไปซื้อสโมสรนอกลีกอังกฤษ?

Deadpool ฮีโร่แห่งเร็กซ์แฮม : ทำไม "ไรอัน เรย์โนลด์" ถึงไปซื้อสโมสรนอกลีกอังกฤษ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เดดพูล ฮีโร่สายเกรียนแตกผู้ทำลายกำแพงที่ 4, กรีน แลนเทิร์น ฮีโร่ชุดเขียวที่ตราตรึงจนกลายเป็นมีมให้ล้อกันจนถึงปัจจุบัน หรือแม้กระทั่งชายหนุ่มผู้ต้องติดอยู่ในโลงแคบ ๆ และต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอดใน Buried

ไม่ว่าภาพจำที่คุณมีต่อซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด "ไรอัล เรย์โนลด์" จะเป็นอย่างไร แต่วันนี้มีอีกหนึ่งบทบาทให้ต้องนึกถึง นั่นคือการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล

ในโลกแห่งซูเปอร์สตาร์ผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและชื่อเสียง การเข้าเป็นเจ้าของทีมกีฬาดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมยอดนิยม ล่าสุด นาตาลี พอร์ตแมน ก็เพิ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสโมสรฟุตบอลหญิง Angel City FC ใน NWSL (เนชันแนล วีเมนส์ ซอคเกอร์ ลีก ประเทศสหรัฐอเมริกา) ไปหมาด ๆ เช่นเดียวกับ ไรอัล เรย์โนลด์

ทว่าเหตุใดนักแสดงหนุ่มเชื้อสายแคนาเดียน และใช้ชีวิตส่วนใหญ่โลดแล่นอยู่ในฮอลลีวูด ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงมาให้ความสนใจ และทุ่มเงินซื้อ เร็กซ์แฮม สโมสรเล็ก ๆ ระดับท้องถิ่นของเวลส์ (แต่เล่นอยู่ในลีกอังกฤษ) อีกทั้งยังมีวิสัยทัศน์ในการนำพาสโมสรก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ธรรมดา

เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร ติดตามได้ที่ Main Stand

ทำไมต้อง เร็กซ์แฮม ?

ระหว่างที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านเนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงต้นปี 2020 แต่ละคนก็คงมีกิจกรรมไว้ทำแก้เบื่อคลายเหงาแตกต่างกันออกไป บ้างก็อาจจะดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกาย แต่สิ่งที่ ไรอัน เรย์โนลด์ ซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดผู้โด่งดังจากการรับบทเป็น “เดดพูล” (Deadpool) ซูเปอร์ฮีโร่จอมเกรียน กับเพื่อนสนิทของเขาอย่าง ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ นักแสดงผู้สร้างชื่อจากซีรีส์เรื่อง Lost และซิทคอม It's Always Sunny in Philadelphia เลือกที่จะทำ คือ การหมกมุ่นอยู่กับการดูไฮไลท์การแข่งขัน ศึกษาประวัติความเป็นมา ค้นคว้าข้อมูลด้านต่าง ๆ ของสโมสรฟุตบอลเร็กซ์แฮม 


Photo : depor.com

 

ชื่อจะไม่คุ้นหูก็ไม่แปลก เพราะปัจจุบันสโมสร เร็กซ์แฮม กำลังโลดแล่นอยู่ใน National League ซึ่งเป็นลีกระดับ 5 ของลีกฟุตบอลประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นทีม "นอกลีก" ดิวิชั่นสูงสุด ถึงแม้ว่าสโมสรแห่งนี้จะถูกบันทึกไว้ว่าเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่เก่าแก่เป็นอันดับ 3 และสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่อันดับ 6 ของโลกก็ตาม 

เร็กซ์แฮม เอเอฟซี ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1864 ณ เมืองเร็กซ์แฮม ที่ต่อมาได้กลายเป็นเมืองหลวงด้านฟุตบอลของเวลส์ เนื่องจากในปี 1876 สมาคมฟุตบอลเวลส์ก่อตั้งขึ้นในเมืองนี้เช่นกัน 

แม้ เร็กซ์แฮม จะเป็นสโมสรเก่าแก่ติดอันดับโลก แต่ในเรื่องความสำเร็จพวกเขาก็ไม่ได้มีมากมายนัก เพราะนอกจากการคว้าแชมป์ เวลช์ คัพ 23 สมัย ซึ่งเป็นสถิติมากที่สุดตลอดกาลแล้ว พวกเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่วนเวียนอยู่กับลีกระดับล่างไปจนถึงระดับท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ 

ฟุตบอลระดับสูงสุดที่ เร็กซ์แฮม มีโอกาสได้สัมผัสก็คือ ดิวิชั่น 2 หรือ อีเอฟแอล แชมเปียนชิพ ในปัจจุบันนั่นเอง ส่วนพรีเมียร์ลีกยังคงเป็นสังเวียนที่พวกเขาไปไม่ถึง ก่อนที่ฤดูกาล 2007-08 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ เร็กซ์แฮม ได้เล่นฟุตบอลในระดับลีกอาชีพ เพราะหลังจากที่พวกเขารับประทานบ๊วยของ อีเอฟแอล ลีกทู ในปีนั้น และตกชั้นไป ก็ไม่เคยสามารถเลื่อนชั้นกลับมาได้อีกเลย


Photo :  Wrexham AFC

 

คำถามคือ ... แล้วทำไมดาราระดับซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด 2 คน ถึงมาให้ความสนใจสโมสรฟุตบอลระดับท้องถิ่นสโมสรนี้ ?

คำตอบไม่มีอะไรซับซ้อน ก็เพราะ ไรอัน เรย์โนลด์ กับ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ สนใจที่จะซื้อสโมสร เร็กซ์แฮม มาไว้ในครอบครองยังไงล่ะ

แม็คเอลเฮนนีย์ ขึ้นชื่อว่าเป็นดาราที่มีภาพลักษณ์เป็นแฟนกีฬาตัวยงอยู่แล้ว ส่วน ไรอัน เรย์โนลด์ เองก็เป็นแฟนเดนตายของ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ สโมสรฟุตบอลจากเมืองบ้านเกิดของเขาที่โลดแล่นอยู่ใน เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน พูดคุยเรื่องกีฬาอย่างออกรสออกชาติอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งไอเดียที่ว่า "พวกเราน่าจะซื้อทีมฟุตบอลเป็นของตัวเอง" ก็เกิดขึ้น

เมื่อมีไอเดียเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้มันล่องลอยไปตามสายลม แต่เลือกที่จะลงมือทำมันให้เป็นจริงในเร็ววัน โดยเริ่มต้นจากติดต่อไปยัง Inner Circle Sports LLC บริษัทที่ปรึกษาผู้ลงทุนด้านกีฬาในนิวยอร์ก ก่อนที่ทางบริษัทจะมีลิสต์รายชื่อของทีมฟุตบอลมากมายทั่วโลกที่อยู่ในสถานะพร้อมให้มีนักลงทุนเข้าไปซื้อ และเหมาะสมกับเงินทุนที่ เรย์โนลด์ กับ แม็คเอลเฮนนีย์ กำหนดไว้

ท่ามกลางรายชื่อสโมสรมากมาย สองซูเปอร์สตาร์สะดุดตากับ เร็กซ์แฮม เป็นพิเศษ

 

"ทำไมถึงเป็น เร็กซ์แฮม ล่ะ?" ครั้งหนึ่งนักข่าวจาก The Gurdian ยิงคำถามนี้ใส่ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ ในการสัมภาษณ์

"ผมต้องถามกลับมาทำไมถึงจะไม่เป็น เร็กซ์แฮม มากกว่า" ดาราหนุ่มตอบกลับด้วยอารมณ์ขันตามสไตล์ แต่จริง ๆ แล้วเหตุผลที่พวกเขาเลือกสโมสรเล็ก ๆ จากประเทศเวลส์แห่งนี้ลึกซึ้งกว่านั้นมาก


Photo : www.shropshirestar.com

ไรอัน เรย์โนลด์ มีทรัพย์สินสุทธิ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4,500 ล้านบาท) ส่วน ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ ทรัพย์สินสุทธิของเขาอยู่ที่ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,500 ล้านบาท) ด้วยความร่ำรวยระดับนี้ พวกเขามีศักยภาพมากพอที่จะซื้อสโมสรในลีก แชมเปียนชิพ หรือสโมสรในลีกระดับสูงสุดของหลายประเทศในทวีปยุโรปด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับเลือกสโมสรในลีกระดับ 5 ของอังกฤษ แถมยังไม่ได้เล่นในระดับอาชีพอีกต่างหาก

"จากที่ผมได้ค้นคว้าเกี่ยวกับเมืองเร็กซ์แฮมในหลายแง่มุม ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ผู้คน ผมเฝ้ามองพวกเขาอย่างใกล้ชิด ผมมีความรู้สึกว่าเมืองเร็กซ์แฮมนั้นคล้ายกับเมืองฟิลาเดลเฟีย บ้านเกิดผมเหลือเกิน มันทำให้ผมได้หวนย้อนคืนความหลัง และดึงดูดความสนใจผมมาก ๆ" แม็คเอลเฮนนีย์ กล่าวกับ BBC

 

ส่วน ไรอัน เรย์โนลด์...ถึงแม้ว่าเมืองเร็กซ์แฮมจะไม่ได้ดึงดูดความรู้สึกเขาเท่ากับที่ แม็คเอลเฮนนีย์ รู้สึก แต่เขาก็มีเหตุผลในการประทับใจสโมสร เร็กซ์แฮม เช่นเดียวกัน เหตุผลนั้น คือ วิสัยทัศน์อันเปิดกว้างของ ดีน คีตส์ ประธานสโมสรคนเก่า 

นอกจากเป้าหมายการซื้อสโมสรฟุตบอลแล้ว ไรอัน เรย์โนลด์ ยังมีโปรเจ็กต์ที่จะทำสารคดีเกี่ยวกับสโมสรที่เขาเข้าไปเป็นเจ้าของในคอนเซปต์ "จากความผิดหวัง พ่ายแพ้ ในวันวาน สู่อนาคตแห่งความหวัง" ซึ่งโดยปกติแล้วสโมสรต่าง ๆ จะไม่อยากให้นำเสนอภาพลักษณ์แห่งความผิดหวังออกไปสู่ภายนอก แต่ ดีน คีตส์ กลับอยู่ในด้านตรงกันข้าม เขาคิดว่า 156 ปีของประวัติศาสตร์สโมสรมีคุณค่า ไม่ว่าจะมองจากแง่มุมไหนก็ตาม

"ผมคิดว่าการสร้างสารคดีจะเป็นการนำเสนอชื่อของ เร็กซ์แฮม ไปทั่วโลก นอกจากนั้นหากสารคดีที่ทำ 8 ตอนได้ฉายใน Netflix ก็จะมีรายได้เข้าสโมสรในอีกทางหนึ่งด้วย"

"ผมจึงคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างยิ่ง" เรย์โนลด์ กล่าวกับ GQ


Photo : www.sportspromedia.com

 

เรื่องความจริงจังและวิสัยทัศน์ในการเข้าซื้อสโมสร เร็กซ์แฮม ของคู่หูฮอลลีวูด มีอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยยืนยันในเรื่องนี้ เขาคือ สเปนเซอร์ แฮร์ริส หัวหอกแห่ง Inner Circle Sports LLC ผู้เป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยทำให้ความฝันกหลายเป็นความจริง

"พวกเขาทำการศึกษามากมายหลายด้าน ร็อบ และ เรย์โนลด์ ไล่ดูฟุตเทจต่าง ๆ เกี่ยวกับสโมสร ย้อนไปไกลถึงขบวนพาเหรดในปี 1978 ที่สโมสรเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ พวกเขามีศักยภาพที่จะซื้อสโมสรในระดับสูงกว่านี้ แต่สุดท้าย เร็กซ์แฮม คือคำตอบที่ใช่ที่สุด"

"บางคนคิดว่าพวกเขาจะเข้ามาซื้อสโมสรเพื่อหวังผลประโยชน์จากการทำสารคดี แต่ในความเป็นจริง การทำสารคดีคือเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะทำให้สโมสรเล็ก ๆ ก้าวสู่ระดับโลก นี่คือสโมสรเก่าแก่อันดับสามของโลก มีเรื่องราวมากมายรอให้ได้รับการถ่ายทอดออกไป"

เมื่อกำหนดเป้าหมายได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเข้าซื้อ !

ดาราระดับโลกสู่สโมสรระดับท้องถิ่น

เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลทั่วโลก ในปี 2020 เร็กซ์แฮม กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจากวิกฤติ COVID-19 ดังนั้นโอกาสในการที่ผู้ลงทุนจะเข้าไปซื้อสโมสร โอบอุ้มให้พ้นวิกฤตินี้ไปได้จึงค่อนข้างเปิดกว้าง เพียงแต่ว่านับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา เจ้าของสโมสรฟุตบอลตัวจริงคือเหล่าแฟนบอล ที่รวมตัวกันซื้อหุ้น และถือครองสิทธิ์ 100% ภายใต้ชื่อ Wrexham Supporters Trust (WST)


Photo :  Wrexham AFC

WST มีสมาชิกประมาณ 2,000 คน และการที่สโมสรจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างจำเป็นต้องผ่านมติที่ประชุมแห่งนี้ โดยสมาชิกจะต้องลงคะแนนเสียงโหวตเกินกว่าครึ่งหนึ่ง แน่นอนว่าเรื่องที่ เรย์โนลด์ กับ แม็คเอลเฮนนีย์ จะเข้ามาซื้อสโมสรก็เช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ สเปนเซอร์ แฮร์ริส ผู้เป็นคนกลางของดีลนี้จึงเสนอตัวว่าในตอนแรกเขาจะเป็นคนติดต่อทาง เร็กซ์แฮม เอง โดยจะปิดชื่อของนักลงทุนไว้เป็นความลับ เนื่องจากหากข่าวที่ว่าซูเปอร์สตาร์ระดับฮอลลีวูดจะเข้าซื้อสโมสรระดับท้องถิ่นหลุดออกไป เรย์โนลด์ กับ แม็คเอลเฮนนีย์ อาจเป็นเหยื่อให้สื่อปั้นประเด็นมาโจมตี ลดเครดิตของพวกเขา และจะทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นได้ยากกว่าเดิม

แฮร์ริส แจ้ง WST ไปเพียงว่ามีนักลงทุนต้องการจะเข้ามาซื้อสโมสร โดยพวกเขาต้องการจะถือสิทธิ์ขาดทั้งหมด 100% และนักลงทุนคนนี้มาจากฮอลลีวูด เมื่อทาง WST ทราบเรื่อง พวกเขาก็ต้องมีการลงมติกันว่าจะยินยอมพูดคุยกับนักลงทุนรายนี้หรือไม่

"ในช่วงแรกของการพูดคุย เราได้รับการติดต่อมาว่ามีคนต้องการซื้อสโมสร พวกเขาคือคนจากฮอลลีวูดที่มีโปร์ไฟล์สูงมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ แฮร์ริส ขอให้พวกเรามั่นใจว่าพวกเขามีศักยภาพและความมุ่งมั่นที่จะนำพาสโมสรไปข้างหน้าจริง ๆ" คีตส์ เผย 

ผลปรากฎว่า WST มีมติด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้นกว่า 95% ว่าจะยินยอมพูดคุยกับนักลงทุนรายนี้ ด้วยเหตุนี้ในเดือนกันยายน WST จึงได้รู้ว่านักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อสโมสรคือ ไรอัล เรย์โนลด์ และ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ พร้อม ๆ กับข่าวที่เริ่มโด่งดังไปทั่วโลก

ภารกิจต่อไปของทั้งคู่คือการเข้าร่วมประชุมผ่านทางวิดิโอคอนเฟอเรนซ์กับทางบอร์ด WST เพื่อโน้มน้าวใจ รวมถึงแสดงความจริงใจ วิสัยทัศน์ ให้ WST เชื่ออย่างหมดสิ้นข้อสงสัยว่าพวกเขามีศักยภาพที่จะเข้ามากอบกู้สโมสรแห่งนี้จริง ๆ 


Photo : www.insider.com

"เร็กซ์แฮม คือสโมสรเก่าแก่อันดับสามของโลก และผมมองไม่เห็นเหตุผลเลยสักข้อว่าทำไมจะทำให้สโมสรแห่งนี้ก้าวสู่ระดับโลกไม่ได้"

"ผมต้องการให้ เร็กซ์แฮม กลายเป็นสโมสรฟุตบอลระดับโลก"

"ผมสัญญาว่าในฤดูกาลแรกจะเริ่มต้นด้วยการลงทุน 2 ล้านปอนด์เพื่อพัฒนาด้านต่าง ๆ" เรย์โนลด์ กล่าวกับที่ประชุม นอกจากนั้นเขายังโพสต์เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับสโมสรลงในโซเชี่ยลมีเดียส่วนตัวหลายครั้ง เป็นการแสดงออกถึงความตั้งใจจริงในภารกิจครั้งนี้

"เป้าหมายของเราคือนำพาให้สโมสรเติบโตขึ้นอย่างเป็นระบบ มีแฟนบอลเข้าชมเกมในสนามมากขึ้น ปรับปรุงสนามให้ดีขึ้นเข้าร่วม สร้างการมีส่วนร่วมในวงกว้างกับชุมชน" แม็คเอลเฮนนีย์ กล่าวเสริม

"พวกเราเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา เขาคือซูเปอร์สตาร์ แต่เขามีความอ่อนน้อมถ่อมตน กับพวกเราอย่างมาก" 

"นักลงทุนจะกล่าวถึงเทพนิยายของพวกเขาอย่างไรก็ได้ แต่ ไรอัน กับ ร็อบ มีแผนการที่ชัดเจน พวกเขาทำให้เราเชื่อได้จริง ๆ พวกเขาพร้อมสำหรับความท้าทายที่รออยู่" หนึ่งในสมาชิกบอร์ด WST แสดงความเห็นต่อว่าที่เจ้าของสโมสรรายใหม่

หลังจากได้ร่วมพูดคุย กลายเป็นว่าคู่หูฮอลลีวูดสามารถซื้อใจสมาชิก WST ได้ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะผลการลงคะแนนเสียงรอบที่ 2 มีผู้ลงคะแนนยินยอมให้ขายสโมสรกว่า 98.6% ดังนั้น ไรอัน เรย์โนลด์ และ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ จึงกลายเป็นเจ้าของร่วมคนใหม่ของสโมสร เร็กซ์แฮม โดยสมบูรณ์ โดยไม่มีการเปิดเผยจำนวนเงินออกมาว่ามูลค่าของดีลนี้อยู่ที่เท่าไร


Photo : www.sportbible.com

"มันเป็นวันสุดพิเศษ เราสองคนจะจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ เร็กซ์แฮม" แม็คเอลเฮนนีย์ กล่าวหลังการซื้อขายเสร็จสิ้น

ส่วน ไรอัน เรย์โนลด์ ก็แสดงความยินดีด้วยอารมณ์ขันตามแบบฉบับของเขา โดยเขาได้เข้าไปตอบข้อความหนึ่งใน Twitter ของเด็กสาวชาวเมืองเร็กซ์แฮมรายหนึ่งชื่อว่า แชนนอน 

"ฉันเบื่อกับการเรียนศิลปะมาก ไม่รู้ว่ามันจะดีขนาดไหนถ้ามี ไรอัน เรย์โนลด์ มาเป็นนายแบบให้วาดรูป" เธอโพสต์ข้อความนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2012

"ใช่ เธอไม่มีวันรู้หรอก"

"ผมรอมา 8 ปีเพื่อจะตอบกลับข้อความนี้" คำตอบจาก ไรอัน เรย์โนลด์

ก้าวสู่อนาคต

การที่ ไรอัน เรย์โนลด์ และ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของ เร็กซ์แฮม สร้างความยินดีแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรแห่งนี้ทุกฝ่าย แม้กระทั่งชาวเมืองเร็กซ์แฮมที่ไม่ได้เป็นแฟนบอลเองก็ยังอดรู้สึกดีใจไม่ได้ เพราะพวกเขาเชื่อว่าการที่ซูเปอร์สตาร์ระดับฮอลลีวูดมามีบทบาทในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ น่าจะสร้างความก้าวหน้าให้กับเมืองได้มากกว่าแค่เรื่องฟุตบอลแน่นอน 


Photo : Wrexham AFC

"นี่คือโอกาสอันยิ่งใหญ่ของสโมสร พวกเขาจะขับเคลื่อนสโมสรแห่งนี้ไปข้างหน้า มันน่าตื่นเต้นมาก ๆ" ฌอน เพียร์สัน กัปตันทีม เร็กซ์แฮม กล่าว

"งบประมาณ 2 ล้านปอนด์ที่พวกเขาจะเริ่มลงทุนจะนำพาให้เราเลื่อนชั้นได้ไม่ยาก ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แฟนบอลทุกคนคาดหวัง" แบร์รี่ ฮอร์น อดีตกองกลางของทีมให้ความเห็น

"พวกเขาลงคำมั่นสัญญาว่าจะไม่เปลี่ยนชื่อสโมสรและชื่อสนาม"

"สิ่งที่เกิดขึ้นมันยอดเยี่ยมมาก ๆ ราวกับความฝัน ผมและแฟนบอลคนอื่น ๆ แทบจะอดลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ผมคิดว่าพวกเขาจะเข้ามาเป็นฮีโร่ของเมืองแห่งนี้ได้" ร็อบ คลาร์ก แฟนบอลเดนตายของสโมสร เร็กซ์แฮม กล่าวด้วยความปลื้มปิติ

หลังจากที่กลายเป็นเจ้าของสโมสรไปไม่นาน ไรอัน เรย์โนลด์ และ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ ก็แสดงความกระตือรือร้นออกมาทันทีด้วยการประกาศพันธกิจ 4 ประการที่พวกเขาจะทำ

1. ปกป้องมรดกของ เร็กซ์แฮม และ เรซคอร์ส กราวด์ สนามเหย้าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจมากว่า 156 ปี

2. เสริมสร้างคุณค่าประเพณีให้กับชุมชน ถักทอเรื่องฟุตบอลและผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

3. ใช้ทรัพยากรของเราเพื่อขยายสโมสรให้เติบโตก้าวหน้า แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ทำลายอัตลักษณ์ของสโมสร

4. ตอบแทนความเชื่อมั่นและศรัทธาของแฟนบอลทุกคนด้วยการ ชนะ ชนะ ชนะ และที่สำคัญคือต้องชนะ เชสเตอร์ (สโมสรคู่ปรับตลอดกาลของ เร็กซ์แฮม) ให้จงได้ในทุกนัด


Photo : Wrob McElhenney @RMcElhenney

ถึงแม้ในตอนนี้จะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ทุกอย่างยังคงเป็นเพียงภาพฝัน แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่สวยงาม ทำให้น่าจับตามองจริงๆ ว่า ไรอัน เรย์โนลด์ และ ร็อบ แม็คเอลเฮนนีย์ จะนำพาสโมสรเล็ก ๆ แห่งนี้ไปได้ไกลแค่ไหน ... เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้

"ผมจะเข้าไปอยู่ในสนามให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่ได้ต้องการให้สโมสร เร็กซ์แฮม มาเป็นของผม แต่ผมจะเป็นส่วนหนึ่งของสโมสร" เรย์โนลด์ กล่าวทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook