รวมพลังกีฬาไทยเข้มแข็ง!

รวมพลังกีฬาไทยเข้มแข็ง!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
''ศศิธารา''การันตีไปโลดแน่

วาง 3 หลักเกณฑ์ แบ่งกลุ่มสมาคมกีฬา เพื่อขอรับการสนับสนุนจากโครงการรัฐวิสาหกิจรวมพลังกีฬาไทยเข้มแข็งพร้อมนัดทุกฝ่ายหารือ 16 ก.ย.นี้ ก่อนสรุปข้อมูลชงให้กรณ์+ชุมพลได้ชี้ขาดปลัดฯศศิธาราการันตี โปรเจคท์ยักษ์ครอบคลุมถึงคนพิการและต้องแล้วเสร็จภายในปีนี้ ชี้การเมือง ล่ม ไม่ส่งผลกระทบเพราะทีมงานที่รับผิดชอบไม่มีตำแหน่งทางการเมือง มั่นใจ ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องสนับสนุน

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาและกำหนดหลักเกณฑ์การให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและเอกชน ตาม โครงการรัฐวิสาหกิจรวมพลังกีฬาไทยเข้มแข็ง (1 รัฐวิสาหกิจ 1 สมาคมกีฬา) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่กระทรวงการคลัง เมื่อ 8 ก.ย. โดยภายหลังการประชุม ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้สรุปกรอบการพิจารณาเพื่อแบ่งกลุ่มชนิดกีฬาที่จะขอรับการสนับสนุนจากโครงการฯ ที่มีวงงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยวางหลักเกณฑ์การพิจารณาไว้ 3 มิติ คือ 1.ผลงานจากอดีต, ปัจจุบันและแผนงานในอนาคตของสมาคมกีฬา, 2.ความนิยมของประชาชนต่อกีฬานั้น ๆ และ 3.สมาคมกีฬานั้น ๆ เคยได้รับการสนับสนุนจากรัฐวิสาหกิจใดบ้าง และในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จะเชิญผู้แทนจาก 62 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และผู้เกี่ยวข้องกับโครงการฯ มาร่วมหารือถึงรายละเอียดร่วมกันว่าจะแบ่งกลุ่มกีฬาที่ได้รับการสนับสนุนเป็นกี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มจะได้รับการสนับสนุนอย่างไร ก่อนเสนอให้ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้พิจารณาอย่างเร่งด่วนและจะให้แผนดังกล่าวเสร็จทันใช้ภายในปี 2552 นี้

สำหรับรัฐวิสาหกิจที่ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬา จะได้รับการลดหย่อนภาษี 1.5 เปอร์เซ็นต์ ย้อนหลังในปี 2552 ส่วนในปี 2553 จะหารือกับกรมสรรพากร เพื่อพิจารณาให้ลดหย่อนภาษี เพิ่มเป็น 1.75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการที่ต้องเร่งให้แผนดำเนินเสร็จสิ้นในปีนี้ก็เพราะว่าภาคเอกชนที่สนับสนุนสมาคมกีฬา จะได้ลดหย่อนภาษีย้อนหลังในปีนี้ด้วย ซึ่งนอกจากกีฬาเพื่อความเป็นเลิศแล้ว โครงการนี้ยังสนับสนุนครอบคลุมไปถึงกีฬาคนพิการด้วย ส่วนการพิจารณาหลักเกณฑ์การสนับสนุนนั้น เบื้องต้นอาจจะแยกเป็นตามความพิการของนักกีฬาและตามชนิดกีฬาที่มีความหวังในมหกรรมต่างๆ ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าโครงการนี้จะดำเนินการได้เร็วที่สุดในปลายเดือน ต.ค.นี้ ขอยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะไม่มีผลให้โครงการล้มเพราะผู้รับผิดชอบส่วนใหญ่ไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองและรัฐบาลทุกรัฐบาลจะให้การสนับสนุนโครงการนี้แน่นอน

นางดนุชา ยินดีพิธ รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า ส่วนรัฐวิสาหกิจ ที่เข้ามาสนับสนุนโครงการฯ จะได้รับข้อยกเว้นบางส่วนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและเงินโบนัสของพนักงาน โดยรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัท จำกัด จะสามารถนำงบประมาณที่ช่วยสมาคมกีฬาไปรวมกับรายได้ เพื่อพิจารณาผลประกอบการของรายได้ ขณะที่รัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้อยู่ในรูปบริษัทและไม่ต้องเสียภาษี สามารถนำงบที่สนับสนุนสมาคมกีฬาไปรวมกับกำไรของปีนั้น ๆ เพื่อคำนวณโบนัสให้พนักงานได้ ซึ่งจะไม่ทำให้โบนัสของพนักงานลดลงแน่นอน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook