''กนกพันธุ์''วางแผนลุย4ปีผู้บริหารเซ็นสัญญายาว

''กนกพันธุ์''วางแผนลุย4ปีผู้บริหารเซ็นสัญญายาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บิ๊กหนุ่มนายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท.ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการประกาศยุทธศาสตร์ และลงนามการให้การรับรองการปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ การกีฬาแห่งประเทศไทย (2553-2557) เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่อาคารที่พักนักกีฬา 30 เตียง ภายใน กกท. หัวหมาก โดย นายกนกพันธุ์ ได้ลงนามให้การรับรองการปฏิบัติงานกับ นายแพทย์ จตุรพร ณ นคร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา, รองไก่ นายเฉลิมชัย บุญรักษ์ รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายบริหาร และ นายพีระ ฟองดาวิรัตน์ รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ก่อนที่ รองผู้ว่าการ กกท.ทั้ง 4 คน จะลงนามคำรับรองการทำงานกับ ผอ.ฝ่าย 11 คน ให้ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานไปสู่ 3 ปัจจัยหลัก คือ พัฒนากีฬาเป็นเลิศ, พัฒนากีฬาอาชีพ และ การให้บริการด้านกีฬา ภายในระยะเวลา 1 ปีต่อจากนี้ให้ประสบความสำเร็จ

นายกนกพันธุ์ กล่าวว่า การลงนามคำรับรองการทำงานครั้งนี้ ถือว่า กกท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแรกที่ได้จัดทำ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรได้ตระหนักถึงหน้าที่อันแท้จริง และทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรได้กำหนดไว้ ในระยะเวลา 4 ปี คือ 1. ประเทศไทยประสบความสำเร็จและโดดเด่นทางการกีฬา เพื่อความเป็นเลิศระดับเอเชีย (เจ้าเหียญทองกีฬาซีเกมส์ ในกีฬาที่เป็นสากล, ได้อันดับ 1-4 ของกีฬาเอเชี่ยน เกมส์, ติดอยู่ใน 5 อันดับแรกของชาติในเอเชียที่เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิก), 2.ประ เทศไทยประสบความสำเร็จในการพัฒนากีฬาอาชีพให้เป็นกิจกรรมที่สร้างความสุขแก่สังคมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนการพัฒนาประเทศ, 3. กกท.บริการ ทางการกีฬาได้อย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถรองรับความต้องการทางการกีฬา ของประเทศ

สำหรับการลงนามคำรับรองการทำงานครั้งนี้ บิ๊กหนุ่ม ยังเชื่อว่า จะทำให้ผู้บริหารและพนักงานร่วมกันบริหารเงินที่ได้รับจากรัฐบาลประมาณปีละ 2,500,000,000 บาท ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และหากมองภาพรวมในระยะเวลา 4 ปี หากมีงบประมาณ 10,000,000,000 บาท การมีแผนงานและการลงนามร่วมมือกันทำงานอย่างชัดเจน จะทำให้แผนงานต่าง ๆ ทำได้สำเร็จตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้และเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด

วันเดียวกันที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์ นายกนกพันธุ์ ได้ร่วมลงนามบันทึกช่วยจำ (MOU) กับ 12 สมาคมกีฬา (แบดมินตัน, โบว์ลิ่ง, ฟุตบอล, กอล์ฟ, สนุกเกอร์, เทนนิส, ตะกร้อ, วอลเลย์บอล, เทเบิลเทนนิส, กีฬาแข่งรถยนต์, แข่งรถจักรยาน ยนต์ และมวยไทยอาชีพ) เพื่อกำหนดให้ แต่ละสมาคมทำการบริหารและจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ที่ได้วางเอาไว้ในระยะเวลา 5 ปี คือ 1.กีฬากอล์ฟ จะต้องพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางของทวีปเอเชีย มีนักกอล์ฟติดอันดับ 1-50 ไม่น้อยกว่า 4 คน, 2. ตะกร้อ ผลักดันให้เป็นกีฬายอดนิยม, 3. ฟุตบอล พัฒนาการจัดฟุตบอล อาชีพให้เป็นสากลได้มาตรฐาน, 4. มวย พัฒนาสู่ความเป็นเลิศและอาชีพ, 5. วอลเลย์บอล พัฒนาให้เป็นกีฬายอดนิยม และบริการจัดการแบบสากล

6.สนุกเกอร์ พัฒนาให้เป็นกีฬายอดนิยม, 7. เทนนิส พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของทวีปเอเชีย สร้างนักกีฬาไปสู่อาชีพ, 8. เทเบิลเทนนิส สร้างให้เป็นกีฬายอดนิยม ยึดเป็นอาชีพได้อย่างยั่งยืน, 9. กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์อาชีพ พัฒนาและเสริมสร้างกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ให้มีมาตรฐานและเป็นกีฬาอาชีพที่ยั่งยืน, 10. กีฬาแข่งรถยนต์อาชีพ ขับเคลื่อนให้เป็นกีฬาอาชีพ และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาแข่งรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, 11. แบดมิน ตัน สร้างให้เป็นกีฬาอาชีพและประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก, 12. โบว์ลิ่ง พัฒนาให้เป็นกีฬาอาชีพและประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook