เควิน มิรัลลาส : เหมือนเป็น "แพะ" รับบาป

เควิน มิรัลลาส : เหมือนเป็น "แพะ" รับบาป

เควิน มิรัลลาส :  เหมือนเป็น "แพะ" รับบาป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผมว่า ประเด็น เควิน มิรัลลาส พลาดจุดโทษในแมตช์ “มันเดย์ไนท์” ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน – เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ยังอาจไม่น่าสนใจเท่ากับคำถามว่า เจ้าตัว “เจ็บจริง” หรือเปล่า!?

จน โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ต้องเปลี่ยนตัวออกในครึ่งเวลาหลัง!!!

ครับ ใครที่ชมเกมนัดนี้ หรือติดตามข่าวน่าจะทราบดีว่า ดาวเตะเบลเยียม สร้างวีรกรรมในช่วงท้ายครึ่งแรกที่ไปแย่ง เลห์ตัน เบนส์ ซัดจุดโทษหลัง โจลีออน เลสคอตต์ กองหลังทีมเยือนทำแฮนด์บอลในเขตโทษ

“เฮ้ย...อะไรฟะ?” หรือ “เฮ้ย...มัน (มิรัลลาส) ทำอะไรวะเนี่ย?” น่าจะเป็นคำถาม และอุทานจากแฟนบอลผู้พบเห็นในนาทีที่ 44 จากกูดิสัน ปาร์ค

เลห์ตัน เบนส์ จอมสังหารจุดโทษอันดับ 1 ของทีม และมีสถิติสวยหรู ยิง 16 เข้า 15 ประตูต้องยอมหลีกทางให้แบบช่วยไม่ได้

หาไม่แล้ว คงต้องเกิดภาพไม่น่าดู นักเตะอาจปะทะคารม หรือถึงขั้นลงไม้ลงมือย่อมๆ ทะเลาะกันเอง

เหตุการณ์ดังกล่าว คงไม่มีใครพูดถึงมากนักหาก: 1.มิรัลลาส สังหารจุดโทษได้สำเร็จ หรือ 2.เอฟเวอร์ตัน ชนะในเกมนี้ หรือ 3.เอฟเวอร์ตัน ไม่ชนะ แต่ปีกจอมพลิ้วเบลเยียม ทำประตูแก้หน้าได้

ผลปรากฏว่า 3 สถานการณ์ข้างต้นไม่เกิดขึ้นแม้แต่ข้อเดียว และมิรัลลาส “ยิงพลาด”

มากกว่านั้นก็คือ ครึ่งเวลาหลัง ดาวเตะวัย 27 ปี ถูกเปลี่ยนตัวออกทันทีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สร้างความฉงนสนเท่ห์ และยิ่งเพิ่มคำถามเข้ามาที่ตัวนักเตะ, มาร์ติเนซ และเอฟเวอร์ตัน มากขึ้น

“เจ็บกล้ามเนื้อโคนขา และต้องการจะเซฟตัวนักเตะเอาไว้” กุนซือสเปน กล่าวเช่นนั้น

นอกจากนี้ มาร์ติเนซ ยังพูดแบบเป็นกลางว่า นักเตะมีความมั่นใจในจังหวะดังกล่าว และเลห์ตัน ก็ยินดีจะปล่อยให้มิรัลลาส เป็นผู้ทำหน้าที่สังหารจุดโทษนั้น

อีกประเด็น คือ วินาทีนั้น สกอร์ยัง 0-0 แถมยังเป็นช่วงใกล้หมดเวลาครึ่งแรก

เหตุการณ์แบบนี้ ว่ากันตามตรง มิรัลลาส ไม่น่าจะมีเหตุ “จูงใจ” ให้เค้าต้องแย่งซีนเพื่อนร่วมทีมในเวลาที่ตัวเค้าไม่เคยสังหารจุดโทษในพรีเมียร์ลีกให้เอฟเวอร์ตันมาก่อน

หาก เอฟเวอร์ตันนำอยู่ หรือนำขาดด้วยช่องว่าง 2 เม็ดขึ้นไป หรือมิรัลลาส กำลังล่า “แฮตทริก” หลังยิงได้แล้ว 2 ประตู ก็ว่าไปอย่าง

สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเอามากๆ แบบนั้น “ฟีดแบ็ก” จึงบูมเมอแรงกลับมาหนักหน่วงเป็น “ควันหลง” เกมนัดนี้ที่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องอื่นๆ เลย

เช่น เอฟเวอร์ตัน ไม่ชนะมาแล้วถึง 5 นัด ในลีกที่เก็บได้เพียง 1 จาก 15 คะแนนเต็ม

การเจอทีมหนีตายอย่าง เวสต์บรอม จึงจำเป็นมากๆ สำหรับเป็นน้ำหล่อเลี้ยงให้แฟนๆ หลังแมตช์ก่อนเพิ่งจะยันเสมอแมนฯซิตี้มาได้ 1-1 และเพิ่งแพ้ดวลโทษเวสต์แฮม ตกรอบเอฟเอ คัพ จากจุดโทษที่ มิรัลลาส ยิงเข้า 1 ลูก

อันดับ 12 โดยมี 23 คะแนน จาก 22 นัด ไม่ได้ช่วยอะไรกับทีมที่จบอันดับ 5 ฤดูกาล ที่ผ่านมา และผมเองเคยเขียนหลายครั้งแล้วเหมือนกันถึงเอฟเวอร์ตัน และปัญหาเกมรับที่แก้ไม่ตก

ไม่นับรวม “ปรัชญา” เน้นบุก ครองบอลมาก เช่น 67% ในเกมนี้กับ “เดอะ แบ็กกี้ส์” แต่กลับไม่สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้

วันก่อนเช่นกันครับที่บอกว่า อาร์แซน เวนเกอร์ มี “แพลน B” แล้วในทุกวันนี้หลังล่าสุดยอมกัดลิ้นตัวเอง ครองบอลน้อยเพียง 30% นิดๆ แต่กลับบุกชนะแมนฯซิตี้ได้ถึงถิ่น 2-0

อาร์เซนอล ต้อง “เรียนรู้” และกำลังซาบซึ้งที่จะให้ความสำคัญกับ “เกมรับ” มากขึ้น หรือไม่น้อยกว่าเกมรุก

ต่างจากแต่ก่อนที่ปล่อยปละละเลย และไม่คิดจะมี “แผนสำรอง” ตอนบุกไม่ได้ เจาะไม่เข้า หรือที่แผนที่ต่างในยามเล่นกับทีมที่ “แตกต่าง” กัน

เหนือสิ่งอื่นใด คือคำว่า “ทีมสปิริต” เพราะฟุตบอลต้องเล่นเป็นทีม...ทั้งรุก และรับ และทีมปืนใหญ่ทำได้ดีมากๆ

ขณะที่ไม่มีใครทราบว่า การพลาดของมิรัลลาส มี “มูลค่า” เพียงใด และทำลายทีมสปิริตมาก/น้อยแค่ไหน!?

เขียนถึงตรงนี้ ผมไม่ได้จะหา “แพะ” ให้เป็น เควิน มิรัลลาส “รับบาป” จากการได้แค่ 1 แต้ม หรือทำ 2 คะแนน หล่นในบ้านของเอฟเวอร์ตัน

แต่เพียงจะบอกเป็น “แนวทาง” ให้นักบอล หรือน้องๆ หรือผู้ที่สนใจกีฬาชนิดนี้ได้คิด และ “วิเคราะห์สถานการณ์” ให้ถูกต้องว่า:

ระเบียบวินัย ทีมสปิริต กฎระเบียบ และข้อตกลงของทีมนั้นมีความสำคัญ

การจะ “ปรับเปลี่ยน” กะทันหันต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ วิเคราะห์สถานการณ์การแข่งขันให้ดี เพราะผลลัพธ์ที่ตามมานั้นมีแต่ “เจ๊ากับเจ๊ง” ทั้งกับตัวเอง และทีม

งานนี้จึงไม่มีใครทราบแน่ชัดนอกจาก มาร์ติเนซ และมิรัลลาส ว่า การถูกเปลี่ยนตัวออกทันทีนั้นเป็นเพราะ “เจ็บจริง” หรือโดน “ลงโทษ” กันแน่ครับ



เรื่องโดย : ไข่มุกดำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook