ไขข้อข้องใจ : ยกน้ำหนักไทยโดนแบน 3 ปี แต่ทำไมกลับมากวาด 6 เหรียญทองชิงแชมป์โลกได้ทันที

ไขข้อข้องใจ : ยกน้ำหนักไทยโดนแบน 3 ปี แต่ทำไมกลับมากวาด 6 เหรียญทองชิงแชมป์โลกได้ทันที

ไขข้อข้องใจ : ยกน้ำหนักไทยโดนแบน 3 ปี แต่ทำไมกลับมากวาด 6 เหรียญทองชิงแชมป์โลกได้ทันที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทัพนักกีฬายกน้ำหนักไทยสามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการคว้าถึง 6 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ในศึกชิงแชมป์โลกครั้งล่าสุด ที่ประเทศอุซเบกิสถาน 

ที่ผ่านมาอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะทัพยกเหล็กไทยสามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความเก่งกาจมาแล้วอย่างมากมายบนเวทีระดับโลก 

ทว่าความสำเร็จในครั้งนี้ นับเป็นผลงานแรกที่เกิดขึ้นหลังจากโดนแบนห้ามแข่งขันไปนานถึง 3 ปี

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ไม่มีทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติให้ชิงชัยเลยพวกเขาทำอะไรอยู่ แล้วทำไมถึงยังคงสามารถรักษามาตรฐานไว้ได้ดังเดิม หาคำตอบกันได้ที่ Main Stand

3 ปีแห่งความว่างเปล่า

ยกน้ำหนักถือเป็นกีฬาความหวังอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยในมหกรรมระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในศึกโอลิมปิก เกมส์ ที่สามารถคว้าไปแล้วรวมทั้งสิ้น 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญทองแดง ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดเหนือกีฬาประเภทอื่น ๆ 

อย่างไรก็ตาม ปลายปี 2018 ผลงานที่กำลังดีอย่างต่อเนื่องต้องหยุดชะงักลง เมื่อสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ หรือ IWF ได้ตรวจพบว่านักกีฬาไทยที่ลงแข่งขันในรายการชิงแชมป์โลก ที่กรุงอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน จำนวน 9 ราย มีสารต้องห้ามภายในร่างกาย จนทำให้โดนลงดาบห้ามส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทุกรายการเป็นเวลา 3 ปี พร้อมปรับเงินอีก 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.6 ล้านบาท ทำให้พลาดการลงชิงชัยในศึกโอลิมปิก เกมส์ "โตเกียว 2020" ที่ผ่านมา

สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนข้อห้ามแต่อย่างใด

 

"นักกีฬาได้รับการอบรมว่า การใช้สารต้องห้ามมาจากการกิน การดื่ม หรือการใช้ยาฉีดเท่านั้น ไม่เคยทราบมาก่อนว่ายาทา หรือยานวดจะเป็นการซึมเข้าไปแล้วทำให้เกิดการออกฤทธิ์ของสารต้องห้ามด้วย ดังนั้นทุกคนที่ใช้เจลรักษาอาการบาดเจ็บจึงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้จงใจหรือตั้งใจกระทำ" 

ขณะเดียวกันทางสมาคมยังได้พยายามต่อสู้พร้อมยื่นอุทธรณ์โทษต่อศาลกีฬาโลกอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ในเดือนเมษายน 2021 ศาลกีฬาโลกจะพิจารณาคืนสิทธิ์ให้กับทัพยกเหล็กไทยสามารถส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติได้อีกครั้ง โดยมีคิวประเดิมแข่งขันในรายการใหญ่ครั้งแรกคือ ศึกชิงแชมป์โลก 2021 ณ กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 7-17 ธันวาคม 


Photo : facebook.com/OfficialThailandTAWA

ทว่าในช่วง 3 ปีแห่งความว่างเปล่าที่ผ่านมา ทัพนักยกน้ำหนักไทยไม่ได้ลงแข่งขันในรายการใดเลย แถมข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ก็แทบจะจางหายไปจากหน้าสื่อจนหมดสิ้น จึงเป็นที่น่าจับตาว่าการคัมแบ็กครั้งนี้จะเป็นอย่างไร...

คัมแบ็กสวยหรู

หลังจากที่ได้สิทธิ์ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในเวทีโลกอีกครั้ง ทัพยกเหล็กไทยจัดเต็มด้วยการส่งนักกีฬาเข้าชิงชัยในศึกชิงแชมป์โลก 2021 ถึง 14 คน แบ่งเป็น ชาย 9 คน และหญิง 5 คน จากนักกีฬาทั้งหมด 74 ชาติ จำนวน 432 คน

และเพียงทัวร์นาเมนต์แรกทัพไทยก็ไม่ทำให้แฟนกีฬาผิดหวัง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าไปทั้งสิ้น 6 เหรียญทอง, 4 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 3 บนตารางคะแนนเหรียญ เป็นรองเพียง อันดับ 1 เกาหลีใต้ (9 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 7 เหรียญทองแดง) และอันดับ 2 อุซเบกิสถาน (6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง) 


Photo : facebook.com/OfficialThailandTAWA

ซึ่งหากนับเฉพาะทีมหญิง ไทยถือเป็นอันดับ 1 ด้วยผลงาน 6 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง โดยนักกีฬาที่ได้เหรียญทั้งหมดประกอบไปด้วย

ธรรญธร สุขเจริญ (รุ่น 45 กิโลกรัมหญิง) 2 เหรียญทอง ท่าสแนตช์-น้ำหนักรวม / เหรียญเงิน ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก

 

สุรจนา คำเบ้า (รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง) 3 เหรียญทอง ท่าสแนตช์-คลีนแอนด์เจิร์ก-น้ำหนักรวม 

ดวงอักษร ใจดี (รุ่นน้ำหนักตัวมากกว่า 87 กิโลกรัมหญิง) เหรียญทอง ท่าสแนตช์ / เหรียญเงิน น้ำหนักรวม / เหรียญทองแดง ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก

ธาดา สมบุญอ้วน (รุ่น 55 กิโลกรัมชาย) เหรียญเงิน น้ำหนักรวม

สุทธิพงษ์ จีรัมย์ (รุ่น 73 กิโลกรัมชาย) เหรียญเงิน ท่าสแนตช์ / เหรียญทองแดง น้ำหนักรวม


Photo : facebook.com/OfficialThailandTAWA

 

จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า แม้จะโดนแบนไปถึง 3 ปี แต่ทำไมทัพยกเหล็กไทยยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมได้ต่อเนื่อง

ซุ่มซ้อม

"เราโดนแบนห้ามแข่ง แต่ไม่ได้โดนห้ามซ้อม" 

คำกล่าวจาก พันโทหญิง ดร.อภิญญา ดัชถุยาวัตร เลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่เปิดเผยกับ Main Stand ได้บ่งบอกถึงข้อสรุปของผลงานของทัพยกเหล็กไทยในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี


Photo : facebook.com/OfficialThailandTAWA

 

แม้จะโดนแบนไม่ได้ร่วมแข่งขันระดับนานาชาติถึง 3 ปี แต่ทัพยกเหล็กไทยไม่ปล่อยให้เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ แต่ยังคงมุ่งมั่นเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องที่แคมป์จังหวัดเชียงใหม่มาโดยตลอด

"ช่วงที่โดนแบนนักกีฬาเกือบทุกคนยังคงเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ในแคมป์ตลอด อย่างออย (สุรจนา คำเบ้า) ที่คว้า 3 เหรียญทองก็กินนอนอยู่ในแคมป์ หรือบางคนก็ใช้เวลาช่วงนี้ไปเรียนต่อบ้างแต่ก็กลับมาซ้อมต่อเนื่องและเก็บตัวจริงจังก่อนแข่ง 3-6 เดือน"

"ขณะที่ทางโค้ชก็ได้ออกแบบโปรแกรมการฝึกอย่างเหมาะสม โดยไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่มีทัวร์นาเมนต์ปกติเท่าไหร่ มีการไล่น้ำหนักเหล็กทุกเดือนว่าใครสามารถยกได้สูงสุดเท่าไหร่ มีการจำลองสถานการณ์แข่งขันจริงบ้างเพื่อไม่ให้เด็กเบื่อ" ดร.อภิญญา เผย


Photo : facebook.com/OfficialThailandTAWA

เลขาธิการสมาคมยกเหล็กไทย ยังให้ความเห็นต่อว่า การที่ไม่ได้ลงแข่งขันมานานทำให้นักกีฬาขาดประสบการณ์ไปบ้าง แต่ก็มีข้อดีคือทำให้นักกีฬามีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์อยู่ตลอด ไม่มีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บหรือการฟื้นตัวหลังจบการแข่งขันเมื่อต้องลงชิงชัยติดต่อกัน

"เหมือนเราซุ่มซ้อมเพื่อรอเวลาที่รายการใหญ่จะกลับมาแข่งอีกครั้ง เด็กทุกคนจึงมีความกระหายอยากจะทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด และเมื่อลงแข่งผลงานที่ออกมาก็ถือว่าเกินเป้า เด็กทุกคนทำได้ดี ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจเพราะเฝ้ารอมานาน" ดร.อภิญญา กล่าว

เตรียมทวงความยิ่งใหญ่

หลังจบทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลก ทัพยกน้ำหนักไทยมีโปรแกรมลงแข่งขันต่อเนื่องทั้งในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2022 ต่อด้วย เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 10-25 กันยายน 2022

ขณะที่ในโอลิมปิก เกมส์ ยังคงมีปัญหาเล็กน้อย โดยทางสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ยืนยันว่าใน "ปารีส 2024" ที่ประเทศฝรั่งเศส จะมีการจัดการแข่งขันแน่นอน แต่ใน "ลอสแอนเจลิส 2028" ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังต้องรอสรุปอีกครั้งว่าจะยังมีการชิงชัยต่อหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมายกน้ำหนักเป็นกีฬาที่มีปัญหาเรื่องการตรวจเจอสารกระตุ้นในนักกีฬาจากหลายประเทศ


Photo : facebook.com/OfficialThailandTAWA

ทางสมาคมยกน้ำหนักไทย ยืนยันว่าหลังจากนี้จะเดินหน้าฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเพื่อเป้าหมายระยะใกล้อย่างซีเกมส์ ที่ครองความยิ่งใหญ่มาโดยตลอด และเอเชียนเกมส์ ที่เคยคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง

"แน่นอนว่าเป้าหมายหลังจากนี้ของเราคือซีเกมส์และเอเชียนเกมส์ ถึงตอนนี้เชื่อว่านักกีฬาทุกคนมีความมุ่งมั่นเพิ่มยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะต้องเตรียมพร้อมทั้งนักกีฬาของเราเอง รวมถึงศึกษาคู่แข่งด้วยเช่นกันว่าเขาไปถึงระดับไหนแล้ว เพราะเราห่างหายจากการแข่งขันระดับนี้มานาน" ดร.อภิญญา ทิ้งท้าย

อนาคตจะเป็นอย่างไรยังไม่รู้ แต่การคัมแบ็กด้วยผลงานที่ดีในครั้งนี้นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะทำให้แฟนกีฬาชาวไทยที่เฝ้ารอจะได้ร่วมลุ้นระทึกและส่งเสียงเชียร์ทัพยกเหล็กไทยอย่างเต็มที่กันอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook