''บิ๊กเติ้ง''เตือนทัพไทยต้องมืออาชีพ

''บิ๊กเติ้ง''เตือนทัพไทยต้องมืออาชีพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนา การกีฬาและนันทนาการ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. โดยมี บิ๊กเติ้ง นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธาน ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ เข้าร่วมประชุมด้วย ที่ห้องประชุมกระทรวงฯ

ที่ประชุมได้มีการรายงานผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เวียงจันทน์เกมส์ ที่ประเทศลาว ซึ่งทัพนักกีฬาของไทย คว้ามาได้ 86 เหรียญทอง, 83 เหรียญ เงิน และ 97 เหรียญทองแดง แม้จะครองเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 11 แต่การเอาชนะเวียดนามไปได้แค่ 3 เหรียญทองเท่านั้น ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทยตั้งเอาไว้ที่ 99-100 เหรียญทอง เรียกว่าน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 14 เหรียญทอง หรือ 14 เปอร์เซ็นต์

ขณะที่ นายบรรหาร กล่าวว่า หากหลายสมาคมกีฬายังบริหารงานแบบไม่เป็นมืออาชีพ ไม่มีความทุ่มเทอย่างจริงจัง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขอทำนายเลยว่า ทัพนักกีฬาของไทยไม่มีทางครองเจ้าเหรียญทองได้แน่ เพราะจะถูกเวียดนาม หรืออินโดนีเซีย แย่งเจ้าเหรียญทองไปครองได้

บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ได้เสนอต่อที่ประชุมให้จัดตั้งคณานประเมินผลงานนักกีฬาแต่ละสมาคมในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 เพื่อสอบถามหาสาเหตุและหาทางแก้ไขปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องที่ 12 สมาคมกีฬา ทำผลงานได้ต่ำกว่าเป้า รวมทั้งต้องสอบถามเรื่องที่มีนักกีฬาหลายคนไม่ได้รับเงินเบี้ยเลี้ยง หรืออาจจะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงไม่ครบตามที่จะต้องได้รับจริง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร

บิ๊กหนุ่ม นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า ผลงานอาจจะดูน่าผิดหวัง เพราะคว้าเหรียญทองไม่ได้ถึง 99-100 เหรียญ และมีกีฬาสำคัญ ๆ หลายรายการที่พลาดไปแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่สมาคมกีฬาประเมิน ผลงานของตัวเองเกินความเป็นจริง แต่สาเหตุ ใหญ่ที่ทำให้ไทยพลาดเหรียญทองนั้น น่า จะมาจาก 1 การบรรจุกีฬาพื้นบ้าน ทำให้ เวียดนาม ได้เปรียบ เนื่องจากมีความสนิทสนมกับลาว เช่น วูซู, ชัตเติลค็อก (กีฬาเตะลูกขนไก่), ฟินสวิมมิ่ง, 2. บางประเทศมีการดึงนักกีฬาต่างชาติ ด้วยการโอนสัญชาติมาลงเล่นให้ เช่น สิงคโปร์, อินโดนีเซีย

อย่างไรก็ตามกีฬาที่เป็นสากล นักกีฬาไทยก็ทำได้ดี เช่น กรีฑา มีการทำลายสถิติ 8 รายการ, ยิงปืน 6 รายการ แต่หลายสมาคมก็แย่ เช่น คาราเต้โด ขณะที่ นายชุมพล กล่าวว่า จะต้องเร่งหาสาเหตุ และหาแนวทาแก้ไขโดยด่วน รวมทั้งหาข้อสรุปมารายงานให้ได้ แต่สิ่งที่เห็นชัดในการแข่งขันครั้งนี้ก็คือ นักกีฬาไทยผลงานย่ำอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนา แต่คู่แข่งชาติอื่น ๆ เริ่มพัฒนาตัวนักกีฬาได้ดีขึ้น

นายกนกพันธุ์ ยังได้สรุปยอดเงินของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จะมอบให้กับนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน เวียงจันทน์เกมส์ เป็นเงินทั้งหมด 93,285,000 บาท แบ่งเป็น นักกีฬา 69,950,000 บาท, ผู้ฝึกสอน 18,885,000 บาท และสมาคมกีฬา 11,450,000 บาท โดยในรอบปีที่ผ่านมา กองทุนฯ ได้มอบเงินรางวัลให้กับนักกีฬา 5 รายการ รวมเป็นเงิน 154,224,250 บาท คือ กีฬาเอเชี่ยนมาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 1 เป็นเงิน 10,500,000 บาท, กีฬาเอเชี่ยน ยูธเกมส์ ครั้งที่ 1 เป็นเงิน 9,150,000 บาท, กีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 3 เป็นเงิน 22,660,000 บาท และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 เป็นเงิน 18,629,250 บาท.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook