เซอร์ยก เวย์น รูนีย์ ฮีโร่ดับ ฮัลล์ 3-1

เซอร์ยก เวย์น รูนีย์ ฮีโร่ดับ ฮัลล์ 3-1

เซอร์ยก เวย์น รูนีย์ ฮีโร่ดับ ฮัลล์ 3-1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เฟอร์กี้-เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ซูฮกใจ เวย์น รูนีย์ ที่แม้มีส่วนทำให้ ปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด เสียประตู แต่ช่วยให้ยูไนเต็ด ชนะ เสือลาย ฮัลล์ 3-1 โดยมีส่วนกับทั้ง 3 ประตู ขณะที่ เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีม ปืนโต อาร์เซนอล ลงเล่นเพียง 27 นาที แต่ยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะ สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า 3-0

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด "ซูเปอร์ซันเดย์" คืนวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า บุกชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 3-1 ถึงถิ่นคิงสตัน โดย "ปีศาจแดง" ขึ้นนำก่อน 1-0 จาก เวย์น รูนีย์ นาที 45 ทว่าเป็น รูนีย์ ที่ส่งบอลกลับหลังพลาด โดน เคร็ก ฟาแกน ตัดบอลไปได้ก่อนจะโยนข้ามไปให้ โจซี อัลทิดอร์ คู่กองหน้าของตัวเอง ทำให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวายูไนเต็ด ต้องตัดสินใจฟาวล์ ซึ่ง อลัน ไวลีย์ ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะให้จุดโทษ "เสือลาย" พร้อมแจกใบเหลืองให้กับแบ็กขวาวัย 19 ปีผู้นี้ ฮัลล์ จึงตีเสมอเป็น 1-1 จากจุดโทษของ ฟาแกน นาที 59

ทว่า ราฟาเอล กับ รูนีย์ ร่วมกันแก้ตัวสำเร็จ เมื่อ ราฟาเอล แทงบอลต่อให้ "รูน" หลุดเดี่ยวมาจากริมเส้นฝั่งขวา ก่อนปาดบอลเรียดเข้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงเกือบจะถึง ปาร์ค จี ซุง แต่ แอนดี ดอว์สัน แบ็กซ้ายเจ้าถิ่นตัดสินใจพุ่งตัวสไลด์ตัดบอลแต่ตัดไม่ออก บอลปลิ้นเข้าประตูตัวเองช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 นาที 73

หลังจากนั้น ฮัลล์ ดูเหมือนจะล้าและถอดใจกันไปเอง ส่งผลให้ "เรดเดวิล" มาบวกสกอร์เพิ่มได้อีก เมื่อ รูนีย์ ที่คราวนี้ควบบอลมาทางบริเวณด้านซ้าย ดึงจังหวะรอ ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ ที่อยู่อีกฝั่งของกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายให้ "เบิร์บ" ได้แปบอลง่ายๆ เข้าประตูช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 3-1 นาที 82 และชนะไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แข่ง 19 นัด มี 40 แต้ม แม้ยังเป็นรองจ่าฝูงเช่นเดิม แต่ตามหลัง เชลซี เหลือเพียง 2 แต้มเท่านั้น เนื่องจากคืนก่อนหน้านี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เก็บเพิ่มได้แต้มเดียวจากการออกไปเสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 0-0 ที่สนามเซนต์ แอนดรูว์ส

หลังเกม เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด กล่าวยกย่อง รูนีย์ ว่านี่เป็นข้อแตกต่างของนักเตะธรรมดา กับนักเตะระดับโลก เพราะหากเป็นนักเตะธรรมดา "รูน" น่าจะใจเสียหลังจากส่งบอลกลับหลังพลาด และเล่นแบบไม่มีสมาธิไปแล้ว แต่ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ รูนีย์ มีส่วนกับอีก 2 ประตู หลังจากนั้น

"เขาถูกกดดันทั้งเกมทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ ทว่าการรักษาตำแหน่งของเขาโดดเด่นมาก ความผิดพลาดในเกมนี้จึงเป็นแค่ความผิดพลาดหนึ่งจังหวะของเกมเท่านั้น และนั่นทำให้เห็นว่าทำไมเขาถึงไม่ใช่เป็นแค่นักเตะธรรมดา เขามีความมุ่งมั่นเกินกว่าจะแพ้ด้วยความผิดพลาดเช่นนั้น เขาเป็นผู้ชนะโดยธรรมชาติ และเกมนี้พิสูจน์ว่าทัศนคติในการเล่นหรือความมุ่งมั่นกับเกมของเขาดีมาก เพียงใด ผู้เล่นหลายคนเจอเรื่องแบบนี้คงบ้าไปแล้ว"

ส่วนอีกคู่ในคืนเดียวกัน อาร์เซนอล หนึ่งในกลุ่มทีม "บิ๊กโฟร์" สอนเชิง แอสตัน วิลล่า 3-0 ในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของตัวเอง ทั้งที่เกมครึ่งแรก สกอร์ยังเสมอกัน 0-0 และ "สิงห์ผงาด" มีโอกาสยิงนำหลายครั้งแต่ทำไม่ได้ ซึ่งจุดเปลี่ยนเกมอยู่ที่การตัดสินใจเปลี่ยนตัว เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีม ซึ่งยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ลงมาคุมเกมแดนกลางแทนที่ เดนิลสัน นาที 57

เพราะหลังจากกัปตันทีมวัย 22 ปีผู้นี้ลงมาได้เพียง 8 นาทีเท่านั้น ก็ได้โอกาสยิงฟรีคิกระยะ 22 หลา ซึ่งไม่พลาด อาร์เซนอล ขึ้นนำ 1-0 นาที 65 และเป็น เชส คนเดิมที่บวกสกอร์ที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้และอาร์เซนอลไปพร้อมกันนาที 81 จากจังหวะวิ่งทะลุเข้ามาแปบอลที่ ธีโอ วัลคอตต์ เปิดเข้ามาให้จากริมเส้นฝั่งขวา ทว่า เชส ก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออก เพราะดูเหมือนจะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อ และ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม ไม่อยากเสี่ยง เชส จึงใช้เวลาในสนามเพียงแค่ 27 นาทีเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม "ปืนโต" ก็มาได้อีกหนึ่งประตู เมื่อ อาบู ดิอาบี ที่ทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์ในเกมนี้ เลี้ยงบอลขึ้นมาจากกลางสนามและเห็นไม่มีใครเข้าประกบจึงฉวยโอกาสยิงลักไก่ ทันที ช่วยให้ "เดอะ กันเนอร์ส" นำห่าง 3-0 นาที 90 และจบเกมไปด้วยสกอร์ดังกล่าว

หลังเกม อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนตัวเข้าและออกของ เชส ว่า "เขาดูมีอาการเจ็บซ้ำที่กล้ามเนื้อเอ็นหลังหัวเข่า เรารู้ตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า เขายังไม่สมบูรณ์ แต่ผมเชื่อว่าไม่เลวร้ายนัก 2 ประตูนำขณะนั้น ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอะไรเกินความจำเป็น"

ส่งผลให้ อาร์เซนอล แข่ง 18 นัด มี 38 แต้ม อยู่อันดับ 3 ตามหลัง เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด สองทีมนำ 4 และ 2 แต้มตามลำดับ ทว่าแข่งน้อยกว่า 1 นัด

ขณะที่ วิลล่า แข่ง 19 นัด มี 35 แต้ม อยู่อันดับ 4 เช่นเดิม และถือว่าเป็นผลการแข่งขันที่ไม่ดีต่อ วิลล่า เพราะเกมถัดไปต้องต้อนรับ ลิเวอร์พูล รองแชมป์เก่า ที่กำลังดิ้นรนกลับเข้าสู่พื้นที่ 4 อันดับแรก โควตาสโมสรยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพราะขณะนี้อยู่อันดับ 7 มี 30 แต้ม ดังนั้นจึงถือเป็นการตัดแต้มกันเองของกลุ่มทีมลุ้นชิงพื้นที่ "ท็อปโฟร์" ซึ่งหาก วิลล่า พ่ายอีก จะทำให้ช่องว่างลดลงเหลือ 2 แต้มเท่านั้น

ซึ่งทั้งคู่จะต้องพบกันกลางดึกวันอังคารที่ 29 ธันวาคมนี้ เวลา 02.45 น. ทรูสปอร์ต 1 และ คลับ แอล ถ่ายทอดสด โดย "หงส์แดง" ถือความได้เปรียบเรื่องความสดของผู้เล่น เนื่องจากได้พักมากกว่าหนึ่งวัน เพราะในเกมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ เล่นในคืนวันเสาร์ แต่ วิลล่า ลงเล่นในวันอาทิตย์ แต่ยังเบาใจได้บ้างว่าเป็นฝ่ายเล่นในถิ่นวิลล่า ปาร์ค ของตัวเอง แถมในเกมนัดแรกที่พบกันก็บุกชนะ 3-1 ถึงถิ่นแอนฟิลด์

ด้าน มาร์ติน โอนีล ผู้จัดการทีมแอสตัน วิลล่า ก็กล่าวว่าความพ่ายแพ้ในเกมนี้จะไม่ส่งผลในเกมกับ ลิเวอร์พูล เพราะหากต้องการอยู่ใน 4 อันดับแรก ก็ต้องรู้จักความกดดันจากผลการแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามใจต้องการเป็นอันดับแรก

"เราจะไม่เป็นไร มันจะผ่านไป เราจะทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เป้าหมายของเราอยู่ที่อันดับตาราง หลังจบ 38 นัด ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ในเกมใดเกมหนึ่ง นี่เป็นเรื่องปกติของฟุตบอลลีก เราไม่มีเวลามาคิดถึงเกมนี้ เพราะเมื่อออกจากสนามของอาร์เซนอล เรามีเวลาอีก 2 วัน ให้คิดว่าเราจะเอาชนะ ลิเวอร์พูล อีกครั้งได้อย่างไร"

ขณะที่อีกคู่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส จะเปิดถิ่นรีบอค สเตเดี้ยม รอต้อนรับ ฮัลล์ เวลา 03.00 น. ทรูสปอร์ต 3 และ คลับ เอ ถ่ายทอดสด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook