หงส์ ร่วงเอฟเอต่อเวลาพ่าย เรดดิ้ง 1-2

หงส์แดง ลิเวอร์พูล จบเส้นทางฟุตบอลถ้วยอีกหนึ่งใบ เมื่อพ่าย เดอะ รอยัล เรดดิ้ง 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ศึกเอฟเอ คัพ นัดแข่งใหม่ ทั้งที่เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน ด้าน แม็กซี โรดริเกซ ปีกอาร์เจนไตน์ มาถึงแอนฟิลด์แล้ว ขณะที่ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ไล่ยำ ผู้แสวงบุญ พลีมัธ 3-0

ศึกฟุตบอลชิงถ้วยเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3 นัดแข่งใหม่กลางดึกวันพุธที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา แม้ ลิเวอร์พูล จะเป็นทีมจากพรีเมียร์ลีก และได้สิทธิ์ลงชิงถ้วยแพ้คัดออกใบที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นรอบแรก แต่ต้องกลายเป็นรอบเดียวที่ได้ลงเล่นเสียแล้ว เพราะเกมก่อนก็เกือบจะโดน เรดดิ้ง ทีมจากลีก แชมเปี้ยนชิพ เขี่ยตกรอบไปแล้ว ยังดีที่ไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จึงยังได้โอกาสกลับมาแก้ตัวในถิ่นแอนฟิลด์ ของตัวเอง

ทว่าเกมนี้กลับแย่กว่า ทั้งที่เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 ไปได้ก่อนจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม ที่ยิงแฉลบ ไรอัน เบอร์ทรันด์ เข้าประตูตัวเอง นาที 45 ทว่า "เดอะ ค็อป" ที่ร้องเพลง "ยู วิลล์ เนเวอร์ วอล์ค อโลน" ลั่นสนามเพราะนึกในใจว่า "หงส์แดง" น่าจะได้เข้ารอบต่อไปอย่างไม่มีปัญหา เนื่องจากขณะนั้นจบ 90 นาทีไปแล้ว และเกมกำลังอยู่ในช่วงทดเวลาเจ็บ ก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็น ยอสซี เบนายูน ไปเตะตัดขา เชน ลอง หัวหอกสำรองของ "เดอะ รอยัล" ในกรอบเขตโทษ

ส่งผลให้ ฟิล ดาวด์ ผู้ตัดสินไม่ลังเลชี้เป็นจุดโทษทันที และ กิลฟี ซิกูร์ดสัน ผู้ทำหน้าที่เพชฌฆาตสังหารไม่พลาดเป้า เรดดิ้ง ไล่ตีเสมอ 1-1 นาที 90 (+2) ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

เกมของ "ลิเวอร์เบิร์ด" ยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อ ลอง ผู้ทำให้ "เดอะ รอยัล" ได้จุดโทษ ได้โอกาสโขกบอลจากระยะ 6 หลา ช่วยให้ เรดดิ้ง ขึ้นนำ 2-1 นาที 100 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องยิงคืนถึง 2 ประตู ในเวลาที่เหลือ 20 นาที เนื่องจากตามกฎถ้วยเอฟเอ จะนับกฎการยิงประตูทีมเยือนต่อเมื่อเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษเท่านั้น และ "หงส์แดง" ก็ทำไม่สำเร็จ แพ้ไปด้วยสกอร์ 1-2 ส่งผลให้ในฤดูกาลแข่งขันล่าสุด ลิเวอร์พูล ตกรอบฟุตบอลถ้วยไปแล้วถึง 3 ใบ ได้แก่ เอฟเอ คัพ กับ คาร์ลิ่ง คัพ ในอังกฤษ และสโมสรยุโรป ถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เกมนี้ แม็กซี โรดริเกซ ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา เข้ามาชมอยู่ด้วย เนื่องจากเพิ่งผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่ "ลิเวอร์พูล อคาเดมี" ย่านเมลวู้ด และตกลงเซ็นสัญญาว่าจ้างกับ "หงส์แดง" เป็นเวลา 3 ปีครึ่ง เรียบร้อยแล้ว แต่ยังลงสนามไม่ได้เพราะขั้นตอนทางเอกสารยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยปีกวัย 29 ปีผู้นี้ จะได้สวมเสื้อหมายเลข 17

ส่วนอีกคู่ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จ่าฝูงลีก แชมเปี้ยนชิพ ต้องมาแข่งใหม่กับ พลีมัธ อาร์กายล์ คู่ต่อสู้ร่วมลีกเดียวกัน แต่อยู่ห่างกันถึง 21 อันดับ เพราะทำได้แค่ออกไปเสมอ 0-0 ที่สนามโฮม ปาร์ค เท่านั้น เกมนี้ได้กลับมาแก้ตัวที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ของตัวเอง และก็ไม่พลาด "สาลิกาดง" ยำใหญ่ 3-0 จาก "แฮตทริก" ของ ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส กองหน้ากึ่งปีกทีมชาติเดนมาร์ก นาที 10, 40 กับ 72 ซึ่งนอกจาก "สาลิกาดง" จะได้ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายแล้ว ยังทำสถิติไร้พ่าย 13 เกมรวมทุกถ้วยอีกด้วย