รออยู่นะ! "รถถัง" ส่งสารท้ารบหวังเปิดศึก "เทนชิน, ทาเครุ" ให้หายคาใจ

รออยู่นะ! "รถถัง" ส่งสารท้ารบหวังเปิดศึก "เทนชิน, ทาเครุ" ให้หายคาใจ

รออยู่นะ! "รถถัง" ส่งสารท้ารบหวังเปิดศึก "เทนชิน, ทาเครุ" ให้หายคาใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ดิ ไอรอนแมน" รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ส่งสารท้ารบ 2 นักคิกบ็อกเซอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่น หวังมีโอกาสปะทะฝีมือกันบนสังเวียน

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "เทนชิน นาสึกาวา" ซูเปอร์สตาร์จากแดนปลาดิบคู่แค้นเก่าของ รถถัง ขึ้นชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งไฟต์อำลาก่อนหันไปเอาดีในการชกมวยสากลอาชีพ โดยสามารถเผด็จศึก "ทาเครุ เซกาวา" นักชกรุ่นพี่ไปอย่างเอกฉันท์ รักษาสถิติไร้พ่าย 44 ไฟต์ตลอดอาชีพนักชกคิกบ็อกซิ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า รถถัง ในฐานะคู่ปรับเก่าของ เทนชิน ซึ่งเคยแพ้แบบค้านสายตาเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2561 จะไม่ยอมปล่อยให้อริเก่าจบให้เส้นทางสายบ็อกซิ่งแบบง่ายๆ พร้อมส่งสารท้ารบไฟต์ล้างตา เพื่อหวังลบรอยแค้นที่ค้างคาใจมานานหลายปี
1นอกจากนี้ รถถัง เอง ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะดวลฝีมือกับ ทาเครุ ด้วย หลังจากที่เจ้าของแชมป์ K-1 วัย 30 ปี ชาวญี่ปุ่นรายนี้ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อในบ้านเกิดว่า อยากลองปะทะฝีมือกับ รถถัง ดูสักครั้งเช่นกัน

โดยหลังจากที่ รถถัง ได้รู้ผลการแข่งขันของ เทนชิน และ ทาเครุ ก็ออกมาโพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแท็กไปถึงนักชกเลือดซามูไรทั้งสองว่า   

"@k1takeru พักผ่อนให้เต็มที่นะ ถ้าเราได้พบกันเมื่อไหร่ เวทีจะลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน ผมพร้อมเจอกับคุณทุกเมื่อ! ส่วน @tenshin.nasukawa คุณจะเลิกชก (กติกาคิกบ็อกซิ่ง) ได้ยังไงในเมื่อเรื่องระหว่างเราสองคนยังไม่ได้ข้อสรุปเลย?"
2อย่างไรก็ตาม รถถัง ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องสะสางให้จบ นั่นคือการล่าเข็มขัดเงินอันทรงเกียรติในการชิงชัย ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต ซึ่งจะพบกับ "ซาวาส ไมเคิล" ในศึก ONE161 วันเสาร์ที่ 27 ส.ค.นี้

ไม่แน่ว่าหลังจากที่ รถถัง สามารถรวบเข็มขัดแชมป์ ONE มวยไทยทั้ง 2 เส้นเรียบร้อยแล้ว เราอาจจะได้เห็นแชมป์โลกวัย 24 ปีจากพัทลุงรายนี้ เปิดศึกกับ 2 นักสู้ชาวญี่ปุ่นอย่างที่ตั้งใจไว้ก็ได้ หากองค์กรใหญ่ต้นสังกัดของทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ในอนาคต
3ทั้งนี้ แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารและความความเคลื่อนไหวของ รถถัง ได้ทางเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และเว็บไซต์ ONEFC.com/th     

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook