เมื่อ..."หมูพลิ้ว"...รู้จักพลิ้ว

เมื่อ..."หมูพลิ้ว"...รู้จักพลิ้ว

เมื่อ..."หมูพลิ้ว"...รู้จักพลิ้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การลงไปเตะฟุตบอล สิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ "จ็อบ" ในสนาม

ภาษาปะกิตวันละคำ บอกไว้เนิ่นนานแล้วว่า "put the right man for the right job" หรือ "ใช้คนให้ถูกงาน"

งานที่ถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะจ็อบ หรืองานในสนามนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญที่ทางโค้ชจะเป็นผู้ถ่ายทอดให้นักเตะต้องลงไปทำในสนาม เพื่อการคว้าชัยชนะให้ได้ หากว่าทุกคนเล่นได้ดีตามงานที่ตัวเองได้รับ และรวมตัวกันได้ดีทั้งหมดเป็นทีมเวิร์ก ก็จะทำให้งานง่ายขึ้น และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ "ทีมสปิริต"

นักเตะเล่นได้ดีตามงานที่โค้ชวางหมากให้ลงไปเล่น เล่นกันได้ดีเป็นทีม และพลังใจในการต่อสู้ร่วมกันจะนำไปสู่ชัยชนะได้สำเร็จตามเป้าหมาย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

แมนฯ ยูฯ มีสิ่งเหล่านี้ชัดเจนและทำได้ดีกว่าแมนฯ ซิตี้ ที่ขาดทีมสปิริตชัดเจน แรงใจแผ่วไปเยอะ เมื่อทีมเล่นได้แย่มาหลายนัด ผิดกับทัพปีศาจแดงชนะมา 5 นัดรวด ความเชื่อมั่นมากกว่าเยอะ จึงทำให้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะได้อย่างสวยงามและขยับขึ้นอันดับ 3 แทน

เล่นไปเล่นมา เรือใบสีฟ้าอาจจะไม่ได้ไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าด้วยซ้ำ เมื่อลิเวอร์พูลที่ชนะนิวคาสเซิลเมื่อวันจันทร์ไล่มาเหลือ 4 แต้ม ทุกอย่างเป็นไปได้หมด

เวลานี้ปีศาจแดงชนะทีมไหนได้ทุกทีม น่าเสียดายที่มาช้าไปหน่อย ไม่อย่างนั้นได้ลุ้นแชมป์ ใกล้เคียงและได้เสียวกว่านี้เยอะ นี่เป็นการชนะมา 6 นัดติดต่อกัน เก็บ 18 แต้มเต็ม ไม่ธรรมดาจริงๆ นะพี่ท่าน หลุยส์ ฟาน ฮัล ท่านนายพลดัตช์ที่โดนด่ามาเยอะตั้งแต่ต้นซีซั่น

ตอนนี้แมนฯ ยูฯลงตัวมาก เมื่อฟาน ฮัลได้ทีมที่ลงตัวหลังหามาทั้งซีซั่น หมากเกมที่จัดให้ลูกทีมลงเล่นทุกคนก็เล่นได้ดีตามจ็อบ ทำให้ทีมมาแรงแซงโค้ง ผมว่าปีนี้น่าเสียดายที่มาลงตัวช้าไป แต่ปีหน้าปีศาจแดงจะยิ่งแรงฤทธิ์มากกว่านี้อย่างแน่นอน

เมื่อวันก่อน แกรี่ เนวิลล์ นักวิจารณ์ฝีปากกล้าของ "Sky" ยกเครดิตให้กับหลุยส์ ฟาน ฮัลในการปรับเวย์น รูนี่ย์ จากนักเตะผู้ซึ่งวิ่งไปทั่วสนามเพื่อพยายามมีส่วนร่วมกับเกม มายึดติดกับบทบาทของกองหน้าและสร้างความอันตรายต่อคู่แข่งได้มากขึ้นกว่าเดิม

แม้ว่ารูนี่ย์จะไม่ได้มีส่วนร่วมมากนักกับเกมในนัดที่แมนฯ ยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 4-2 แต่ทั้งแกรี่ เนวิลล์และเจมี่ คาร์ราเกอร์ซึ่งรับหน้าที่วิจารณ์เกมดังกล่าว ต่างชื่นชมกัปตันทีมชาติอังกฤษรายนี้อย่างแท้จริงว่า รู้ว่างานของตัวเองต้องทำอะไรบ้าง?

รูนี่ย์นั้นได้สัมผัสบอลเพียง 35 ครั้งในเกมดังกล่าว ซึ่งถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของเขาในพรีเมียร์ลีก โดยเนวิลล์ได้แสดงความคิดเห็นวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและให้คอมเมนต์ว่า จากการที่ผมเคยลงเล่นกับเวย์น รูนี่ย์ มา 10-12 ปี และทำงานร่วมกับเขาในทีมชาติอังกฤษมาอีก 3-4 ปี เขาเป็นนักฟุตบอลในแบบฉบับแข้งตามท้องถนน เขาจะพยายามวิ่งไล่บอล เขาจะพยายามมีส่วนร่วมกับเกมและวิ่งพล่านไปทั่วสนาม

เนฟบอกว่า เขาคิดว่าฟาน ฮัลคงได้แนะนำอะไรบางอย่างกับรูนี่ย์ในการฝึกซ้อม อย่างเช่นแนะนำ นั่นไม่ใช่ตำแหน่งของนายที่ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ และไม่ต้องไปอยู่ที่นั่นเพื่อจะทำแบบนั้น มันทำให้เขาวิ่งเข้าใส่แผงหลังในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้และก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ถึงตอนนี้เขาคิดว่านี่เป็นความสำเร็จที่น่าจดจำสำหรับฟาน ฮัล ที่ทำให้รูนี่ย์เปลี่ยนไปจากเดิมได้ !?

ทางเนฟแสดงให้เห็นถึงว่าการสามารถปรับเขาให้เล่นแบบนั้น แนวทางการเล่นที่เปลี่ยนไปของเจ้าหมูพลิ้ว โดยปกติแล้วคุณจะได้เห็นรูนี่ย์วิ่งไปทั่ว เขาจะถอยลงไปในตำแหน่งมิดฟิลด์หากว่าไม่ได้บอลซัก 5 นาที เขาจะลงต่ำไปหาบอลเองเพราะเขาเป็นนักเตะในลักษณะนั้น

เนวิลล์แสดงความเห็นอีกว่า นี่คือความสำเร็จที่มหัศจรรย์ของหลุยส์ ฟาน ฮัล การได้ดูเขาเล่นในเกมเมื่อวันอาทิตย์ มันเปรียบเสมือนการมีอิทธิพลเหนือแผงหลังซิตี้อยู่เงียบๆ ที่ผมเองก็เห็นด้วยที่รูนี่ย์อาจจะไม่เด่นเท่าคนอื่น แต่เขาทำให้กองหลังซิตี้ต้องหวั่นไหวได้ตลอด และเปิดโอกาสให้คนอื่นได้จัดการกับซิตี้ทั้ง มาต้า, เฟลไลนี่ และคนอื่นๆด้วย

จะว่าไปแล้ว ผมก็มองเหมือนกันว่า เวย์น รูนี่ย์ เป็นคนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในเกมดังกล่าวอย่างแท้จริง แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ยิงประตูพาทีมคว้าชัยชนะก็ตาม

หากว่าหมูพลิ้ว สามารถพลิ้วได้ถูกที่ถูกเวลา ผีจะดุแบบนี้เรื่อยไป และคนอื่นๆก็พร้อมฉายแสงได้น่ากลัวมากขึ้นด้วยอีกต่างหาก

ดีใจกับแฟนผีแดงด้วยใจจริง ฟอร์มยามนี้ของผี น่าดีใจที่ได้ติดตามเชียร์ครับ และฟาน ฮัลก็คงรู้แล้วว่าเขาต้องจัดทีมอย่างไร?

จัดจ็อบให้นักเตะเล่นยังไงจึงจะประสบความสำเร็จได้อย่างน่าชื่นใจแฟนๆ

เพลย์เมคเกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook