5 เรื่องสุดประทับใจของนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ครั้งที่ 28

5 เรื่องสุดประทับใจของนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ครั้งที่ 28

5 เรื่องสุดประทับใจของนักกีฬาไทย ในซีเกมส์ครั้งที่ 28
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของชาวอาเซียนอย่างซีเกมส์ ครั้งที่ 28  ที่ประเทศสิงคโปร์

ซึ่งผลปรากฏว่า ทัพนักกีฬาไทย โชว์ผลงานได้อย่างสุดยอดอีกครั้ง ด้วยการคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง มาครองได้เป็นสมัย ที่ 13 โดยคว้าไปทั้งสิ้น 95 เหรียญทอง 83 เหรียญเงิน และ 69 เหรียญทองแดง รวมทั้งหมด 247 เหรียญ



ซึ่งหนที่แล้วครั้งที่ 27 ที่เมียนมา เราก็เป็นเจ้าเหรียญทองแต่ทำเหรียญได้มากกว่า  โดยคว้ามาได้ถึง 107 เหรียญทอง 94 เหรียญเงิน  80 เหรียญทองแดง รวมเหรียญทั้งหมด 281 "แต่ก็ไม่เป็นไร แค่นี้แฟนกีฬาชาวไทยก็มีความสุขมากๆ แล้ว"
 
ส่วนซีเกมส์ในครั้งต่อไป เป็นครั้งที่ 29 ซึ่งประเทศมาเลเซียจะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ (ปี2017) เราคงต้องมาลุ้นกันอีกครั้งในอีกสองปีข้างหน้า

แต่วันนี้เราได้รวบรวม 5 เรื่องราวที่ประทับใจสุดๆ ของบรรดาทัพนักกีฬาไทย ในซีเกมส์หนนี้มาให้ชม...ลองไปดูว่าจะมีเรื่องราวอะไรบ้าง?




# ที่สุดของหัวใจสุดแกร่ง # "น้องหญิง" สุธาสินี เสวตรบุตร

ดังกระหึ่มเพียงชั่วข้ามคืน สำหรับเธอคนนี้ สุธาสินี เสวตรบุตร สาววัย 21 ปี จากระนอง นักเทเบิลเทนนิสสาวทีมชาติไทย

ด้วยผลงานอันเอกอุแบบสะใจกองเชียร์สุดๆ  หลังเธอล้มตัวเต็งอย่าง เฟิง เทียนเว่ย เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 3-1 เกม

พอมารอบรองชนะเลิศ "น้องหญิง" ก็ไม่ทำให้แฟนๆชาวไทยผิดหวัง ด้วยการพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 0-3 เกม ก่อนมาเร่งเครื่องและเอาชนะ ไม ฮอง มาย ทรัน จากเวียดนาม แบบบีบหัวใจ 4-3 เกม

และสุดท้ายเธอก็มาโค่น ยอดฝีมือจากมาเลเซีย อย่าง อึง ซ็อก คิม ในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนเฉือนชนะ 4-3 เกม คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ ท่ามกลางความสะใจจากแฟนๆชาวไทยทั้งประเทศ

ชัยชนะของน้องหญิงในครั้งนี้ ทำให้เธอกลายเป็น นักเทเบิลเทนนิสหญิงเดี่ยวคนแรกของไทย ที่คว้าเหรียญทองได้ในซีเกมส์ ในรอบ 32 ปีเลยทีเดียว




# ที่สุดของความเพียรพยายาม # "ฝน" ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์

ยอดคุณแม่ปอดเหล็กวัย 36 ปี นักวิ่งมาราธอนหญิงทีมชาติไทย เธอกลับประสบความสำเร็จครั้งใหม่แบบเหลือเชื่อ!

นั่นคือการวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ในการวิ่งมาราธอนหญิง 42.195 กม. หลังจากอดทนพยายามมากว่า 20 ปีและประสบความสำเร็จจนได้ พร้อมกับหยิบเหรียญทองแรกในชีวิตในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้

ซึ่งเธอเล่าด้วยเสียงสั่นเครือว่าในระยะ 10 เมตรสุดท้าย ก่อนเข้าเส้นชัย มีเสียงเชียร์จากเพื่อนๆในทัพนักกรีฑาไทย ที่อยู่ในสนามต่างตะโกนชื่อลูกสาว ว่า “ต้นหลิว ต้นหลิว ต้นหลิว” ทำให้เธอฮึดสู้ในเฮือกสุดท้าย

จนอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวด้วยการหลั่งน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มออกมา และชัยชนะของเธอในครั้งนี้ ถือเป็นแบบอย่างในเรื่องของ "ความเพียรพยายาม" ได้เป็นอย่างดี





# ที่สุดของความเร็ว # คุณานนท์ สุขแก้ว

วิ่ง 400 เมตรชาย ถือเป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ด ของลมกรดหนุ่มอนาคตไกล วัย 20 ปี ที่กลายเป็นขวัญใจของแฟนกรีฑาไทยไปแล้ว

ด้วยการโชว์ลูกฮึดสวมวิญญาณ (เสือชีตาห์) พลิกแซงนักวิ่งเวียดนามเข้าเส้นชัย แบบสุดระทึกคว้าเหรียญทองที่สองให้กับตัวเอง  พร้อมกับทำลายสถิติซีเกมส์และช่วยให้ทีมนักวิ่งของไทยทำผลงานทะลุเป้าหมายอีกด้วย

หลังจากคว้าเหรียญทองแรกมาแล้ว ในการวิ่งผลัด  4x400 เมตร ก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าตัวรับหน้าที่เป็นไม้ที่ 4 ก่อนทยานเข้าเส้นชัยแบบสุดมันส์

และเชื่อว่าผลงานของ คุณานนท์ สุขแก้ว ลมกลดหนุ่มไทยรายนี้น่าจะเป็นนักกีฬาดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งที่น่าจับตามองสุดๆ




# ที่สุดของความสะใจ # ทีมโปโลน้ำหญิง

ถ้าจะให้พูดถึงความสะใจคงไม่พ้นทีมโปโลน้ำหญิงไทย หลังคว้าเหรียญทองด้วยการเฉือนชนะเจ้าภาพ 5-4 ประตู ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์หนนี้

ซึ่งก่อนหน้านี้โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะมา 3 นัดรวด ก่อนพบเจ้าภาพสิงคโปร์ ในนัดชิงฯ ที่ชนะมา 3 นัดเช่นกัน

และทีมสาวไทยก็ทำได้ดีกว่าและไม่ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยผิดหวัง เอาชนะแชมป์เก่า 3 สมัยคว้าเหรียญทองโปโลน้ำหญิงสมัยแรกและเป็นเหรียญทองประวัติศาสตร์อีกด้วย

ทำเอาชาวลอดช่องช็อกกันไปตามๆ กันถึงกับนองน้ำตา  และทำให้ "ดานิเอเล แฟร์รี่" โค้ชทีมสาวไทยสุดหล่อ กลายเป็นที่รู้จักชาวโลกออนไลน์ในขณะนี้




# ที่สุดของความภาคภูมิใจ# ทีมฟุตบอลชาย

แม้จะมีเหรียญทองแค่เหรียญเดียวก็ตาม แต่จะไม่ให้พูดถึงคงไม่ได้ กับการรักษาแชมป์ด้วยการถล่มเมียนมา 3-0 ในนัดชิงชนะเลิศคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งนี้ได้ตามเป้าหมาย

ทีมแข้งไทยวัยคะนองชุดนี้ ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ ถือเป็นความลงตัวแบบสุดๆ ไม่ว่าจะลงเล่นนัดไหนหรือจะหมุนเวียนเปลี่ยนใครลงก็ตาม เชื่อว่ายังไงก็ต้องมีประตูแน่นอน

โดยผลงานการลงสนามทั้งหมด 7 นัด ขุนพลแข้งไทยทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการชนะ 7 นัดรวด ยิงไปได้ 24 ประตู เสียแค่ 1 ประตู และไม่แปลกใจเลยกับการได้แชมป์เป็นสมัยที่ 15

และทั้งหมดทั้งมวล พวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า "ทีมช้างศึก" คือเบอร์ 1 ของอาเซียนอย่างแท้จริง!!

สุดท้ายนี้ ก็คงต้องขอขอบคุณทัพนักกีฬา สต๊าฟโค้ช และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมกันสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ

และขอบคุณที่ได้มอบความสุขให้เหล่าคนไทยอีกครั้ง ขอบคุณฝุดๆ เลยครับ



เรื่องโดย : มิดไนท์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook