สกู๊ป : "กวางโจว เอเวอร์แกรนด์" กาลเวลาพิสูจน์ “แชมป์”
ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าผลงานอันสะเทือนเลือนลั่นทวีปเอเชียเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาของ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ จากการผงาดคว้า “ดับเบิ้ลแชมป์” คือกินเรียบทั้งแชมป์ฟุตบอลลีกสูงสุดภายในประเทศอย่าง ไชนิส ซูเปอร์ลีก และ แชมป์ฟุตบอลสโมสรเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก จะทำให้พวกเขาถูกยกเป็น “ทีมเต็ง” ที่จะคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการได้อีกครั้งในปี 2016
ยิ่งยอดทีมจากแดนใต้ของจีนสามารถรักษาตัวผู้เล่นชุดเดิมๆที่โชว์ผลงานสุดสะเด็ดเผ็ดร้อนเอาไว้ในทีมได้อย่างครบครัน และยังคงมี หลุยส์ ฟิลิเป้ สโคราลี่ กุนซือมากฝีมือชาวบราซิลเป็นคนคุมทัพ รวมถึงมีการเสริมตัวผู้เล่นสุดโหดในการดึง แจ็คสัน มาร์ติเนซ ดาวยิงทีมชาติโคลอมเบียเข้ามาสู่ทีมด้วยก็ยิ่งทำให้สถานะ “เต็งแชมป์” ของพวกเขาเด่นชัดมากขึ้นไปอีก
แต่เมื่อฤดูกาล 2016 เริ่มต้นในช่วงตลอด 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าผลงานของ “เต็งแชมป์” จะไม่สู้ดีนักในทั้ง 2 ศึกใหญ่ที่ลงชิงชัย
เมื่อยังไม่ประสบพบเจอกับชัยชนะเลยแม้แต่เกมเดียว
ไม่ว่าจะเป็นการออกสตาร์ทในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ 2 ที่ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ โปฮัง สตีลเลอร์ 0 – 0 กับบุกพ่าย ซิดนีย์ เอฟซี 1 – 2
หรือในเกมออกสตาร์ทศึก ไชนิส ซูปอร์ลีก ก็บุกไปพ่าย ชงฉิง หลี่ฟาน ทีมที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก 1 – 2
ด้วยผลงาน “ย่ำแย่” ที่เกิดขึ้นในช่วงออกสตาร์ตปี 2016 ทำให้แฟนบอลของทีม รวมถึงผู้สันทัดและไม่สันทัดกรณีอีกมากหลายเริ่มตระหนกตกใจว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นกันแน่กับ “ดับเบิ้ลแชมป์เก่า” พร้อมเริ่มตั้งแง่สงสัยแอนด์ลังเลใจที่จะยกยอปอปั้นให้ยอดทีมจากแดนจีนใต้ทีมนี้เป็น “เต็งแชมป์” ในทั้ง 2 รายการ
ทว่าผมกลับคิดเห็นต่างออกไป
จริงอยู่ครับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ นั้นผลงานไม่ดีจริงๆในช่วงออกสตาร์ต แต่ตำแหน่งแชมป์นั้นคงไม่ได้ตัดสินกันเพียงแค่เดือนเดียวอย่างแน่นอน
ทั้ง ไชนิส ซูเปอร์ลีก และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก นั้น แค่ชื่อที่มีคำว่า “ลีก” ก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าระยะเวลาของการแข่งขันนั้นจะต้องยืดเยื้อยิงยาว
ไม่ใช่ในทัวร์นาเมนท์สั้นๆที่จะวัดแชมป์กันเพียงแค่อาทิตย์ สองอาทิตย์แต่
อย่างใด ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น เพราะกว่าทั้ง 2 รายการจะปิดตัวลงพร้อมบทสรุปแชมป์นั้นก็ปลายปีเข้าไปแล้ว
ดังนั้นสำหรับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ พวกเขายังคงมีเวลาอีกมากโขที่จะสามารถปรับจูนทีมให้กลับมาสู่เส้นทางของฟอร์มการเล่นอันแข็งแกร่งอีกครั้ง
ยิ่งทีมมีประสบการณ์ในการลงเล่นศึกใหญ่ทั้ง 2 รายการมาอย่างโชกโชน อีกทั้งสภาพทีมปัจจุบันก็เต็มไปด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่งทั้งตัวผู้เล่นจีน
และตัวผู้เล่นต่างชาติที่ประกอบด้วยสตาร์ดีกรีถึงขั้นเคยทีมชาติบราซิลอย่าง
เปาลินโญ่ และ ริตาร์โด กูลาร์ต รวมถึงจอมกระซวกประตูทีมชาติโคลอมเบียอย่าง แจ็คสัน มาร์ติเนซ ด้วยแล้ว หาก หลุยส์ ฟิลิเป้ สโคลารี่ จับจุดปรับระบบการเล่นของทีมได้ลงตัวเมื่อไหร่
เชื่อเหลือเกินว่า ยอดทีมจากจีนแดนใต้จะกลับมามีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม เหมาะสมกับสถานะ “เต็งแชมป์” และอาจจะถึงตำแหน่ง “แชมป์” ในที่สุด
ฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนตัดสิน เพราะตำแหน่ง “แชมป์” ยังต้องวัดกันอีกยาว หากจะใช้คำเปรียบเปรย ก็คงต้องบอกวว่ากาลเวลาพิสูจน์แชมป์ล่ะครับ