สกู๊ป : ไม่ใช่แค่ฟุตบอลที่กลับมาสนุก

ย้อนกลับไปช่วงเดือนปลายกุมภาพันธ์ เรอัล มาดริด มีแต้มตามหลังบาร์เซโลน่าถึง 10 คะแนน จากการทำได้แค่เสมอกับ มาลาก้า ตามด้วยเปิดบ้านแพ้ แอตเลติโก มาดริด ในบ้าน ทำให้หล่นมาอยู่อันดับที่สามของตาราง

แอตเลติโก เองหลังจากชนะดาร์บี้แมตช์แล้ว พวกเขากลายเป็นแคนดิเดตเดียว ที่มีลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว เพราะตามหลังจากฝูง 4 คะแนน และทิ้งอันดับที่ 2 ถึง 6 คะแนนด้วยกัน

แต่ทว่าเกมต่อมาพวกเขาไปทำแต้มหาย กับ กิฆอน ทำให้ โดนบาร์เซโลน่าทิ้งเป็น 7 คะแนน จากเกมที่เหลืออีก 7 นัด บาร์เซโลน่าจ่าฝูงทำท่าว่าจะเดินเข้าธงตราหมากรุกก่อนนัดที่ 38 ชองฤดูกาลแบบง่ายๆ

แต่แล้วสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ ลาลีกา กลับมาสนุกอีกครั้ง  บาร์เซโลน่า เก็บได้แต้มเดียวจาก 3 เกมล่าสุด ไล่ตั้งแต่ถูกบีญาร์เรอัล ตีเสมอ 2-2 ในเกมที่นำไปก่อนถึงสองประตู

ตามด้วยแพ้เรอัล มาดริด และก็ล่าสุดก็ปราชัยต่อมาลาก้า เป็นความพ่ายแพ้สองเกมติดต่อกันหนแรกของฤดูกาลนี้

หนึ่งแต้มที่ได้มา ทำให้ช่องว่าง ณ ปัจจุบันนำหน้าอันดับสองและอันดับสามแค่ 3 แต้ม และ  4 แต้มตามลำดับ

จากตอนแรกที่ทำหน้าวงการฟุตบอลลีกสูงสุดสเปน จะหมดสนุกไปแล้ว ตอนนี้กลับมาเข้มข้น ไม่แพ้บอลลีกอื่นๆ อีกครั้ง

เกมที่อโนเอต้า เมือคืนวันเสาร์ หลุยส์ เอนริเก้ แทงกั๊กตั้งแต่จัดตัวลงสนามแล้ว อันเดรส อินิเอสต้า, อิวาน ราคิติ และ ฆอร์ดี้ อัลบา นั่งอยู่ข้างสนามสบายๆ เพื่อเก็บไว้เกมสำคัญกลางสัปดาห์อีกเกม ก็ต้องถูกส่งใช้งานอยู่ดี เมื่อโดนเจ้าบ้านออกนำ

แต่แล้ว ช่วงเวลาที่เหลือกับทีมที่ดีที่สุด กรณีที่หลุยส์ ซัวเรซ โดนแบนไม่ครบ “เอ็มเอสเอ็น” ก็ไม่ได้สักคะแนนเมื่อจบ 90 นาที

หลุยส์ ซัวเรซ กลายเป็นนักเตะที่สำคัญไม่แพ้ ลิโอเนล เมสซี่ เสียแล้ว เพราะเกมกลางสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้เขานี่แหล่ะ ที่ยิงสองประตูให้ทีมกลับมาชนะแอตเลติโก ในแชมเปี้ยนส์ ลีก

ขณะที่ ทั้ง สองคู่แข่งแห่งเมื่องหลวง เก็บสามแต้มได้กันแบบสบายๆ กันถ้วนหน้า เรอัล ในชุดผสม แผงกลางเปลี่ยนยกแผง จากเกมกลางสัปดาห์ ก็ยังทำได้ดีกว่าทีมเยือน เอาชนะไปแบบสบาย 4-0 โดยโรนัลโด้ คือคนที่ไม่ต้องการพักผ่อน กลับมายิงประตูเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเกมตัดสินชะตากับโวล์ฟสบวร์ก

แอตเลติโก มาดริด ก็ไม่พล่าดเช่นกัน ตามสไตล์ของ “เอล โชโล่” ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ทึ่ไม่ประมาททุกระเบียบนิ้ว จัดชุดที่ต่างจากเกมบาร์ซ่าแค่คนเดียว เน้นเอาสามแต้มโดยเฉพาะ แม้จะโดนนำคู่แข่งนำไปก่อน แต่ศักยภาพพวกเขาก็ดีพอจะไล่ยิงสามประตูรวดเอาชนะไปได้ในท้ายที่สุด

จบเกมไม่ทันไร กระแสการต่อล้อต่อเถียงของ สองนักเตะทีมใหญ่ อย่าง เคราร์ด ปิเก้ และ อัลบาโร่ อาร์เบลัว ก็กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันดีว่า สองแข้งนี้ไม่ค่อยจะกินเส้น เรื่องความสำเร็จของแต่ละทีม โดยฝ่าย อาร์เบลัว ก็จะมีพวกศิษย์เก่าอย่าง เอสเตบัน กราเนโร่ และเซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมหนุนหลัง

ล่าสุดทันทีที่จบเกมที่บาร์ซ่าแพ้โซเซียดัด อดีตแบ็กของลิเวอร์พูลไม่รอช้า ที่จะทวีตข้อความเชิงเหน็บแหนมแกลมสะใจ “ว่าเป็นยังไงละ??? เอาชนะไม่ได้ละสิ เมื่อเจอทีมที่ 11 คนเท่ากัน และมี อิญาร์ราเมนดี้ กับ กราเนโร่(ทั้งสองเป็นอดีตแข้งเรอัล)”

ก็เนื่องมาจากว่า เมื่อกลางสัปดาห์ บาร์ซ่า เล่นกับ แอตเลติโก ที่มี 10 คนในสนามถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม จึงแซงเอาชนะมาได้

แต่ปิเก้ เอง ก็ใช่ย่อยตอบกลับไปอย่างเจ็บแสบในโซเชี่ยลมีเดีย เช่นกันว่า “นักเตะที่ได้ลงสนามเพียงเกมเดียว จากทั้งหมด 32 เกม ไม่ควรตั้งคำถามหรือได้คำตอบอะไรจากเขา”

เชื่อว่าตลอดอีก 6 นัดที่เหลือของฤดูกาล นอกจากความสนุกในสนามกลับมาเข้มเข้นยิ่งขึ้นแล้ว บรรยากาศนอกสนามที่อยู่ในภาวะกดดันต่อการลุ้นแชมป์ ก็ร้อนแรงไม่แพ้อากาศในเมืองไทยเช่นกัน

ตัวแปรแห่งความสำเร็จอีกอย่างในซีซั่นนี้ก็คือ กลางสัปดาห์ที่จะถึง บาร์ซ่า, แอตเลติโก และ เรอัล มาดริด จะมีแน่ๆ แล้วหนึ่งทีม ที่มีโปรแกรมโหดต่อเนื่องเข้าไปอีกในรอบต่อไป

ส่วนทีมอย่าง เรอัล มาดริด สัปดาห์นี้จะเป็นตัวตัดสินว่า พวกเขาจะต้องลุ้นสองถ้วยต่อไป หรือกลับมาเน้นเกมลีกเพียงอย่างเดียว

หากพ้นศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้วสัปดาห์ที่โปรแกรมลีกกลับมาเตะขึ้น ภาพจะเริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า แชมป์จะยังอยู่ที่คาตาลัน หรือจะย้ายฝั่งกลับมาที่ใจกลางประเทศสเปนอีกครั้ง