“ทีมชาติไทย” กับสิ่งที่ได้ จากปรากฎการณ์ไอซ์แลนด์

“ทีมชาติไทย” กับสิ่งที่ได้ จากปรากฎการณ์ไอซ์แลนด์

“ทีมชาติไทย” กับสิ่งที่ได้ จากปรากฎการณ์ไอซ์แลนด์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขออนุญาตออกตัว ตั้งแต่หัวคอลัมน์วันนี้เลยว่า ผมไม่ใช่พวก "ยิงศพ" นะครับ กับสิ่งที่ผมจะแสดงความเห็นผ่าน "ซอยสามัคคี" ในวันนี้

ประเด็นหลังการตกรอบแบบไม่เป็นท่าของทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ ย่อมมีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางแน่ ๆ ในวันนี้ ไม่ว่าจะในสื่อใด ๆ ก็ตาม

ผมยืนยันเลยครับว่า ไม่ได้รู้สึก "ประหลาดใจ" เลยแม้แต่น้อย กับการพังพาบของทีมเมืองผู้ดีในครั้งนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ผมมีความคิดมานานมาก กับสไตล์การเล่นในแบบฉบับของพวกเขานั้น ไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนท์ระดับเมเจอร์แน่ๆ

แม้ในรอบคัดเลือก ทีมสิงโตคำราม จะทำสถิติชนะรวด จนเซอร์ไพรส์กันไปทั้งบ้านทั้งเมืองก็เถอะ ผมก็ไม่เคยคิดเลยแม้แต่นิดเดียวเลยว่า กุนซือรอย ฮอดจ์สัน จะพาทีมชาติอังกฤษ ประสบความสำเร็จได้

ถามว่า เป็นเพราะอังกฤษ เล่น "ผิดฟอร์ม" ไปจากที่เคยเล่นในรอบคัดเลือกหรือเปล่า ผมว่า พวกเขาก็เล่นกันมาแบบนี้ทั้งปีทั้งชาติแหละ

เป็นเพราะว่า อังกฤษ ชุดนี้ ขาดตัวหลักไปหรือไม่ ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ เพราะขุนพลชุดนี้ คือทีมที่ดีสุด (ของพวกเขา) เท่าที่จะพึงมีแล้วแหละครับ

สิ่งสำคัญ ในความคิดของผมก็คือ อังกฤษ ของกุนซือปู่รอย เป็นทีมที่ขาดระบบการเล่น ที่มีประสิทธิภาพดีพอที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเขา เหนือล้ำกว่าคู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะชาติไหน

ทั้ง 3 เกมในรอบแรก บวกกับ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมของปู่รอย ไม่แสดงให้เห็นเลยว่า พวกเขาเล่นได้ "เหนือ" กว่าคู่ต่อสู้แบบคนละ "ระดับ" เอาชนะคู่ต่อแบบไม่ต้องลุ้นกัน "อุจจาระแตกอุนจิแตน"

ขออนุญาต พูดพาดพิงถึงทีมเมืองผู้ดีเอาไว้เพียงเท่านี้ครับ เกรงว่าจะถูกแฟน ๆ ทีมเมืองผู้ดี "เหม็นอุจจาระหน้า" ผมมากไปกว่านี้ซะเปล่าๆ

เข้าประเด็นมาที่ "ไอซ์แลนด์" ในความยอดเยี่ยมของพวกเขา กับสิ่งที่แสดงออกมาเมื่อคืนวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

รากนาร์ ซิกูร์ดสสัน ปราการหลังจอมเก๋า ที่เล่นอยู่กับสโมสรคราสโนดาร์ ในรัสเซีย คอมเมนท์หลังจบเกม ที่พวกเขาเอาชัยชนะเหนือ อังกฤษ ได้ 2-1 ประตูอย่างน่าสนใจว่า

"อังกฤษ ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่า กดดัน ไอซ์แลนด์ มากเพียงพอ ที่สำคัญ อังกฤษ ไม่ได้สร้างสรรเกมรุกอะไรให้พวกเราต้องหนักอกหนักใจเลยแม้แต่นิดเดียว"

ตัวเลขการครองบอล 63-37 เปอร์เซ็นต์ ที่อังกฤษ มีเหนือกว่า เมื่อมาเทียบกับจำนวนการมีโอกาสซัลโวประตูแบบหวังผล แสดงให้เห็นว่า อังกฤษ ไม่ได้ดีไปกว่า ไอซ์แลนด์ เลยแม้แต่น้อย (มีโอกาสยิงเข้ากรอบ 5 ครั้ง เท่ากัน)

ส่วนอีก 13 ครั้ง ที่ผู้เล่นทีมสิงโตคำรามได้สับไก ล้วนแล้วแต่เป็นการยิงนอกกรอบแบบขอไปที เพราะเจาะแนวรับที่เล่นอย่างเป็นระบบ มีวินัย ของไอซ์แลนด์ ไม่ได้

ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนซือชาวสวีดิช ที่มีสถิติคุมทีมเจอกับอังกฤษ โดยไม่เคยแพ้มา 7 นัดเข้าไปแล้ว (ตั้งแต่คุมทีมชาติสวีเดนร่วมกับ ทอมมี โซเดอร์เบิร์ก) พูดชัดเจนมากเลยว่า ชัยชนะของพวกเขานั้น ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

"ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ คุณก็สามารถเอาชนะได้ทั้งนั้น เพราะฟุตบอลคือการเล่นเป็นทีม"

กุนซือชาวเมืองฟรีเซ็กส์ แสดงความเห็นต่อไปว่า ทีมของเขาเล่นเกมรับได้ดี ลูกทีมเล่นเข้าใจในระบบการเล่น และจัดการในเกมได้ดี ทุกคนรู้บทบาทหน้าที่ และตามทันเกมของคู่ต่อสู้ตลอดเวลา"

ในเกมรุก ลาเกอร์บัค ชมลูกทีมถึงการเคลื่อนที่ได้อย่างยอดเยี่ยม "ฟุตบอลคือการเล่นเพื่อทำประตู มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และ ไอซ์แลนด์ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสามารถทำเช่นนั้น"

ส่วน ทันตแพทย์ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน กุนซือคนคู่กับลาเกอร์บัค ออกมาพูดได้แสบทรวงว่า เกมที่ไอซ์แลนด์ เล่นกับ อังกฤษ นั้น เขาดูลูกทีมลงสนามอย่างปลอดโปร่งทั้งแมตช์ ไม่ได้เป็นกังวลเท่ากับนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ที่เจอกับ ออสเตรีย เลยแม้แต่น้อย

ความจริงแล้ว เรื่องที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ประเทศที่มีประชากรแค่ 323,000 คน อย่างไอซ์แลนด์ ไม่ได้พึ่งมาเล่นดี หรือมาเล่นเก่ง แค่ในนัดเจอกับ อังกฤษ เท่านั้นหรอกครับ

ทีมของ ลาร์ส ลาเกอร์บัค และ ไฮเมียร์ เฮลกริมส์สัน ยังเล่นได้ดีมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ทั้งนัดที่เสมอ โปรตุเกส 1-1 ,เสมอ ฮังการี 1-1 และ ชนะ ออสเตรีย 2-1 หรือจะย้อนไปตั้งแต่รอบคัดเลือก ที่โค่นยักษ์ใหญ่อย่างทีม "กังหันลม" เนเธอร์แลนด์ ตกรอบไป

ทั้ง ๆ ที่มีจำนวนบุคลากรเพียงแค่ "หยิบมือ" หากจะไปเทียบกับชาติยักษ์ใหญ่ หรือ ยักษ์เล็กอื่นๆ ในยุโรป

แต่ด้วยวิธีการเล่น วิธีการรับมือกับคู่ต่อสู้ในแต่ละนัด ผ่านการทำการบ้านมาอย่างละเอียดรอบคอบ ภายใต้กึ๋นระดับอัจฉริยะของคนทำทีม ก็สามารถที่จะนำพาไอซ์แลนด์ มาได้ไกลขนาดนี้

มาถึงตรงนี้ เลยอยากจะมองย้อนมาที่ทีมชาติไทยของเราว่า การเรียนรู้จากสิ่งที่ไอซ์แลนด์ ได้แสดงออกมาในศึกยูโร 2016 ครั้งนี้ น่าจะเป็นประโยชน์กับทีมชาติไทยอย่างยิ่ง

เชื่อมั่นว่า ท่านประธานเทคนิคของสมาคมฟุตบอลฯ ("พี่เฮง" วิทยา เลาหกุล) และหัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมชาติ ("พี่โก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) ย่อมมองเห็น "ปรากฏการณ์ไอซ์แลนด์" ที่เกิดขึ้น และสามารถ "ต่อยอด" มาให้เป็นประโยชน์กับทีมชาติไทยได้แน่นอน

คอลัมน์ ซอยสามัคคี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook