สกู๊ปพิเศษ : "4 นักวิ่งโอลิมปิกที่เกิดผิดยุค!"

สกู๊ปพิเศษ : "4 นักวิ่งโอลิมปิกที่เกิดผิดยุค!"

สกู๊ปพิเศษ : "4 นักวิ่งโอลิมปิกที่เกิดผิดยุค!"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พูดถึงนักวิ่งระยะสั้นที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลก นาทีนี้ ใครๆก็คงจะนึกถึงแต่ชื่อ ยูเซน โบลต์ ขึ้นมาเป็นชื่อแรก

จะให้นึกถึงคนอื่นได้อย่างไร ในเมื่อโบลต์ ลมกรดจาไมก้า ผู้ที่จะอายุครบ 30 ปีเต็ม ในวันที่ 21 ส.ค. ที่จะถึงนี้ เล่นทำแฮตทริกคว้าเหรียญทองโอลิมปิกประเภทวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตร มา 3 สมัยติด ตั้งแต่โอลิมปิกปี 2008 ปี 2012 และปี 2016 ยังไม่นับเหรียญทองที่ได้จากวิ่งผลัด 4x100 เมตรอีก 2 เหรียญ และมีลุ้นที่จะได้เป็นแชมป์สมัยที่ 3 อีกเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ยังพ่วงท้ายด้วยดีกรีเจ้าของสถิติโลก 9.58 วินาที ในการวิ่ง 100 เมตร และ 19.19 วินาที ในรายการ 200 เมตร ที่โบลต์ทำไว้ตั้งแต่ปี 2009 ในการแข่งเวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ ที่ประเทศเยอรมนี และยังไม่มีใครโค่นสถิตินี้ลงได้

ความเร็ว ความมั่นใจ และความโด่งดังของโบลต์ ทำให้รัศมีของเขาแทบจะกลบนักวิ่งคนอื่นๆในยุคเดียวกัน ทั้งที่จริงๆแล้ว ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีนักกีฬาวิ่งเจ๋งๆอีกหลายคนที่เอาชนะ “กำแพง 10 วินาที” หรือวิ่งระยะ 100 เมตรได้ต่ำกว่า 10 วินาทีอีกหลายคน จน Sanook! Sport มองว่า ถ้านักวิ่งเหล่านี้เกิดในยุคอื่น ไม่ใช่ยุคเดียวกันกับโบลต์ ความโด่งดังของพวกเขาจะต้องสูสีกับโบลต์ในยุคนี้แน่นอน

มาดูกันว่าลมกรดระดับโลกที่ลงแข่งในโอลิมปิกครั้งนี้ที่วิ่งเร็วปานสายฟ้า แต่จัดว่าเกิดผิดยุคนั้น มีใครกันบ้าง

โยฮัน เบลค (26 ปี ทีมชาติจาไมก้า)

นักวิ่งรุ่นน้องชาวจาไมก้าที่เป็นทั้งเพื่อน เพื่อนร่วมทีม และพาร์ทเนอร์ในการฝึกซ้อมของโบลต์ ในโอลิมปิกที่ลอนดอน นี่คือผู้ชายที่เข้าเส้นชัยหลังจากโบลต์เพียงแค่ 0.12 วินาที และอยู่ยืนด้านขวาของโบลต์บนโพเดียมรับเหรียญ

ในโอลิมปิกครั้งนี้ ถึงแม้เบลคจะทำผลงานได้ผิดฟอร์ม ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการอาการบาดเจ็บในปี 2013 และปี 2014 แต่เขาสถิติ 9.69 วินาทีที่เป็นเวลาดีที่สุดของเขา ก็ยังทำให้เบลคขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่วิ่งเร็วเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากโบลต์ และยังเป็นเจ้าของสถิตินักวิ่งที่อายุน้อยที่สุดตอนที่ก้าวข้ามกำแพง 10 วินาทีได้

จัสติน แกทลิน (34 ปี ทีมชาติสหรัฐอเมริกา)

ในโอลิมปิกปี 2004 ที่เอเธนส์ ซึ่งโบลต์ในวัย 18 ปีลงแข่งเป็นครั้งแรกแต่ไปไม่ถึงรอบเซมิไฟนอลเพราะอาการบาดเจ็บ ตำแหน่งดาวเด่นในสนามและเจ้าของเหรียญทองในการวิ่ง 100 เมตรในครั้งนั้นก็คือ แกทลินจากสหรัฐอเมริกา

แต่หลังจากนั้น แกทลินก็โดนแบนจากการแข่งขันกีฬาไป 4 ปี ด้วยข้อหาใช้สารกระตุ้น เมื่อกลับมาอีกครั้งในยุคโบลต์เรืองรอง แกทลินจึงทำได้เพียงแค่วิ่งเข้าเส้นชัยตามหลังโบลต์และเบลคในการวิ่ง 100 เมตรโอลิมปิกที่ลอนดอน และเข้าเส้นชัยเป็นที่สองรองจากโบลต์ในการแข่งประเภทเดียวกันของโอลิมปิกครั้งนี้

ไทสัน เกย์ (34 ปี ทีมชาติสหรัฐอเมริกา)

อีกหนึ่งนักวิ่งจากทีมสหรัฐฯ ที่ครองตำแหน่งคนที่วิ่งเร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกร่วมกับเบลค ดวงของเกย์กับโอลิมปิกอาจจะไม่สมพงศ์กันเท่าไหร่ เพราะถึงจะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกมาหลายครั้งในการแข่งขันเวิลด์ แชมเปี้ยนชิปส์ หลายสมัย แต่กับโอลิมปิก เขายังไม่เคยได้เหรียญแม้แต่ครั้งเดียว

ในการแข่งขันที่ริโอครั้งนี้ จึงถือเป็นนัดล้างตาของเกย์ที่จะลงแข่งในประเภทผลัด 4x100 เมตรชาย ไฮไลท์อีกหนึ่งรายการของกรีฑาประเภทลู่

อังเดร เดอ กราสส์ (21 ปี ทีมชาติแคนาดา)

ถ้าไม่มีโบลต์ในการแข่งขันที่ริโอครั้งนี้ ลมกรดหนุ่มวัย 21 ปีจากแคนาดา จะเลื่อนขึ้นมาเป็นเจ้าของเหรียญทองในประเภท 200 เมตรและเหรียญเงินประเภท 100 เมตร อายุอานามของเขาตอนนี้ก็ไล่เลี่ยกับตอนที่โบลต์ได้เหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรก

แต่จริงๆจะบอกว่า เดอ กราสส์ เกิดผิดยุคก็คงจะไม่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์นัก เพราะ Sanook! Sport เชื่อว่า ถ้าเขายังรักษามาตรฐานการวิ่งในระดับนี้ไว้จนถึงโอลิมปิกครั้งหน้าได้ เดอ กราสส์ อาจจะเป็นคนที่ทำให้เราได้ยินเสียงเพลงชาติแคนาดาจากสนามแข่งกรีฑา

และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะได้เห็นนักวิ่งทั้งสี่คนนี้ในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันประเภทวิ่งผลัด 4x100 เมตรชายที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 20 สิงหาคม ตามเวลาประเทศไทย

มาติดตามกันว่าในการแข่งขันรายการที่เหมือนกับรวมดาวของวงการวิ่งระยะสั้น ทั้ง 4 คนนี้จะมีใครทาบรัศมีโบลต์ได้หรือไม่?

เรื่องโดย “หนูแพน อินไซต์”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook