อำลา ร็อบบี้ คีน : "แล้วเราจะคิดถึงคุณ!"

อำลา ร็อบบี้ คีน : "แล้วเราจะคิดถึงคุณ!"

อำลา ร็อบบี้ คีน : "แล้วเราจะคิดถึงคุณ!"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กว่าหนึ่งทศวรรษที่อุทิศตนเองให้ชาติบ้านเกิดกระทั่งในที่สุดกาลเวลาของชายผู้นี้ก็เดินทางมาถึงตอนอวสาน นับจากนี้เป็นต้นไป ทีมชาติไอร์แลนด์จะไม่มีนักเตะที่ชื่อ "ร็อบบี้ คีน" อยู่บนสังเวียนอีกต่อไป

"บอกตามตรงว่าผมใจหาย" สตีเฟ่น วอร์ด หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมกล่าวถึงยอดกัปตันหลังเกมนัดอำลา คีน ที่ ไอร์แลนด์ สามารถเปิดบ้านทุบทีมชาติโอมานเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แบบสวยหรู 4-0

"นี่เป็นค่ำคืนที่สุดวิเศษเหลือเกิน มันเป็นคืนที่เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ และ ผมคิดว่าเพื่อนรวมทีมทุกคนก็รู้สึกแบบเดียวกัน พวกเราทุกคนต่างรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมนัดอำลาคีน"

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ วอร์ด ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติครั้งแรก ในตอนนั้น คีน ก็จับจองพื้นที่ในตำแหน่งหัวหอกของประเทศแล้วเรียบร้อย แต่แม้อดีตยอดดาวยิง สเปอร์ส จะเป็นหนึ่งในแข้งทรงอิทธิพลของชาติ

กระนั้น สตีเฟ่น วอร์ด ก็ยอมรับว่า ไม่เคยมีซักครั้งที่ตนเองได้เห็น "ร็อบบี้ คีน" แสดงความเป็นซูเปอร์สตาร์ หรือ กร่าง ออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว

"เขามีคาเรคเตอร์ที่สุดยอดมาก แม้เขาจะสุดโด่งดังในชาติของเรา แต่เขามักทำตัวสบายๆ และ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้าน"

"เขามักจะคอยต้อนรับนักเตะที่ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติใหม่เสมอ เขาทำตัวกลมกลืนกับทุกๆคนไม่มีแม้แต่แสดงความเป็นสตาร์ออกมาแต่อย่างใด"

มิเพียงเท่านั้นหากแต่ คีน ยังแสดงความเป็นผู้นำที่ดีออกมาด้วย สำหรับนักเตะชาวไอริชทุกคนแล้วหากคุณมีปัญหา หรือ พบอุปสรรคหนทางตีบตันจนต้องการหาทางออก

ก็เป็น ร็อบบี้ คีน นี่แหละที่พร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือรุ่นน้องอย่างไม่ลังเล!

"เขาเป็นชายที่พร้อมรับฟังทุกปัญหาของทุกคน เขามักมีเวลาให้ผู้คนเสมอหากพวกเราต้องการ และมักจะถามไถ่ความเป็นอยู่ดีกับสโมสรของเพื่อนร่วมทีม"

"คีน คือชายที่มีความเป็นมืออาชีพ เขาไม่ใช่แค่ตำนานในสนามเท่านั้นหากยังเป็นคนที่แสนดีชนิดยากจะหาคำเปรียบเปรย เขามีช่วงเวลาที่ไม่น่าเชื่อจริงๆตลอดหลายปี ปฏิกริยาที่เขาได้รับในแมตช์อำลากับโอมานนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว"

อย่างไรก็ตามทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันร่ำลา หลังจากเปิดตัวกับทีมชาติมาตั้่งแต่ปี 1998 ถึงตรงนี้ 18 ปีผ่านไป 146 นัดที่ได้รับเกียรติรับใช้ชาติพร้อมกับกระหน่ำซัดไป 68 ตุงก็มากพอที่จะทำให้ชื่อของแข้งวัย 36 ปีนั้นถูกจารึกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดดาวเตะ "ยอดเยี่ยมตลอดกาล"

ที่ครั้งหนึ่งทีมชาติไอร์แลนด์เคยมีมา!

นับจากนี้เป็นต้นไปในเกมนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกที่จะพบกับทีมชาติเซอร์เบียวันจันทร์นี้ชื่อของ ร็อบบี้ คีน จะไม่ถูกปรากฏในลิสต์รายชื่อของ ไอร์แลนด์ อีก

ทีม "ยักษ์เขียว" จะได้ฤกษ์เข้าสู่ยุคใหม่โดยสมบูรณ์ ซึ่ง สตีเฟ่น วอร์ด ก็เชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า ทุกๆคนรวมถึงแฟนบอลไอริชทั้งประเทศต่างก็รู้สึกใจหายไม่น้อยที่จะไม่ได้เห็นยอดตำนานรายนี้โลดแล่นในชุด "เขียว-ขาว" อีกต่อไป

"ผมคิดว่า เขาจะเป็นตำนานคนสุดท้ายที่จะได้รับใช้ประเทศของเราอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ทุกๆคนในทีมที่อยู่ในห้องแต่งตัวต่างเติบโตมาพร้อมกับการรับชมเขาลงเล่นผ่านหน้าจอโทรทัศน์พร้อมกับเป็นแฟนของเขา"

"ดังนั้นการที่วันหนึ่งพวกเราทั้งหมดได้มาลงเล่นร่วมกันกับเขาแบบตัวเป็นๆมันจึงช่างเป็นเรื่องที่สุดคลาสสิกมาก"

สุดท้ายนี้แบ็คซ้ายตัวเก๋ายังเชื่ออีกว่า สถิติดาวยิงสูงสุดของประเทศที่ คีน นั้นทำไว้ถึง 68 ลูกจะคงอยู่ไปอีกหลายสิบปี ในฐานะที่เคยเล่นศูนย์หน้ามาก่อน วอร์ด ย่อมรู้ซึ้งดีว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกดสกอร์เป็นว่าเล่นโดยเฉพาะกับชาติเล็กๆแบบ "ยักษ์เขียว"

ซึ่งบางทีสถิติดาวยิงสูงสุดที่ยอดตำนานรายนี้ทำไว้นั้น

อาจถึงขั้นคงอยู่ "ไปตลอดกาล"

"ในฐานะที่ผมเคยเล่นศูนย์หน้ามาก่อนย่อมทราบดีเลยว่า สิ่งที่ยากที่สุดในการเล่นฟุตบอลนั้นก็คือ เอาชนะกองหลังคู่แข่งพร้อมกับเบิกสกอร์"

"และยิ่งเป็นการเล่นในระดับทีมชาติแล้วมันยิ่งยากมากเข้าไปใหญ่ แต่คุณลองดูสิ่งที่เขาทำไว้สิ!? มันช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ บางทีอาจไม่มีใครทำได้เช่นนี้อีกแล้ว"

"ดังนั้นการที่เขาประกาศรีไทร์ทีมชาติจึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และ ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเรา"

และนี่ก็คือปฐมบทอำลา "ร็อบบี้ คีน" ในนามทีมชาติ จากวันที่เห็นตั้งแต่ยังเป็นเด็กวัยห้าวของ อินเตอร์ มิลาน 10 กว่าปีผ่านไปอดีตดาวเตะ "งูใหญ่" เติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับก้าวขึ้นมาเป็น "ซูเปอร์สตาร์" ลูกหนังของประเทศได้สมใจ

นับจากนี้จะไม่มียอดดาวยิงที่สวมเสื้อเบอร์ 10 อันเป็นเอกลักษณ์ลงโลดเล่นบนสังเวียน "ยักษ์เขียว" อีก บอกตามตรงครับว่า 'สุดใจหาย'

แต่จะทำไงได้!? ก็ในเมื่อชีวิตคนเราก็มีซะเท่านี้ มีขึ้นสุดก็ต้องมีลงดิ่ง, มีงานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกร่า

ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ทำเพื่อ ไอร์แลนด์ และ แฟนบอลมากๆยอดตำนาน...

แล้วเราจะคิดถึงคุณ "ร็อบบี้"!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook