ปีเตอร์ รีด ฮีโร่ของแฟนบอลแต่ผู้ร้ายในสายตาสื่อไทย(บางกลุ่ม)

ปีเตอร์ รีด ฮีโร่ของแฟนบอลแต่ผู้ร้ายในสายตาสื่อไทย(บางกลุ่ม)

ปีเตอร์ รีด ฮีโร่ของแฟนบอลแต่ผู้ร้ายในสายตาสื่อไทย(บางกลุ่ม)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
            ปีเตอร์ รีด ฮีโร่ของแฟนบอลแต่ผู้ร้ายในสายตาสื่อ(บางกลุ่ม)                 สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ผมขอเปลี่ยนแนวมาเขียนเรื่องฟุตบอลไทยบ้าง ตัวผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่บ้าบอลไทยเข้าขั้นพอสมควร ทีมงานทุกคนในรั้วฮอตลีกรู้กันดีว่าถ้าอยากคุยเรื่องบอลไทย ถามหาผมได้เลยเพราะผมชอบมากที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนคอเดียวกัน ในทีมฮอตลีกก็จะมีคุณ เบย์มาเนีย ล่ะครับที่เสวนาเรื่องบอลไทยกันอยู่บ่อยๆ                วันนี้ผมอยากพูดถึง 2 ประเด็น เรื่องแรกคือ ปีเตอร์ รีด กุนซือทีมชาติไทย ชาวอังกฤษ ที่เข้ามาคุมทีมชาติไทยตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว แม้ผลงานของทีมชาติจะพลาดแชมป์รายการที่เป็นเป้าหมายของสมาคมฯอย่าง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ละ คิงส์ คัพ แต่โดยรวมแล้วผมมองว่าทีมชาติไทยดีขึ้นมาก ผมชอบ ปีเตอร์ รีด ที่รู้จักวางระบบการเล่นให้เข้ากับนักเตะทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราได้เห็น ธีรศิลป์ แดงดา เวอร์ชั่นใหม่ ได้เห็นนักเตะหน้าใหม่อย่าง รณชัย รังสิโย หรือ สลาฮูดิน อาแว ก้าวมาติดทีมชาติ กล้าเปลี่ยนตัวผู้เล่นอย่าง ธีรเทพ วิโนทัย หรือ ดัสกร ทองเหลา ออกเพราะเล่นไม่ดีหรือหมดแรงแม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์ของทีม นี่แหละที่เรียกว่าการจัดการแบบมืออาชีพ เขาให้ความสำคัญกับฟุตบอลภายในประเทศคอยเดินทางไปสนามต่างๆ เพื่อดูฟอร์มนักเตะใหม่ๆเสมอ                นี่คือข้อดีทั้งหมดของ ปีเตอร์ รีด ซึ่งในเรื่องของผลงานเท่าที่ผ่านมาผมว่าใช้ได้การมีลุ้นแชมป์ทุกรายการที่ลงเตะ รวมถึงการสู้กับทีมจากตะวันออกกลางอย่าง ซาอุฯ, จอร์แดน หรือ อิหร่าน ได้อย่างสูสี บ่งบอกถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดของทีมชาติไทย อาจจะตัดสินเร็วไปนิดก็ต้องให้เวลาอีกซักระยะเพื่อดูว่า ปีเตอร์ รีด จะทำดีได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่               แต่สิ่งที่ผมเป็นห่วงที่สุดกลับไม่ใช่ผลงานในการคุมทีมของ ปีเตอร์ รีด สิครับ แต่เป็นเรื่องนอกสนามซะมากกว่า วัฒนธรรมของอังกฤษเอามาใช้กับสื่อมวลชนของไทยบางกลุ่มไม่ได้นี่คือความจริงที่ต้องยอมรับ ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าระหว่าง ปีเตอร์ รีด กับ สื่อมวลชนของไทย มีช่องว่างเกิดขึ้นแล้ว ปีเตอร์ รีด มองว่าเขาเป็นโค้ชมีหน้าที่คุมทีมทำผลงานให้ดี ให้นักเตะมีวินัย ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ทุกอย่างผลงานของทีมชาติไทยจะเป็นคำตอบ วัฒนธรรมของเขาเป็นแบบนั้น แต่ที่เมืองไทยไม่ใช่ นักข่าวกับนักเตะรู้จักสนิทสนมกัน และมักจะมีการเข้าไปทำข่าวในระหว่างฝึกซ้อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่ ปีเตอร์ รีด มองว่าแบบนี้จะทำให้นักเตะไม่มีสมาธิในการซ้อม              อีกทั้งเรื่องการให้สัมภาษณ์ลองดูที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศสิครับ ผมประทับใจทุกครั้งกับวิธีการให้สัมภาษณ์ของเขา แต่กับสื่อไทยแล้วรู้สึกอึดอัดใจแทนจริงๆ มีประเทศไหนที่โค้ชต้องมาบอกรายชื่อนักเตะ 11 ตัวจริงให้นักข่าวเอาไปลงก่อนบอลจะเตะ ทีมงานต่างประเทศคู่แข่งของเราเขาไม่โง่นะครับที่จะหาคนมาแปลเพื่อเอาข้อมูลไปวิเคราะห์เกมได้ ซึ่งตรงนี้ ปีเตอร์ รีด ก็ไม่ยอมอยู่แล้ว นักข่าวก็ไม่เข้าใจคิดว่าเล่นตัวเรื่องมากไม่เป็นมิตร ยังมีอีกหลายเรื่องที่สร้างความกดดันให้ รีด อย่างที่ไม่ควรจะเกิด ซึ่งผมไม่ขอกล่าวถึงดีกว่า เพราะจะไปกระทบคนอื่นมากเกินไป แต่ผมอยากจะขอร้องให้คนที่รักบอลไทย ช่วนกันสนับสนุนคนเก่ง มีฝีมือ เพื่อพาทีมชาติไทยก้าวไปหน้ามากกว่ามาคอยขัดขาเลื่อยเก้าอี้กันเองครับ   ลดอุณหภูมิมาพูดเรื่องเบาๆ กันบ้างดีกว่า คราวนี้เป็นเรื่องกองเชียร์บอลไทย ซึ่งผมมองว่ามีหลายประเภท สามารถจำแนกออกมาได้เป็น 3 กลุ่มตามนี้                 1.กองเชียร์แฟนบอลพันธุ์แท้ พวกนี้รู้ลึกรู้จริงทุกอย่าง นักเตะชื่ออะไรบ้าง อายุ บ้านเกิด ต้นสังกัด กระทั่งมีพี่น้องพี่คนยังรู้ไปหมด ส่วนใหญ่จะเชียร์สโมสรท้องถิ่นของตัวเองอยู่แล้วและบางส่วนก็มีโอกาสได้คลุกคลีกับนักเตะด้วย แล้วก็จะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนในการเชียร์บอลไทย กลุ่มนี้ของเขาแรงแต่จริงใจ แต่บางทีก็ดุมากจนน่ากลัวไปสักนิด วลีที่ว่า "ไม่เคยมาดูที่สนาม อย่ามาหยามบอลไทย" ที่ได้เห็นบนสแตนด์เชียร์นัดที่ไทย เสมอกับ อิหร่าน 0-0 บ่งบอกได้ว่าคนพวกนี้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนทีมชาติไทย รวมถึงอยากกระตุ้นให้คนไทยไปดูบอลที่สนามกันให้มากกว่าเดิมด้วย ไม่ว่าจะชนะเสมอแพ้ เบื่อสมาคม ไม่ถูกชะตาโค้ช ไม่ชอบนักเตะบางคน แต่ก็จะคอยสนับสนุนทีมชาติไทยทุกนัดอยู่ร่ำไป และคอยหาทางไปดูในสนามให้ได้  หรือหากดูทางโทรทัศน์ทางช่องฟรีทีวีไม่มีถ่ายทอดสด ก็จะต้องเสาะหาดูผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศ หรือขนาดถึงขั้นเปิดแคมฟรอกถ่ายทอดสดผ่านกล้องจอเล็กๆ กันมาแล้วเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีคนกลุ่มหนึ่งที่รักฟุตบอลไทย ดั้นด้นค้นหาทางดูเกมระหว่างทีมชาติไทยกับเกาหลีเหนือ ในฟุตบอล 3 เส้า T&T คัพที่เวียดนาม เชื่อไหมว่าผมก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามดูจนปวดตาเหมือนกันในวันนั้น -*-              2.กองเชียร์ขาจร กลุ่มนี้คือเชียร์เป็นบางนัด ไม่ได้ติดตามแบบเจาะลึกแบบพวกแรก  ไม่ได้อะไรกับทีมชาติไทยมากมาย ส่วนใหญ่เชียร์เพราะชอบดูบอลเฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นบอลอะไรก็ดูได้หมด ไม่ค่อยไปดูที่สนาม อ้างเพราะไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกในการเดินทาง แต่จริงๆ แล้วอยากดูทางทีวีมากกว่าเพราะมีภาพช้าให้ดูด้วย แถมไม่ต้องเสียเวลาปวดหัวกับรถติด (ซึ่งก็จริงของเค้า) กลุ่มนี้จะเชียร์เป็นนัดๆ มีฟีดแบ็คหลังเกมชอบวิเคราะห์วิจารณ์นักเตะและการวางแผนของโค้ช ด่าบ้างชมบ้างแล้วแต่ผลงาน กองเชียร์กลุ่มนี้ค่อนข้างถือหลักมัชฌิมา เดินทางสายกลาง ไทยแพ้เซ็ง ไทยชนะดีใจ แต่ไม่กี่วันก็เฉยๆ อารมณ์ร่วมค่อนข้างน้อย ดูฟุตบอลเป็นกีฬาแพ้ชนะไม่ใช่เรื่องใหญ่              3.กองเชียร์องุ่นเปรี้ยว พวกนี้มีอคติกับทีมชาติไทยนิดหน่อย เพราะดูทีไรเหมือนหนังชีวิต ชอบทำให้ผิดหวังอยู่เรื่อย ต้นๆเกมมาดีเหมือนจะมีเฮ แต่จบเกมกลับแพ้ซะอย่างนั้น มักจะมีคำพูดหลุดปากประมาณว่า โถ่บอลไทยเล่นได้แค่นี้ดูไปทำไม ดูบอลอังกฤษดีกว่าสนุกกว่าเยอะ ผมมีเพื่อนหลายคนที่อยู่ในกลุ่มนี้ด้วยซึ่งจริงๆแล้วก็แค่ทำปากดีไปงั้นแหละ พอมีถ่ายทอดสดทีมชาติไทยแข่งก็อดไม่ได้ต้องเปิดทีวีดูทุกที พวกนี้ค่อนข้างเชียร์ตามกระแส คือถ้ากระแสแรงพวกนี้เชียร์ด้วย แต่ถ้าช่วงทีมผลงานแย่ก็ไม่ได้สนใจอะไร              ทั้งสามกลุ่มมีแนวทางแตกต่างกันบ้างแต่ก็เป็นคนไทยเหมือนกันและเชียร์บอลไทยด้วยกันทั้งนั้น คุณผู้อ่านล่ะอยู่ในกลุ่มไหนครับ            ขอลาไปเพียงเท่านี้ก่อนครับ หากมีคำแนะนำหรือติชมใดๆ หรือต้องการคุยกันเป็นการส่วนตัวเมลมาคุยกันได้ครับที่ manofthematch@hotleague.com  
**ManOfTheMatch**   ลิงค์ในพันทิพ : http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S7534234/S7534234.html
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook